- Home
- Special Report
- ‘นักรบอาชา’ ที่มี ‘ม้าแก่’ เป็นแกนกลาง และ ‘ม้านอกสายตา’ ที่อาจกลายมาเป็น ‘ม้ามืด’
‘นักรบอาชา’ ที่มี ‘ม้าแก่’ เป็นแกนกลาง และ ‘ม้านอกสายตา’ ที่อาจกลายมาเป็น ‘ม้ามืด’
DST.Special Report : อาจเพราะพวกเขาเพิ่งสัมผัสโอโซนในลีกพระรองเป็นปีแรก และครั้งแรก ทำให้ไม่มีใครยกให้เป็นตัวเต็งที่จะตีตั๋วขึ้นสถานีไทยลีก 1 ในปีหน้า
หรืออาจเพราะการเสริมทัพที่ฉูดฉาด ทำให้แสงไม่แสบหรือสะดุดตา จนดึงดูดความสนใจจากใครได้
แต่หากชำเลืองมองขุมกำลังของ “นักรบอาชา” แพร่ ยูไนเต็ด และมองระยะทางที่ยังเหลืออีกไกลโพ้น คงไม่สามารถจะขีดฆ่าพวกเขาออกจากความเป็นไปได้
4 นัด ก่อนถูกโควิด-19 กระชากหยาดเหงื่อออกจากสนาม และเสียงเชียร์ออกจากอัฒจันทร์ฟุตบอล ทีมของ “แม่เลี้ยงไก่” ศุภวัลย์ ศุภศิริ ควบมาอยู่ที่อันดับ 6 ของตาราง
7 คะแนน สำหรับอาชาตัวนี้ที่ยังเยาว์สำหรับไทยลีก 2 จะว่าไปแล้วก็โสภาพอสมควร อย่างน้อยก็ไม่ใช่สมันให้บรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด สำคัญว่า เป็นเหยื่ออันโอชะ
ขุมกำลังของพวกเขาดูจะพบกันครึ่งทาง ระหว่าง “แข้งเก๋า” กับ “แข้งดาวรุ่ง” โดยมีตัวหลักเมื่อปีก่อนเป็นตัวยืนพื้น
นักเตะที่คอบอลมองว่า เป็น “ม้าแก่” บนลีกสูงสุด กำลังเปลี่ยนสมมติฐานให้เป็นบัญญัติไตรยางศ์ว่า ทีมระดับล่างที่ต้องการทะยานขึ้นมา จำเป็นต้องมีผู้เล่นประเภทชั่วโมงบินสูง
ที่สนามกีฬาเทศบาลทุ่งโฮ้ง “อานนท์ บรรดาศักดิ์” ผู้ได้รับหน้าที่ดีไซน์กลยุทธ์การเล่น เลือกที่จะใช้ “ม้าแก่” เป็นตัวพยุงน้องๆ เพื่อภารกิจที่หลายทีมในไทยลีก 2 ต้องการ
“แพร่” กลายเป็นทีมที่มีอดีตผู้เล่นทีมชาติมากมาย โดยเฉพาะระดับตำนานที่ยังแล่นอยู่บนฟลอร์หญ้า อย่าง “พี่แป๊ะ” พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กับ “พี่หนอน” ยุทธจักร ก้อนจันทร์ สองกองกลางตัวเก๋า ที่อายุรวมกันได้ 75 ปี
หรือขาดอีกแค่ 2-3 ปี พ่อค้าแข้งลายครามก็จะแตะระดับ 40 ปีแล้ว
“พี่แป๊ะ-พี่หนอน” สองผู้เล่นที่ยืนระยะมาได้ด้วยคำว่า “มืออาชีพ” อันเป็นบทเรียนให้นักเตะใหม่ๆ ควรค่าแก่การถอดไปศึกษา
อย่าลืมว่า ทั้งสองคนไม่ใช่ผู้รักษาประตู แต่เล่นในตำแหน่งที่ต้องใช้สมอง-พลัง ในการขับเคลื่อน การยืนอยู่ตรงนี้ได้ไม่ง่ายเลย
เหนือสิ่งอื่นใด “พี่แป๊ะ-พี่หนอน” ไม่ได้มาเพื่อสร้างกระแสฟุตบอลให้กับแพร่ แต่มาพาเพื่อพา “นักรบอาชา” พุ่งชนเป้าหมายคือ ลีกสูงสุด
โดยทั้งคู่ออกสตาร์ทในฐานะ 11 ตัวจริง มากกว่าซุ้มม้านั่งข้างสนาม หรือจะเรียกว่า เอามาใช้งาน ไม่ได้เอามาใส่ตู้โชว์
“พี่แป๊ะ-พี่หนอน” คือ คนที่ทำให้สุภาษิตที่ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ ในทีมยังมีผู้เล่นม้าแก่ อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “เจ้าเอส” พลวัฒน์ วังฆะฮาด อดีตแบ็กขวาทีมชาติไทย และอีกหลายสโมสรบนลีกสูงสุด, “จ่าจ๊อบ” อาสาฬห์ เพ็งบ้านไร่, อดิศร หนูนารถ
ขณะเดียวกัน มีแกนหลักอย่าง “อาทิตย์ ภีระบรรณ” และฟรีคิกๆ เจ๋งๆ อย่าง “อดิศร สัพโส” ซึ่งผสมผสานกับแข้งวัยเก๋าในทีมได้อย่างกลมกล่อม
หลายคนจะกาทีมตัวเต็งไปแล้วจากการเสริมทัพในช่วงรอฤดูกาลรูดม่าน แต่ปีนี้ ขอติด “แพร่” ไว้เป็น “ม้ามืด” หน่อยแล้วกัน.
_____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Phrae United
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th