- Home
- Special Report
- ปลุกกระต่ายให้ ‘ตื่น’ ทวงคืนรากเหง้าอัน ‘เกรียงไกร’ หมดยุคตำน้ำพริกละลายคลองหลวง
ปลุกกระต่ายให้ ‘ตื่น’ ทวงคืนรากเหง้าอัน ‘เกรียงไกร’ หมดยุคตำน้ำพริกละลายคลองหลวง
DST.Special Report : ไม่ต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บว่า ที่นี่ “สเปน” หรือ “ปทุมฯ”
ไม่ต้องไปล้วง แคะ แกะ เกา ว่า สโมสรปล่อย หรือนักเตะหมดใจ
เอาเป็นว่า วันนี้ “อันเดรส ตูเญซ” และ “สารัช อยู่เย็น” เป็นพนักงานภายใต้ “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ถูกต้องสมบูรณ์โดยกฎหมาย
นั่งนับถอยหลังรอ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนังของไทย เดินไปรูดม่านไทยลีกกันดีกว่า
เพราะเห็นการเสริมทัพ ปรับแต่งกำลังพลของแต่ละทีม โดยเฉพาะ “นักเลงคลองเตย” การท่าเรือ เอฟซี กับ “กระต่ายคลอง 3” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แล้วเสี้ยนฟุตบอลลีกอยู่ในระดับสูงสุด
มันตื่นตาตื่นใจกับการที่เห็นบรรดายักษาทั้งหลาย ตะเกียกตะกายที่จะกระชากถ้วยแชมป์ เพราะที่ผ่านมาร่วม 10 ปี มี แค่3 ทีม คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเชียงราย ยูไนเต็ด หิ้วถ้วยไปวางในตู้โชว์ของตัวเองได้
ยิ่ง “ท่าเรือ” กับ “บีจี” เป็นทีมที่มีรากเหง้าและเรื่องราวมายาวนาน นึกแล้วอยากจะเห็นฟอร์มของ “พ่อบุญทุ่ม” ลงไปละเลงเพลงเตะกันเสียวันนี้ วันพรุ่ง
อย่าง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ที่เข้าตลาดงวดนี้ จนทำเลือดของคอบอลไทยสูบฉีดจนแทบทะลุหนังกำพร้าออกมา คงไม่ใช่การตำน้ำพริกละลายลงคลองหลวงเฉยๆ หากแต่ต้อง “แชมป์ลีก” หรือโควตา “บอลเอเชีย” เท่านั้นที่เป็นเป้าประสงค์ หากนอกเหนือจากหนีถือว่า ล้มเหลวกับการลงทุน
หลายคนปรามาส “บีจี” โดยหยิบเอาผลงานปีตกชั้นที่ทุ่มซื้อนักเตะอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายต้องร่วงหล่นมาแซว หากแต่ มันมีความแตกต่างกันในรายละเอียดเยอะ
โดยเฉพาะคุณภาพ “ผู้เล่น” ที่ช้อปเข้ามาเที่ยวนี้ ถือว่า เป็นประเภทชั้นนำ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในทีมได้ ไม่ว่าจะ “สารัช” หรือ “ตูเญซ”
“ตังค์” และ “ตูเญซ” เป็นการอัพเกรด หรือภาษาเกมส์ เรียกว่า ตีบวกความแข็งแกร่งให้กับทีม ไม่ได้เป็นการผ่าตัดใหญ่
ขุมกำลัง “บีจี” ตอนนี้ ทั้งนักเตะใหม่เกรดเอ และแข้งเก่าที่ฟอร์มกำลังดี เป็นเหมือนผัดไทประตูผีที่คลุกเคล้ากันแล้วกลมกล่อม
แต่จะเปรี้ยงหรือไม่ ตอนนี้มันอยู่ที่มันสมองของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ว่า จะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในครัวอย่างไร ให้มันบรรเจิด
มันอาจจะดูเหมือนง่าย เพราะมีวัตถุดิบให้เลือกสรรเยอะเป็นพื้นฐาน แต่ไอ้ที่ว่าง่าย มันก็เคยมีคนตกม้าตายเพราะซุปเปอร์สตาร์เต็มทีมมาแล้วให้เห็น
ยิ่ง “บีจี” เคยมีข่าวทำนอง “เฮดโค้ชของเฮดโค้ช” ให้เราเคยได้ยิน ถ้าฟอร์มไม่ฉูดฉาดสมเม็ดเงินที่ไถหว่านลงไป คนแบก “แรงกดดัน” จะอยู่ที่อดีตดาราเอเชียนี่แหละ
แต่อย่างไรก็ดี อย่างน้อย “บีจี” ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพา “กระต่าย” ตัวนี้ ซึ่งมีสตอรี่ยิ่งใหญ่สมัยเป็น ธ.กรุงไทย ทั้งคว้าแชมป์ลีก
และไปเกรียงไกรมาแล้วในถ้วยเอเชีย ให้ “ตื่น” อีกครั้ง ด้วยการกว้านซื้อนักเตะเกรดพรีเมียมเข้าสู่ทีม ชนิดเปิดตัวราวเสียงระเบิดดัง “ตูม!” สนั่นไปทั่วอาณาจักไทยลีก
ขณะที่ก่อนหนีโควิด-19 พวกเขาฟอร์มดี สถิตอยู่บนหัวตาราง แต่ก็ไม่ได้แอ็กอ๊าก ปล่อยมันไว้แบบนั้น แต่ลุยซ่อมแซม ปรับปรุง ยกเครื่อง ให้แรงกว่าเดิมไปอีก
ว่ากันด้วยพื้นฐาน ขนาด ทุนทรัพย์ พวกเขามีพร้อมมาตลอด แต่ความสำเร็จตั้งแต่เทคโอเวอร์มาเป็น “บีจี” มันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เมื่อมีเพียงถ้วยเอฟ เอ คัพ ในปี 2557 และการไปเล่นเพลย์ออฟบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียในปี 2558
บัดนี้ถ้าจะทำให้ “เงินลงทุน” กับ “ความสำเร็จ” มัน “สมดุล” กัน มันก็ถึงกาลสมควร.
___________
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ BG Pathum | United
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th