อดีต ‘โรนัลโดเลย’ เมื่อสิบปีก่อน สู่อ้อมอก ‘อุทัยธานี’ ยุคนับหนึ่ง

DST.Special Report : สิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมหยุดได้คือ “เวลา”

เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว เรายังเห็น “เจ้าเบิร์ด” วิชาญ นันทะศรี สวมเบอร์ 7 กระชากบอลให้กับ “เลย ซิตี้” บิ๊กเนมลีกภูมิภาค (ดิวิชั่น 2 เก่า) ในตอนนั้นอยู่เลย

สมัยนั้นฝาแฝด “บ๊อบ (วิชา นันทะศรี) – เบิร์ด” สว่างวาบในลีกรากหญ้ามาก โดยเฉพาะ “เจ้าเบิร์ด” ถึงขนาดถูกถูกยกให้เป็น “โรนัลโดเลย” กันทีเดียว

ลีลากระชากลากเลื้อย พลิ้วไหว โดยเฉพาะเวลาสปีด เหมือนกับ “ธันเดอร์เบิร์ด” ที่โฉบเฉี่ยวได้โดยไม่ต้องกระพือ แต่หากได้กางปีกทั้งสองข้างช่วย ความเร็วจะยิ่งคูณทวี

ฟอร์มเฉิดฉายที่เลย ซิตี้ ทำเอาเหล่ายักษ์ใหญ่ในลีกสูงสุด นำโดย “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ้องตาเป็นประกาย

แต่สุดท้ายในปี 2009 เด็กหนุ่มผู้มีเลือดเนื้อเชื้อไขชาวขอนแก่น ตัดสินใจเก็บกระเป๋าเข้ากรุง มาอยู่กับ “ฮัลโหล” ทีโอที เอสซี

“วิชาญ” ไม่ได้เป็นนักเตะที่มีโปรไฟล์หรูหราอะไร เขาเริ่มต้นโดยใช้ “ผืนนา” เป็นสเตเดี้ยมในการฝึกปรือลูกหนังกับ “แฝดผู้พี่”

เล่นด้วย – เรียนด้วย จนติดทีม “มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย” ที่ถือเป็นบันไดขั้นสำคัญที่นำเขาเข้าสู่ความเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ “เลย ซิตี้”

การกระโดดขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุด ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเด็กหนุ่มเจ้าของส่วนสูง 170 เซนติเมตร เพราะที่นี่มีพ่อหนวดงาม “สมชาย ทรัพย์เพิ่ม” จอมให้โอกาสคอยฟูมฟัก

ที่แจ้งวัฒนะ เหมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของ “วิชาญ” เพราะฝีมือที่เขาบรรจงแสดงออกไป ทำให้ผู้คนรู้จักริมเส้นรายนี้มากขึ้น

“เจ้าเบิร์ด” อาจไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ แต่รักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างดีเยี่ยม “รวดเร็ว – เปิดบอลดี – ขยัน – ทุ่มเท” มันจึงทำให้ตกเป็นที่หมายปองของทีมยักษ์ใหญ่อีกครั้ง

เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีกที่ได้ทั้ง “ซ้าย – ขวา”

ประจวบเหมาะกับที่ “ทีโอที” ประสบปัญหาการเงิน เป็น “บีอีซี เทโร ศาสน” ที่แสดงความประสงค์ชัดเจนว่า ต้องการตัว “วิชาญ” กลายเป็นทีมที่สมหวัง

หากแต่ขนาดของทีม ผสมปนเปกับเหล่าซุป’ตาร์ ที่แทบจะเหยียบกันตาย ทำให้ปีแรกของเขากระท่อนแท่น จนที่สุดต้องถูกปล่อยให้ “พัทยา ยูไนเต็ด” หยิบยืมไปใช้งาน

หลังสิ้นสุดสัญญายืมตัวกับ “พัทยา” เขากลับเข้าสู่ทีม “มังกรไฟ” อีกครั้ง แม้จะมีอาการเกร็งกับผู้เล่นดีกรีทีมชาติ แต่ก็ค่อยๆ ยกระดับตัวเองจนเป็นแกนหลักให้กับทีมได้ในที่สุด

การเล่นของ “วิชาญ” อาจจะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ “มาตรฐาน” และ “ความสารพัดประโยชน์” ของเขา เป็นสิ่งที่โค้ชทุกคนปรารถนาอยากจะได้

หลังอาศัยอยู่ชายคา “เทโร” ตั้งแต่ยุคดั้งเดิมจนปรับเปลี่ยนเป็น “โปลิศ เทโร” ถึง 4 ปี เมื่อเลกที่สอง ฤดูกาลที่แล้ว “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล ได้กระชากตัวเขาไปช่วยในปฏิบัติการ “หนีตาย”

แฟนบอลนกใหญ่หลายคนรู้สึกซาบซ่านกับการที่ทีมรักกระชากตัวผู้เล่นรายนี้ เพราะมองว่า เป็นแข้งที่ไม่มีเครื่องหมายคำถามกับความทุ่มเท

แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับโอกาส และจำนวนนัดที่เหลือน้อยไปหน่อย

หลัง “ชัยนาท” ตกชั้น “วิชาญ” ต้องออกเดินทางอีกครั้ง แต่ไม่ไกลจากเมืองนกมากนัก เมื่อ “อุทัยธานี เอฟซี” ที่เทคโอเวอร์จากแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เข้าช้อนเขาในทันที

แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 34 ปี แต่ร่างกายเขาอยู่ในสภาพดีเยี่ยม

และเป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขาย้ายทีม แฟนบอลมักจะถูกใจ ยกให้เป็น “ดีล” ที่ยอดเยี่ยมเสมอ

น้อยครั้ง หรือแทบไม่มีเลย ที่เขาจะมีข่าว “ด้านลบ”

เชื่อเถอะว่า “วิชาญ” จะเป็นผู้เล่นคนสำคัญให้กับ “ทัพลูกพระชนก” ในปีนี้ได้.

___________

เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Uthai Thani FC

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th