แบน 2 เดือนครึ่งตอนปิดฤดูกาล ก็ “กฎ” เขียนไว้แบบนี้

DST.News Report : กลายเป็นเรื่อง “พีคในพีค” อีกครั้งสำหรับวงการฟุตบอลไทย กับโทษแบน “นที ชูสุวรรณ” กรรมการที่เป่าในแมตซ์ชี้ชะตา ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ เอฟซี นัดรองสุดท้ายในลีก ซึ่งจบด้วยชับชนะของเจ้าบ้านด้วยสกอร์ 3-1

แต่ประเด็นที่แฟนบอลวิจารณ์กันให้แซ่ด คือการตัดสินของ “เปานที” ในเกมดังกล่าว อันเป็นที่มาของโทษแบน 2 เดือน 2 อาทิตย์ หรือ 2 เดือนครึ่งนั่นเอง

โทษแบน 2 เดือน มาจากจังหวะที่ไม่เป่าจุดโทษให้การท่าเรือ จังหวะ เซร์คิโอ ซัวเรซ โดน ศศลักษณ์ ไหประโคน ทำฟาล์ว

ขณะที่โทษแบน 2 สัปดาห์ นั้นเกิดจากจังหวะปล่อยให้ฝั่งบุรีรัมย์ ได้เปรียบและเล่นต่อก่อนยิงออกไป แต่ผู้ตัดสินกลับย้อนให้บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกก่อนที่บุรีรัมย์ จะยิงเข้าไปเป็น 3-1

ซึ่งการตัดสิน 2 จังหวะดังกล่าวสร้างความคับข้องใจกับแฟนบอลทีมเยือนอย่างหนัก และยิ่งเหตุการณ์ดังกล่าวดันเกิดในแมตซ์ชี้เป็นชี้ตายของฤดูกาลด้วยแล้วนั้น

จึงเกิดเครื่องหมายคำถามที่เยอะกว่าปกติ นำไปสู่การลงโทษ “แบน 2 เดือน 2 อาทิตย์”

เรื่องตลกที่นอกเหนือจากการที่แฟนบอลหลายคนมองว่า โทษดังกล่าว “เบาเกินไปรึเปล่า”

คือโทษแบนดังกล่าวดันบังคับให้มีผลทันที โดยเริ่มในวันที่ 6 พ.ย. 2562 ลากยาวไป 2 เดือนครึ่ง ท่ามกลางความ “งุนงง” ของแฟนบอลว่า แบนช่วงปิดฤดูกาลแบบนี้เพื่อ???

คำตอบคือ ระหว่างที่โดนแบน “เปานที” จะไม่สามาถไปเป่าในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ได้ตลอดช่วงปิดฤดูกาล แต่พอถึงช่วงเริ่มฤดูกาล 2020 ในเดือน กุมภาพันธ์ปีหน้า กรรมการที่ชื่อว่า “นที ชูสุวรรณ” ก็พร้อมจะสวมนกหวีดมาตัดสินไทยลีก ให้แฟนบอลเสียวไส้อีกครั้งหนึ่ง

สำหรับสาเหตุที่รูปแบบการลงโทษออกมาในหน้านี้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทสมาคมฟุตบอลฯ ได้พูดชัดชัดให้หายสงสัยว่า บทลงโทษดังกล่าวจะเริ่มทันทีที่มีคำตัดสิน การลงโทษนี้ “ระเบียบเขียนไว้แค่ระยะเวลา” ไม่ได้เขียนเป็นจำนวนนัด

ดังนั้นการตัดสิน จึงต้องเริ่มเลยทันที เมือกฎเขียนไว้อย่างนี้ การทำตามเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในสายตาของแฟนบอลแล้ว หากกฎยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป “ช่องว่าง” ตรงนี้ อาจจะกลายเป็น จุดที่ทำให้บางทีมใช้ “กดสูตร” ในเกมนัดท้ายๆของฤดูกาลที่ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ “ลุ้นแชมป์” หรือ แม้แต่เกม “หนีตาย” ก็เช่นกัน

ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่นของวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะผลงานระดับชาติที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่การบริหารจัดการต่างของทั้งสมาคม และสโมสรต่างๆนั้น ก็กำลังเดินหน้าอย่างถูกทาง

เช่นเดียวกับคุณภาพฝีเท้าของนักเตะไทยรุ่นใหม่ที่ขึ้นมา แต่ในขณะที่อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะดีทั้งหมด ปัญหา “ท่านเปา” กลับไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังเสียที

ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นกฎที่สมาคมฯยังใช้อยู่นั้น ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์แย่ๆ ของกรรมการไทย ให้หนักกว่าเดิมอีก

อย่างน้อยๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเปรียบเหมือนกับการจุดพลุ ให้แฟนบอลมองเห็นปัญหาในทางเดียวกันทั้งหมด และเริ่มส่งเสียงวิจารณ์ไปยังสมาคมฯ แต่ทางผู้ใหญ่จะมีการแก้ไขหรือไม่นั้น

ก็แล้วแต่ตัวท่าน แต่หากเกิดเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ขึ้นมาอีก สิ่งดีๆที่ทำมาทั้งหมด อาจจะดูหมองไปเลยก็เป็นได้.

___________

ขอบคุณภาพสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
By ใบไม้ห้าแฉก

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th