- Home
- Special Report
- เนย์ ฟาเบียโน่/การท่าเรือ เอฟซี/การพัฒนาของไทยลีก กับ “มาริโอ เซซาร์ ดา ซิลวา”
เนย์ ฟาเบียโน่/การท่าเรือ เอฟซี/การพัฒนาของไทยลีก กับ “มาริโอ เซซาร์ ดา ซิลวา”
DST.Interview : หนึ่งในกองหลังต่างชาติที่ แฟนบอล “สิงห์ท่าเรือ” การท่าเรือ เอฟซี จำได้อย่างอย่างตราตรึง หากย้อนไปสัก 10 ปีที่แล้ว แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “มาริโอ เซซาร์ ดา ซิลวา” เซ็นเตอร์ฮาล์ฟบราซิลเลี่ยนสุดแกร่ง
เขาอยู่กับทีมมาถึง 4 ปี ก่อนจะย้ายไป “แบ็งค็อก ยูไนเต็ด” ,”ระยอง เอฟซี”,”ขอนแก่น ยูไนเต็ด” ก่อนตัดสินแขวนสตั๊ด และกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด “ประเทศบราซิล”
ล่าสุด เจ้าตัวในวัย 41 ปี ให้สัมภาษณ์กับ DailySoccerThailand ถึงบรรยากาศเก่าๆ ครั้งที่ค้าแข้งในไทย และมุมมองต่อพัฒนาการฟุตบอลไทยลีก ที่เขายังติดตาม
DST: สวัสดีครับ มาริโอ ตอนนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่แขวนสตั๊ดไปแล้ว
มาริโอ: สวัสดีครับ แฟนบอลไทยทุกคน ตอนนี้ผมกลับมาใช้ชีวิตที่บราซิลแล้วหลังแขวนสตั๊ดไปเมื่อเมื่อปี 2015 โดยมีขอนแก่น เอฟซี เป็นสโมสรสุดท้าย ผมยังคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่ได้เล่นในประเทศไทยอยู่ แน่นอนว่าผมติดตามฟุตบอลไทยอยู่หลังจากที่ย้ายออกมา ผมคิดถึงประเทศไทยมากเลยครับ
DST: อยากให้คุณพูดถึงเรื่องที่คุณประทับใจตอนที่ค้าแข้งในประเทศไทยให้เราฟังหน่อย
มาริโอ: ตอนที่ผมมาเล่นในไทยช่วงแรก ตอนนั้นเรื่องมาตรฐานการจัดการ ระบบลีกต่างๆ ยังไม่ได้ดีเหมือนตอนนี้ครับ แต่เท่าที่ผมเห็นสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือ แพสชั่น ของแฟนบอลทุกสโมสรที่ผมเคยเล่นด้วย พวกเขามีแฟนบอลที่เหนียวแน่น แต่สำหรับผม แฟนบอล การท่าเรือ เอฟซี นั้นไม่มีแฟนบอลทีมไหนเหมือนกับพวกเขาเลย พวกเขามหัศจรรย์มาก
เสียงเชียร์ และแพสชั่นของพวกเขาทำให้ นักเตะทุกคนพร้อมสู้ถวายชีวิต ช่วงแรกที่ผมย้ายมา พวกเขายังไม่ใช่ทีมหัวตะราง แต่ไม่ว่าเราจะเจอกับทีมใหญ่ หรือเล็ก และไม่ว่าสกอร์จะออกมาเป็นอย่างไร พวกเขาก็พร้อมที่จะเข้ามาให้กำลังใจพวกเราจนสิ้นเสียงนกหวีด สำหรับผมแล้ว การท่าเรือ เอฟซี เป็นสโมสรอันดับ 1 ในดวงใจของผมเสมอ และผมภูมิใจทุกครั้งที่มีโอกาสสวมเสื้อ การท่าเรือ เอฟซี
DST:วงการฟุตบอลไทยยุคแรก ถึงตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในสายตาคุณ
มาริโอ: หลายอย่างเปลี่ยนไปมากครับ นับแต่ปี 2009 ที่ผมย้ายมาเล่นในไทยเป็นครั้งแรก ลีกฟุตบอลยังไม่มีมาตรฐานเท่ากับช่วงหลัง เช่นเดียวกับเรื่องเม็ดเงิน ทั้งค่าตอบแทน การขายสินค้าที่ระลึก การเซ็นสัญญานักเตะดีๆเข้ามาในลีก สภาพสนาม บรรดานักเตะไทยเองก็เช่นกัน พวกเขามีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นในทุกๆปี ทั้งในเรื่องการรักษาความฟิต การดูแลตัวเอง และคุณภาพที่พัฒนาขึ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้วงการฟุตบอลไทยได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ
“ผมขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจากใจจริงเลยครับ พวกคุณคือส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้เป็นอย่างทุกวันนี้ ทั้งในแง่ของความเป็นมืออาชีพ การพัฒนาศักยภาพทีมที่พวกเขาทำผลงานได้ดี เมื่อเล่นบอลถ้วยเอเชีย พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญกว่านั้นคือ พวกเขามาพร้อมกับสไตล์การเล่นที่สวยงามด้วย”
DST: ระบบการบริหารจัดการทีม สมัยตอนที่คุณเล่นอยู่หากเทียบกับตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
มาริโอ: ไม่ทราบแน่ชัด แต่คิดว่าน่าจะเป็นมืออาชีพมากกว่าช่วงที่ผมเล่นอยู่แน่ๆ อย่างสมัยที่ผมเล่น พวกเขายังไม่เน้นเรื่องการควบคุมโภชนาการ แต่ตอนนี้ต่างออกไป ซึ่งการบริหารจัดการนั้นทุกทีมยกระดับขึ้นมาใกล้เคียงกันทั้งหมด หากคุณไม่ปรับตัว ในระยะยาวคุณย่อมสู้ทีมอื่นไม่ได้แน่นอน เรื่องเหล่านี้ส่งผลต่อผลงานในสนามด้วย หากคุณไม่ดูแลตัวเองดีพอ อาจจะลงเล่นได้แค่ 70 นาที แล้วหมดก็อก แต่ถ้ามีเรื่องนี้มาเสริม คุณสามารถอยู่ในสนามได้ตลอด 90 นาที แต่ผมคิดว่าฟุตบอลไทย ยังมีช่องว่างให้สามารถพัฒนาเรื่องระบบการจัดการให้ดีกว่านี้ได้อีกนะครับ
DST: ในฐานะกองหลัง ผู้เล่นแนวรุกคนไหนที่คุณคิดว่ามีฝีเท้ายอดเยี่ยมที่สุดที่เคยปะทะด้วย
มาริโอ: ผู้เล่นไทยสมัยที่ผมยังเล่นอยู่ แน่นอนว่าต้องเป็น ธีรศิลป์ แดงดา เขาสมบูรณ์แบบในฐานะกองหน้าคนหนึ่ง ทั้งเรื่องสภาพร่างกาย วิสัยทัศน์ การจบสกอร์ และที่สำคัญคือไหวพริบในการชิงจังหวะกับกองหลัง และจนถึงวันนี้เขาพิสูจน์ตัวเองในฐานะว่าที่ตำนานของทีมชาติไทยไปแล้ว
ส่วนของนักเตะต่างชาติ แน่นอนว่า ต้องเป็น เนย์ ฟาเบียโน่ ครับ หมอนี่อันตรายสุดๆ เมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษ เขามีสัญชาตญาณกองหน้าอยู่ในตัว เมื่อบวกกับสภาพร่างกาย และความเป็นมืออาชีพแล้ว ผมคิดไม่ออกเลยว่าช่วงที่เขาพีก จะมีกองหลังคนไหนเอาเขาอยู่ หากอยู่ในสถานการณ์ 1-1
DST:ด้วยศักยภาพของนักเตะไทยตอนนี้ คุณมองว่าพวกเขามีดีพอที่จะยกระดับตัวไปไปค้าแข้งนอกประเทศให้มากกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่
มาริโอ: สำหรับผมการที่ผู้เล่นไทยได้ไปเล่นในเจ-ลีก ญี่ปุ่น นั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจครับ พวกเขามีคูรภาพที่จะไปถงระดับนั้นอยู่แล้ว ผมคิดว่าอีกไม่นาน บรรดาผู้เล่นไทยจะทยอยออกไปเล่นนอกประเทศมากขึ้น แต่ด้วยความทีเป็นวัฒนธรรมตะวันออก บางครั้งอาจมีปัญหาเรื่องการปรับตัว อาการโฮมซิค อะไรแบบนี้
“สิ่งสำคัญอีกข้อคือ พวกเขาต้องมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง พร้อมออกจากคอมฟอร์ทโซน เพื่อพัฒนาตัวเอง หากพวกเขาปรับจุดนี้ได้ การไปเล่นในยุโรปก็มีความเป็นไปได้ครับ ขอแค่สภาพจิตใจคุณพร้อม เพราะเรื่องศักยภาพ เทคนิค หรือความเป็นมืออาชีพนั้น นักเตะไทยมีพร้อมอยู่แล้ว” มาริโอ วิเคราะห์ทิ้งท้าย
__________
ขอบคุณภาพ จาก FB มาริโอ เซซาร์ ดา ซิลวา
By ใบไม้ห้าแฉก
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th