• Home
  • News
  • “อ้าย เค่อ เซิ่น” จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่จะพาจีนไปบอลโลก 2022

“อ้าย เค่อ เซิ่น” จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่จะพาจีนไปบอลโลก 2022

By on September 16, 2019 0 1251 Views

DST.News : ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือดโซนเอเชีย ยกแรกจบลงแล้ว ในส่วนของทีมชาติไทย แม่ว่าจะมีเสียงบ่นเสียดายอยู่บ้าง เมื่อไม่สามารถเก็บได้ 6 แต้มเต็ม จาก 2 นัด

แต่ก็ถือว่าได้ใจแฟนบอลไปไม่น้อย โดยเฉพาะในนัดที่ 2 ที่พวกเขาสามารถบุกยัดเยียดความปราชัยแก่อินโดนิเซียคาบ้านด้วยกสกอร์ 3-0 เก็บ 4 คะแนนจาก 2 เกมแรก

แต่ทีมที่น่าจับตามองที่สุด และได้ประกาศศักดาไปแล้วว่า พวกเขาไม่ใช่ “ไม้ประดับ” ในวงการฟุตบอลระดับนานาชาติอีกต่อไปนั่นคือ “ทีมชาติจีน” ที่โชว์ฟอร์มสวยหรู บุกเข่น “มัลดีลฟ์” ไปแบบหมอไม่รับเย็บถึง 5-0 จากมันสมองของ เสือเฒ่าอย่าง “มาร์เชโล่ ลิปปี้”

แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่าผลการแข่งขันคือ 2 ประตูที่ “เอลเคซอน” หรือ “อ้าย เค่อ เซิ่น” ศูนย์หน้าเลือดบราซิลเลียน 100% ที่ได้ลงเล่นนัดแรกในนามทีมชาติจีนและทำไป 2 ประตู จารึกประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะคนแรกที่ลงเล่นให้ทีมชาติจีนโดยไม่มีเชื้อสายจีนเลยสักแอะ

แม้ก่อนหน้านี้ทีมชาติจีนจะมีโอนสัญชาตินักเตะมาแล้ว 3 รายได้แก่ “นิโก้ เยนนาริส” หรือ “หลี่ เคอ” ,”ไทอัส บราวนิ่ง” และ “จอห์น ฮู เซเตอร์” แต่ทั้งสามล้วนมีบรรพบุรุษที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งแตกต่างกัน “เอลเคซอน” อย่างสิ้นเชิง ตามนโยบายระยะสั้นของสมาคมฟุตบอลยุคใหม่

แม้เจ้าตัวจะเคยถูกเรียกติดธงทีมชาติบราซิลมาก่อน แต่ก็ไม่เคยลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการทำให้เจ้าตัวมีสิทธิย้ายสัญชาติเพื่อเล่นให้กับ ทีมชาติจีนได้ ขณะที่เงื่อนไขที่ทางจีนระบุไว้คือ อาศัยอยู่ในประเทศจีนมาเกินกว่า 5 ปี

ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อเขาย้ายมาหากินในแดนมังกรนับแต่ปี 2013 จากโบตาโฟโก สโมสรในบ้านเกิด

“เอลเคซอน” เป็นเยาวชนของสโมสร “วิตอเรีย” โดยสามารถเล่นแนวรุกได้ทุกตำแหน่ง ก่อนในปี 2011 เจ้าตัวมีโอกาสขยับขยายไปเล่นกับทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง “โบตาโฟโก” เพียงฤดูกาลนิดๆ

ก่อนที่ยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลจีนขณะนั้น อย่าง “กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์” ตัดสินใจคว้าเจ้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสุดเป็นมิตร ที่ 5.7 ล้านยูโร แต่ในส่วนของค่าเหนื่อยนั้นคงไม่ต้องพูดให้เจ็บใจ

ตลอด 3 ฤดูกาล เจ้าตัวฝากผลงานยิงสลุต 59 ประตู จาก 72 นัดในลีก โดยเฉพาะในปี 2014 ที่เจ้าตัวทำไป 28 ประตู จาก 28 นัด ก่อนจะตัดสินใจย้ายไป “เซี่ยงไฮ้ SIPG” อีกหนึ่งทีมแถวหน้าของแดนมังกรเพื่อผนึกกำลังร่วมกับ “ฮัลค์” และ “ออสการ์” ในปี 2016 ก่อนจะทำไปอีก 34 ประตู จาก 69 นัดในลีก จากนั้นเจ้าตัวจึงตัดสินใจกลับมาตายรังกับ “พยัคฆ์แดนใต้” กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ อีกครั้ง

นอกจากจุดเด่น เรื่องการยิงประตูที่คมกริบ และความขยันในการวิ่งหาช่องแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้ตัวสามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ คือ “การหาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษ และการชิงจังหวะสุดท้าย

ที่เขามักจะเร็วกว่ากองหลังของคู่แข่ง 1 ก้าวอยู่เสมอ เมื่อบวกกับสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง ก็ยากที่จะมีกองหลังจีนคนไหนที่หยุดยั้งความร้อนแรงของเขาได้

หากว่ากันปอนด์ต่อปอนด์ โดยนับกองหน้าเฉพาะชาติในเอเชียทั้งหมดในตอนนี้ “เอลเคสัน” นับเป็นหนึ่งในท็อป 5 กองหน้าที่ดีที่สุดในเอเชีย เมื่อบวกกับ 2 ขุนพลขนาบข้างอย่าง “อู่ เล่ย” ปีกของ เอสปันญอล และ “เหว่ย ซื่อ ฮ่าว” ปีกของ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ที่ช่วยเสริมบารมีให้ “ขุนพลแดนมังกร” เป็นหนึ่งในชาติที่มีแนวรุกน่ากลัวที่สุดในเอเชีย

ปี 2002 คือครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ที่ทีมชาติจีนมีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลก แต่ต้องอย่าลมืว่าในครั้งนั้น 2 ชาติมหาอำนาจลูกหนังอย่าง เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพร่วม

ทำให้มีโควตาว่างขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพนั้น สถานการณ์นั้นค่อนข้างคล้ายกับเมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่น้อย แต่ว่าพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่นั้นเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ

ที่แน่นอนที่สุดคือ ตอนนี้คงไม่มีชาติไหนในเอเชียกล้าประมาท แนวรุกของพวกเขาอีกแล้ว.

_____________

By ใบไม้ห้าแฉก

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *