- Home
- Special Report
- รูป รส กลิ่น เสียง แห่ง ‘เสนายันเก่า’ / ชื่อนี้นึกถึง ‘ชาญชัย เขียวเสน’
รูป รส กลิ่น เสียง แห่ง ‘เสนายันเก่า’ / ชื่อนี้นึกถึง ‘ชาญชัย เขียวเสน’
DST.Special Report : 11 ปีแล้วสินะ หลังจากประตูชัยของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทัพช้างศึก เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ในปี 2008 พวกเราต่างเดินคอตกคอพับกันออกจาก “สนามเสนายันเก่า” แห่งนี้มาโดยตลอด
ที่ผ่านมาเราอาจให้ความสำคัญในการเจอกับ “ทัพดาวทอง” จนมองข้ามชาติอื่นๆ ในอาเซียนไป ว่าไม่ใช่ทีมที่จะสร้างความลำบากให้กับ “ทัพช้างศึก” สักเท่าไหร่
ทั้งที่จริง “อินโดนีเซีย” ที่เราจะเจอในวันนี้ ไม่ได้ด้อย หรือยิ่งหย่อนไปกว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – เวีดนาม – มาเลเซีย” ที่อยู่ในกลุ่มเราเลยแม้แต่น้อย
บางคนอาจมองว่า “ยูเออี” กับ “เวียดนาม” คือ ศัตรูตัวฉกาจที่หากเราผ่านไปได้ ตั๋วสู่รอบถัดไปจะเปิดอ้า ประหนึ่งว่า “อินโดนีเซีย” และ “มาเลเซีย” เป็นเพียงแค่ไม้ประดับในแจกัน
แต่ในสภาพความเป็นจริง ต่อให้วันนี้ “ช้างศึก” ไม่อยู่ในช่วง “ขาลง” เราก็ไม่เคยผ่าน “อิเหนา” กับ “เสือเหลือง” ไปได้ง่ายๆ สักที
สารภาพตามตรง ตอนที่รู้ว่า เราจะต้องไปเล่นเกมเยือนที่ “อินโดนีเซีย” และ “มาเลเซีย” พลันวิตกจริตถึงวันวานในอดีตเสียเต็มประดา
นั่นเพราะ “สถิติ” ของเราเวลาลงเล่นในสนามของ 2 ชาตินี้ไม่ค่อยโสภาเอาเสียเลย โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นต่อหน้ากองเชียร์พวกเขาในสนามคือ “เสนายันเก่า” ของอินโดนีเซีย และ “บูกิต จาลิล” ของมาเลเซีย
บรรยากาศการเชียร์ใน 2 สนามแห่งนี้ อยู่ในระดับ “กดประสาท” ผู้เล่นฝั่งทีมเยือนอย่างมาก ชนิดว่า จิตไม่แข็ง หรือสติหลุด เราอาจอยู่ในสภาพ “เละ” ออกมาได้
ไม่ได้บอกว่า มันน่ากลัว เพื่อทำลายขวัญของนักเตะตัวเอง หากแต่กำลังสื่อว่า มันจะเป็นเกมที่ยาก ซึ่งสาวกช้างศึกจะต้องเป็นลมใต้ปีกให้ “ทีมของเรา” ผ่านมันไปให้ได้
“Gelora Bung Karno Main Stadium” หรือ “เสนายันเก่า” คือ “นรกทีมเยือน” ขนานแท้ เกมระหว่างอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่เพิ่งจบไปนั้น แสดงให้เห็นว่า นิยามคำนี้มันไม่ได้อยู่ที่ “ขนาด” ของสนาม และปริมาณ “กองเชียร์การูด้า”เท่านั้น
หากแต่มันยังมาในรูป รส กลิ่น เสียง!
ผู้เขียนเชื่อว่า ที่สุดเราจะผ่านมันไปได้ และมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับนักเตะชุดนี้ ประหนึ่งว่า เมื่อ “เสนายันเก่า” ทำอะไรเราไม่ได้ ในนัดที่จะไปเล่นใน “บูกิต จาลิล” ของมาเลเซีย ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว
ต่อให้สถิติของเรา เวลาลงเล่นทั้ง 2 แห่งในช่วงหลังๆ ไม่ดีก็ตาม แต่นั่นคือ “อดีต”
อย่างไรก็ดี พูดถึง “เสนายันเก่า” ทีไร ภาพชายคนหนึ่งก็อยู่ในมโนสำนึกแรกทุกครั้ง “ชาญชัย เขียวเสน” ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย ผู้กระซวกตาข่ายอินโดนีเซีย ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์ เมื่อครั้งที่ 19
แมตซ์นั้น เราชนะ แต่ผู้เล่นทีมชาติไทย และแฟนบอลไทย เสมือนอยู่ในสมรภูมิรบ และวงล้อมของกองเชียร์อินโดนีเซียผู้บ้าคลั่ง
พลุ ขวด ก้อนหิน ตลอดจนการเผาสนามของกองเชียร์เจ้าภาพในวันนั้น สามารถเรียกว่า มันคือ จลาจลในสนามฟุตบอลดีๆ นี่เอง
ต้องชมผู้เล่นชุดนั้น ที่อดทนอดกลั้น และฟันฝ่านรกขุมนั้นกันมาได้ จนคว้าเหรียญทอง ช็อตติดตาจนถึงวันนี้ คือ นาทีที่ “แบดบอย” ชาญชัย เขียวเสน วิ่งดีใจหลังพังประตู “อิเหนา” ได้
บ้าไปกว่า พิกัดที่ “ชาญชัย” นั่งดีใจ ดันเป็นบริเวณกองเชียร์เลือดร้อนของอิเหนา
วัสดุสารพัดชนิด จนไม่สามารถบรรยายเก็บรายละเอียดได้หมด ถูกเขวี้ยงลงมาตรงจุดที่ “ชาญชัย” นั่งชูมือดีใจกับเพื่อนร่วมทีม
แต่วินาทีนี้ ความดีใจ และสะใจของ “ชาญชัย” ที่ระเบิดออกมา มันได้บดบังความกลัวออกไปทั้งหมด
เชื่อว่า หลายคนก็จำเหตุการณ์วันนั้นได้ และเมื่อพูดถึง “เสนายัน” ภาพ “ชาญชัย” ก็ลอยมา
หลังเกมวันนั้น ลูกทีมของ “ปีเตอร์ วิธ” เฮดโค้ชยอดฝีมือ ออกจากสนามด้วยความซะใจ วันนี้ลูกทีมของ “นิชิโนะ” ก็จะเดินออกมาในฟิลลิ่งเดียวกัน.
_________
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th