- Home
- Special Report
- 100 เมตรสุดท้ายของ ‘ม้าตีนปลาย’
100 เมตรสุดท้ายของ ‘ม้าตีนปลาย’
DST.Special Report :ไม่เกี่ยวแต่จะเปรียบ! ไม่รู้ใครเคยกล่าวไว้ว่า “นาโปเลียน” ใช้เวลานอนบนหลังม้าแค่วันละ 15 นาที จนทำให้ประสบความสำเร็จในสงคราม
ขณะที่ “โกปี้” พงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ ประธานสโมสร “ม้าคะนองศึก” แพร่ ยูไนเต็ด ให้เวลานักเตะพักเบรกเลกแรกเป็นเวลา 14 วัน
แต่ปรากฏว่า มีแข้งของ “ม้าคะนองศึก” หลายชีวิต กลับไม่ถวิลหาความเริงรมย์ในช่วงปิดเทอม เพื่อไปอาบแดด หรือ เดินช็อปปิ้ง อยู่กับลูก กับเมีย แต่หิ้วสตั๊ดเข้าสนามซ้อม
มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในตัวนักเตะที่ทะเยอทะยานกับเป้าหมาย ไปอวดเกือกใน “ลีกพระรอง”
ทุ่มเทเป็น “ต้นทุน” แต่กองกำลังที่มีแสนยานุภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญเฉกเช่นเดียวกัน โดยในช่วงตลาดเปิดรอบสองที่ผ่านมา ผู้บริหารแพร่ ยูไนเต็ด เปิด “คลัง” หอบเงินไปสู่ขอนักเตะมาสวมเครื่องนุ่งห่ม “ม้าคะนองศึก” หลายคน
แล้วไม่ได้ซื้อแบบเหวี่ยงแห แต่แพร่ ยูไนเต็ด ทำการบ้านมาว่า ในเลกแรกพวกเขามีปัญหาอะไรที่ต้องปรับจูน ก่อนกรำศึกต่อในเลกที่สอง
ตลาดนักเตะของแพร่ เน้นไปที่แข้งวัยเก๋า พรรษาบนลีกสูงสุดเยอะ ไม่ว่าจะเป็น “ชลขาโหด” ชลทิตย์ จันทคาม อดีตเซนเตอร์แบ็กทีมชาติไทย วัย 33 ปี “เจ้าเอส” พลวัฒน์ วังฆะฮาด แบ็กขวาชั่วโมงบินสูง ที่ไปเอามาจาก “ช้างขาวชาวเกาะ” ตราด เอฟซี “วุฒิพันธ์ พันธะลี กองกลางลายครามจากอยุธยา ยูไนเต็ด รวมไปถึงไปการดึง “สามารถ ปัญญา” กลับมาสู่ถิ่นทุ่งโฮ้งอีกคำรบ
ในสถานการณ์ที่ต้องเน้นทุกเกม ละเมียดทุกแผนการ เพื่อชิงตั๋วลีกพระรองในปีนี้ การดึงผู้เล่นที่อยู่ในช่วงบั้นปลายค้าแข้ง มาประคองน้องๆ ไม่ให้ไขว้เขว หรือจิตหลุด กับสภาวะกดดัน
ถือเป็นสิ่งที่หลายทีมทำแล้วประสบความสำเร็จ แม้ไม่มีบัญญัติไตรยางศ์ใดๆ มารองรับก็เหอะ
ผลงานในเลกสอง เป็น พยานที่ม้าคะนองศึก “ให้การ” กับแฟนบอล
แพร่ ยูไนเต็ด เหมือน “ม้า” ได้น้ำ ได้หญ้า และสารอาหารที่ถูกจริต พวกเขาคึกคักอย่างมากตลอดเลกสอง จนถึงตอนนี้ กลายเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ไทยลีก 3 ตอนบนกับ “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด เต็มตัว
ในจังหวะที่ “จงอาง” อ่อนแรง เสมือนงูกำลังลอกคาบ “ม้า” ตัวนี้ กลับตะเบิ่งควบไปข้างหน้า ราวกับมีสปริงติดที่ขาหลังสองข้าง
ตั๋วไทยลีก 2 ในฐานะแชมป์ ที่ “ขอนแก่น” เหมือนจะทำม้วนเดียวจบได้ กลายเป็นว่า นาทีนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เสี่ยงที่ “แพร่” จะกลายเป็น “ม้าตีนปลาย” ได้เหมือนกัน
นับแต่แพ้อ่างทอง เอฟซี ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 1-0 หลังจากนั้นเป็นต้นมา “ม้าคะนองศึก” ลงเล่นราวกับ “จู่ลง” ควงทวน ฝ่าวงล้อมกองทัพของโจโฉ
พวกเขาชนะ บางกอก เอฟซี 1-0, ชนะอยุธยา เอฟซี 2-0, ชนะลำพูน วอริเออร์ 3-1, ชนะเชียงราย ซิตี้ 4-0, ชนะกำแพงเพชร 2-0 และนัดล่าสุดถล่ม 4-0
5 นัดรวด ทำให้ “แพร่” ยืนอยู่ตรงนี้ และแสดงความประสงค์ชัดว่า ไม่ต้องการไปเตะเพลย์ออฟ แย่งตั๋วกับรองแชมป์ไทยลีก 3 ตอนล่าง
นักเตะของแพร่ หลายคนก็ดันทะลึ่งมาอยู่ในฟอร์มที่ดีกันตอนสถานการณ์ล่อแหลม ไม่ว่าจะเป็นแข้งต่างชาติ “เวลลิงตัน สมิธ” หรือแดนกลางชาวไทยอย่าง “อาทิตย์ ภีรบรรณ” ที่เล่นได้เนียนตา โชว์ลีลาน่าพิสมัยในสนาม
100 เมตรสุดท้ายกับ 4 นัดที่เหลือ ไทยลีก 3 โซนบน จะ “ม้า” หรือจะ “งู” ตอนสิ้นเสียงนกหวีดครบ 90 นาทีในนัดสุดท้ายกันนะ.
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : แพร่ ยูไนเต็ดฟุตบอลคลับ
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th