- Home
- Special Report
- 10 ปีแล้วที่ถ้วยแชมป์อยู่แค่ ‘เมืองทอง – บุรีรัมย์’
10 ปีแล้วที่ถ้วยแชมป์อยู่แค่ ‘เมืองทอง – บุรีรัมย์’
DST.Special Report : ถึงตรงนี้ ผ่าน 21 นัดของฤดูกาล เชื่อว่า หลายคนยังไม่กล้าฟันธงว่า หลังสิ้นเสียงนกหวีดนัดที่ 30 ของไทยลีก 1 ถ้วยของแชมป์ จะตกเป็นของสโมสรใด
หรือแม้แต่ 3 ทีมสุดท้ายจากก้นตาราง ใครจะเป็นผู้โชคร้ายที่ต้องลงไปเล่นลีกพระรองในปีหน้า เพราะสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด
แต้มแต่ละทีม นับแค่อันดับ 16 อย่าง “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี ถึง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อันดับ 9 มีช่องว่างห่างกันแค่ 10 แต้ม
ในทางทฤษฎีถือว่า ไม่ขาด เมื่อเทียบกับปริมาณนัดที่เหลือถึง 9 แมตซ์
ที่สำคัญ เชียงใหม่ เอฟซี และ “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี อันดับ 15 ที่มีอยู่ 20 แต้ม และฟอร์มระยะหลังเริ่มกระเตื้อง เตะน้อยกว่าทีมอื่นๆ อยู่ 1 นัด ซึ่งทั้งคู่จะต้องตัดแต้มกันเองในปลายเดือนสิงหาคม
ขณะที่อันดับ 14 อย่าง “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ตกมาอยู่ในโซนแดงเป็นครั้งแรก หลังฟอร์มสะดุดหลายนัด พวกเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในขั้นเลวร้าย เมื่อมี 23 แต้ม
เท่ากับ “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมอันดับ 13 และ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 12
เรียกว่า การลดจำนวนทีมเหลือ 16 ทีมในฤดูกาลนี้ ทำให้พื้นที่โซนแดงเปิดกว้างพอสมควร และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุกสัปดาห์
หากทีมใดที่แต้มปริ่มน้ำด้านบนสะดุดลง
ดังนั้น จะพูดกันจริงๆ ใน 9 นัดที่เหลือ ตั้งแต่อันดับ 7 อย่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เรื่อยลงมาจนถึงท้ายตาราง ไม่ได้อยู่ในอาการหายใจทั่วท้องได้เลย
ขณะที่ด้านบนของตาราง จากเลกแรกที่ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี และ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขม่นกันเพื่อแย่งบัลลังก์จ่าฝูง
แต่นาทีนี้ พิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้มีแค่ 2 ทีม ที่มีลุ้น
“กว่างโซ้งพิฆาต” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ เป็นตัวเต็งในรายการถ้วยมากกว่าฟุตบอลลีก ผงาดขึ้นจ่าฝูงปาดหน้าทุกทีม หลังเปิดบ้านกระหน่ำหมัดใส่แชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ไปเละเทะ 4-0
แต่ไม่มีใครการันตีว่า เชียงรายจะ “อยู่ยาว” หรือ “ชั่วคราว”
เพราะแหงนไปมองข้างหลัง อันดับ 2 อย่างบุรีรัมย์ ตามพวกเขาอยู่แค่แต้มเดียว อันดับ 3 อย่างการท่าเรือ ตามอยู่ 3 แต้ม และอันดับ 4 สมุทรปราการ ซิตี้ ตามอยู่ไม่ห่าง 4 แต้ม
เกมนัดที่ 22 หากเชียงรายพลาด และบุรีรัมย์หายจากอาการเมาหมัดเร็ว จ่าฝูงก็อาจเปลี่ยนได้อีก
แต่ไม่ว่าอย่างไร ฤดูกาลนี้ถือว่า ผู้ชมเป็นคนที่ “คุ้ม” ที่สุด เพราะการเหลือ 16 ทีม ทำให้ได้รับชมฟุตบอลคุณภาพ แต่ละทีมไม่มีใครเป็นหมูในอวย
ทีมใหญ่สะดุดเพราะทีมเล็กก็บ่อย ไม่มีใครตีตั๋วท็อปฟอร์มแบบยาวๆ ได้เลย ดูอย่าง “ช้างขาวเจ้าเกาะ” ตราด เอฟซี หรือ “พลังเพลิง” พีทีที ระยอง ที่ฮ็อตอยู่ดีๆ ช็อตเอาดื้อๆ
ชลบุรี เอฟซี ของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เล่นแบบ Back To Basic เน้น “ชราชล” กลับโชว์ฟอร์มดีเอาๆ แต่ก็แหละ ยังไม่รู้จะติดลมบนยาวๆ เลยหรือไม่
ฤดูกาลนี้ ไม่มีทีมไหนเป็น “โรงทาน” เที่ยวไล่แจกแต้มเรี่ยราดเหมือนแต่ก่อน อีกประการคือ ไม่มีใครยำเกรงศักดินาทีมใหญ่
กำไรๆ ล้วนๆ จริงๆ
ซึ่งไหนๆ ก็ไหน พูดแบบอคติส่วนตัว มันสูสีคู่คี่ขนาดนี้ ปีนี้ขอแชมป์หน้าใหม่ได้มั้ย?
อย่างน้อยมันจะทำให้บอลลีกบ้านเรามีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น หรือบางทีหลายทีมอาจจะตื่นตัวหรือฮึกเหิมกว่านี้
10 ปี แล้วนะที่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เล่นเก้าอี้ดนตรีกันอยู่ 2 ทีม.
____________________
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th