
จุดเริ่ม จาก “ป๋าดัน” มีวันนี้ เพราะ มุ่งมั่นตั้งใจ : เปิดใจ “เจ้ามด-สุทิน” ดาวซัลโว หัวหิน ซิตี้
DST.Exclusive : เป็นทีมในรายการ “ออมสินลีก2019” ที่ต้องจับตาพัฒนาการเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ “หัวหิน ซิตี้” ที่ตอนนี้ สถิติรั้งโซนหัวตาราง ของโซนตะวันตก
ทีมนี้มีสถิติเกมรุก วัดจาก สถิติการยิงประตู รวมในเลกแรก ทั้งหมด 28 ประตู และผู้ที่ยิงประตู Top สูงสุดของทีม คือ “เจ้ามด” ส.ต.ต.สุทิน เอี่ยมสะอาด กองหน้าวัย 29 ปี ที่ซัดไป 7 ประตู และ ปัจจุบัน ติดอันดับดาวซัลโวโซนตะวันตกด้วย
ใช่นะ เราเขียนไม่ผิด “เจ้ามด” หรือ “จ.ต.ต.สุทิน” นักเตะอาชีพ พ่วง อาชีพ “ข้าราชการตำรวจ”
เขานี่ เปิดเกมรุก ทั้ง “ฟุตบอล” และ “การงาน” แบบไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง

แต่เชื่อไหม ? ที่เอาดีได้ขนาดนี้…เพราะ “ป๋าดัน”
“พ่อผมเป็นครูพละที่โรงเรียนศิริวังวิทยาคาร ย่านหนองจอก เขาเคยฝันว่าอยากเป็นนักฟุตบอล แต่ทำได้ดีสุด คือ เป็นครูสอนพละ ดังนั้นผมจึงเป็นเหมือนตัวแทนของพ่อที่จะทำความฝันของพ่อให้เป็นจริงครับ” เจ้ามด เกริ่นเรื่อง
กับความฝันของ “พ่อ” ที่อยากเป็นนักเตะ แต่ชะตาของชีวิต ไปได้ไม่ถึง แน่นอนว่า “เจ้ามด” คือ “ลูกที่ถูกฝากความหวัง” ดังนั้นเมื่อถึงวัยที่ “เจ้ามด” พอจะสอนฟุตบอล “ป๋าสุรสิทธิ์ เอี่ยมสะอาด” จึงดันสุดตัว ทั้งพาไปเรียนรู้วิชาฟุตบอล ทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพฟุตบอล พาไปซ้อมทุกเย็น เพื่อหวังว่า ลูกชาย จะซึมซับและเป็นคนที่พาความฝันของพ่อ ไปถึงจุดหมาย
“ตอนเด็ก ผมไม่รู้ว่าชอบฟุตบอลหรือเปล่านะครับ (หัวเราะ) แต่ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับ พอโตมาหน่อย พ่อพาเข้าโรงเรียนอะคาเดมี่ฝึกฟุตบอลเป็นเรื่องเป็นราว พออายุครบขวบปีที่เขาเปิดคัดนักเตะเยาวชนทีมชาติ พ่อก็พาผมไป แต่ไม่เคยได้รับโอกาสสวมเสื้อที่มีธงทีมชาติปักที่อกเสื้อสักครั้ง ไปไกลสุดก็รอบคัดตัวสุดท้ายทุกที”
ความ “ไม่สำเร็จ” ที่เกิดขึ้นเขาไม่เคยถอดใจ รวมถึง “ป๋า” ยังไม่เลิกดัน เพราะในที่ที่เปิดโอกาสและเขาคว้าตั๋วนั้นมาได้ ทั้งเขาและพ่อต่างทุ่มสุดกำลัง
จากประสบการ์เด็กฝึกในอะคาเดมี่ ย่านหนอกจอก และในพื้นที่แห่งนั้น คือ สถานที่เก็บตัวแข้งทีมชาติ โอกาสที่ได้ ใกล้ชิดดาวยิงทีมชาติ ในแคมป์เดียวกัน “เจ้ามด” ได้เห็นการซ้อมและเกมแข่งขัน ทำให้ความมุ่งมั่นในเกมฟุตบอล กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้
จากความมุ่งมั่น กลายเป็นความทะเยอทะยานที่อยากเป็นนักบอลอาชีพ ได้ติดทีมชาติ และเล่นลีกอาชีพอย่างใครเขาบ้าง
จากเด็กปั้น ที่ป๋า ดัน เข้าสู่วัยที่ต้องเผชิญโลกกว้าง ภายใต้โรงเรียนชื่อดังด้านฝึกนักเตะ ของ จ.ชลบุรี และไปเอาดีมากขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย “เกษมบัณฑิต” จากประสบการณ์ที่สะสม ทำให้ “เจ้ามด” ก้าวเข้าสู่ทีมระดับอาชีพในที่สุด
“ผมสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เพราะอยากได้ทุนเรียนฟรี และที่สถาบันเขามีส่งทีมแข่งระดับดิวิชั่นสอง ผมได้เข้าไปเล่นบอลอาชีพ ตั้งแต่อยู่ปี2 แต่พอปี 3 ผมย้ายสังกัดทีมอาชีพ เพราะที่เกษมบัณฑิตเขาให้สัญญาเพียงปีเดียว ตั้งแต่เล่นอาชีพ รู้สึกว่าจะย้ายไป 7ทีม ตั้งแต่ เกษมบัณฑิต ไป กรมศุลกากร ไป สมุทรปราการ เอฟซี ก่อนกลับมาที่ศุลกากร ไปต่อที่สมุทรสงคราม เอฟซี ต่อด้วยเพชรบุรี เอฟซี , หัวหิน ซิตี้, บีอีซี เทโร, อินเตอร์ พัทยา ก่อนกลับมาที่ศุลกากร อีกครั้ง คือ ย้ายแบบรายปีเลยครับ”

กับความสำเร็จ ที่สุดของเขา เห็นจะเป็น ตอนอยู่ “หัวหิน ซิตี้” เพราะทำผลงานส่วนตัวดี ยิงเยอะ และ พาหัวหินฯ ได้แชมป์โซน
“ทุกปีที่ผมย้าย ถือเป็นช่วงที่ยากลำบาก พอดู เพราะต้องปรับตัวให้เข้าทีม และเพื่อนร่วมทีม ส่วนตัวผมเป็นคนขี้อายครับ ไปเจอคนไม่คุ้น จะไม่กล้าเล่น ติดเกรงใจ เล่นผิดฟอร์มของตัวเอง แต่พอย้ายทีมบ่อยเข้า ก็เริ่มจับจุดได้ว่า ต้องปรับตัวอย่างไรให้เร็ว และรักษาฟอร์มของตัวเองให้ดี เพราะหากยิ่งปรับตัวได้ช้า ผมยอมรับว่ากระทบต่อผลงานในสนาม แต่ทุกเกมผมคิดเสนอว่า เป้าหมายในแต่ละนัด ต้องทำให้เต็มที่ไว้ก่อน เหมือนที่พ่อผมสอนไว้”
แต่กับความพยายามที่มุ่งมั่น…เป็นอันถึงจุดที่ไม่ “ไม่ต่อ”
เมื่อเขาตัดสินใจเปลี่ยนเข็มชีวิต คว้า “อาชีพ” ข้าราชการตำรวจที่มั่นคง จากการแนะนำของ “ป๋า” อีกคน
“พ่อตาผมรับราชการ ท่านจึงบอกให้ผมไปไปสอบเป็นตำรวจ และผมทำได้ ตอนนี้สังกัดตำรวจพลร่ม ฝ่ายอำนวยการ ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคิริขันธ์ ผมหายไปจากโลกของฟุตบอล ถึง 2 ปี จนหน้าที่ การงานลงตัว และต้นฤดูกาล 2018 ทีมหัวหินซิตี้ ต้องการนักเตะเข้าทีม เวลาที่ผมมี มันลงตัว แบ่งเวลาได้ ไม่กระทบกับงานราชการ จึงขอต้นสังกัด ไปเตะฟุตบอลอาชีพ”

กับการจัดการชีวิต เพื่อรับผิดชอบใน “หน้าที่” และ “สิ่งที่รัก” แบบไม่ขาดตกบกพร่อง ถือเป็นหัวใจ ที่ “เจ้ามด” ยึดถือและความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ ที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาได้รับ รางวัลการันตี ที่ตอนนี้ ขึ้นแท่นดาวซัลโวประจำโซน
แบบนี้ เรียกว่า คนมีของ …แน่นอน?
“ผมไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าหลัก ส่วนใหญ่จะเล่นกลาง และริมเส้น ใช้การหาจังหวะ ที่ผมได้จังหวะดี เพราะ กับการขึ้นแท่นดาวซัลโวที่ผมได้ ผมต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีม คือ การช่วยของเพื่อนร่วมทีม ที่ค่อนข้างรู้ใจและเข้าใจกัน”
ส่วนเคล็ดลับความสำเร็จที่ “เจ้ามด” ได้มานั้น เจ้าตัวบอกว่า ไม่มีเคล็ดลับ เพียงแค่ เป็นคนมีปัจจัยที่เกื้อหนุน ทั้ง พละกำลัง, ทักษะ หรือ เบสิค ส่วนตัว รวมถึง ทีมเวิร์ค
“ฟุตบอลมีเกมที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ คือ มีแพ้ มีเสมอ และ มีชนะ เป็นปกติที่บางเกมจะเจอความผิดหวัง และสมหวัง แพ้ชนะปกติ ถ้าชนะ ต้องมาดูว่า เป็นเพระาอะไร แล้วรักษารวมถึงพัฒนาต่อยอด หากเกมไหนแพ้ ต้องใช้ความเข้าใจ และคิดให้ได้ว่า ข้อบกพร่องอยู่ตรงไหน พัฒนาซ่อมแซมต่อไปอย่าได้หยุด แม้เกมที่แพ้ พวกเราจะเสียใจและเสียดาย แต่ต้องลุกขึ้น พร้อมลุยในนัดต่อไป เพราะเกมฟุตบอล ไม่มีเวลาให้ท้อถอย”

กับเป้าหมายของเส้นทางฟุตบอลอาชีพ เจ้ามด หวังยืนระยะให้ได้นานที่สุด และหากถึงวัยที่ต้องปลดเกษียณ เขายังอยากเป็น “โค้ชฟุตบอล” ตามรอย “ป๋า” ที่คอยสอนและให้โอกาสเขา
สุดท้าย “เจ้ามด” ยังฝากข้อคิดดีๆ ถึง “น้อง” ที่ตามหาโอกาส
“โอกาสเยอะมาก การเล่นฟุตบอลคือสิ่งที่ให้โอกาสมากที่สุดในชีวิต ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้เล่น ขอให้ทำให้เต็มที่ ทั้งตอนซ้อม ตอนแข่ง นอกจากนั้นคือ การศึกษาวิธีการเล่นที่ถูกต้อง แม้วันนี้หลายคนยังเฝ้าตามหาโอกานั้น เมื่อเราได้พยายามอย่างเต็มที่ ความสำเร็จที่ตามหาจะเกิดขึ้นได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะโอกาสที่ดีที่ที่สุด คือการได้พยายามอย่างเต็มที่ตั้งแต่จุดเริ่มต้น”
ขอบคุณ สโมสรหัวหินซิตี้, บีอีซี เทโร, FB สุทินเอี่ยมสะอาด
By BlackSugar
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th
