รู้จัก “ราสมุส ยอห์นสัน” ผู้ส่ง “มาริโอ มานด์ซูคิซ” ไปนัดชิง “บอลโลก” มาแล้ว
DST.News Report : เอาไป 3 ผ่าน !!!!
ก้บเกมเปิดตัวของแนวรุกคนใหม่ ของ ปราสาทสายฟ้า “นาเซอร์ บาราไซท์” กองหน้าดีกรี เด็กปั้นของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล และผู้ผ่านศึกค้าแข้งอย่างโชกโชนในแถบยุโรป และเอเชีย
กับเกม โตโยต้า ลีก คัพ2019 ที่ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” บุกชนะเกมเดิมพันเงินล้าน อย่าง “เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด” แม้จะต้องตัดสินด้วยการต่อเวลา
ซึ่งบาราไซท์เอง ทำได้ดีในหลายๆจังหวะ ทั้งการเลี้ยงตะลุย การจ่ายบอล สร้างโอกาสให้เพื่อน ที่จะติ นิดเดียว คือ หาจังหวะจบสกอร์คมๆ ไม่ได้
แต่ด้วยฝีไม้ลายเท้า ทำให้ “แฟนบอล” ต้องร้อง อู้วว์ พร้อมฝันถึงอนาคตที่ นายผู้นี้จะตอบโจทย์ให้กับ “ยักษ์ไทยลีก” ซึ่งผลงานต้องวัดเกมยาว ในเลกสองต่อไป
แต่ที่เราอยากจะมานำเสนอในวันนี้คือ คู่หูของบาราไซท์ อย่าง “ราสมุส ยอห์นสัน” พี่โย่งสวีดิช ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งความหวังของแฟนบอลในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
“สแกนดิเนเวีย” ใน “ไทยลีก”
เท่าที่จำความได้ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีนักเตะจากดินแดน “เกือบ” เหนือที่สุดของโลก (ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ค) ที่เรียกรวมๆกันว่า กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย มาค้าแข้งในประเทศไทยมากนัก
เท่าที่พอจะนึกออก ก็มี “โทนี่ คัลลิโอ” เซ็นเตอร์ฟินแลนด์ ที่เคยมาเล่นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ดช่วงสั้นๆ เมื่อปี 2011 หรือจะเป็น “โอลอฟ วิเดน ฮัดสัน” มิดฟิลด์สวีดิช ที่เคยมาผจญภัยกับ โอสถสภา สระบุรี,ราชนาวี และการท่าเรือ ระหว่างปี 2010-2012 , “เฮนริค จอร์เกนเซ่น” ของราชประชา ระหว่างปี 1996-1997 และ “เซบาสเตียน สวาร์ด” ของ สงขลายูไนเต็ด เมื่อปี 2014
สองหน่อจากแดนโคนม ในยุคปัจจุบันก็มีลูกครึ่ง อย่าง “เอเลียส ดอเลาะห์” ยักษ์ลูกครึ่งสวีเดน-นราธิวาส ของ “สิงห์ท่าเรือ” การท่าเรือ เอฟซี ด้วยความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ทั้งสภาพอากาศ ภาษา วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และสารพัดเหตุผล จึงทำให้ ประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมายหลัก ของนักเตะจากดินแดนไวกิ้ง เหล่านี้
ทำให้ “ราสมุส ยอห์นสัน” นับเป็นนักเตะสวีเดนที่ไม่ได้เป็นลูกครึ่งไทย คนที่ 2 เท่านั้น ที่เคยมาค้าแข้งในดินแดนด้ามขวานแห่งนี้
จุดเริ่มต้นกับ “เฮนริค ลาร์สสัน”
เจ้าของส่วนสูง 192 เซนติเมตร ได้โอกาสประกาศศักดาบนเวทีฟุตบอลระดับสูงครั้งแรกเมื่อปี 2008 กับยักษ์ใหญ่ “แดนไวกิ้ง” อย่าง “เฮลซิงบอร์ก” โดยได้โอกาสร่วมงานกับตำนานของวงการฟุตบอลสวีเดน อย่าง “เฮนริค ลาร์สสัน” ผู้เคยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เซลติก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตฟุตบอลในบั้นปลายกับ “เฮลซิงบอร์ก”
สำหรับ “ยอห์นสัน” ตลอด 5 ปีกับต้นสังกัด เจ้าตัวทำไป 27 ประตูจาก 97 นัด พาทีมคว้าแชมป์ 1 บอลถ้วยในประเทศ 1 รายการ แน่นอนว่าตลอดเวลาที่ได้ดล่นร่วมกับตำนวนของชาติ แม้ในช่วงโรยรา แต่เจ้าตัวคงได้วิชามาไม่น้อย
สู่โลกแห่งความจริง
หลังจากยืนพื้นเป็นตัวกับสโมสรในบ้านเกิดมาถึง 5 ปี สถานีต่อไปของเจ้าตัวถือว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเทียบกันไม่ได้ เมื่อเจ้าตัวถูก “โวล์ฟบวร์ก” ทีมขาใหญ่ในบุนเดสลีกา ในขณะนั้น ดึงตัวไป ผนึกกำลังร่วมกับ กองหน้าคนดังอย่าง “มาริโอ มันด์ซูคิซ” มือปืนขี้เก๊ชาวโครแอต
แต่ด้วยมาตรฐานลีกที่สูงขึ้น และตัวยอห์นเซ่นเอง ไม่ใช่ประเภท โป้งปิดบัญชีอยู่แล้ว ตลอด 17 เกม กับ ทีมดังที่มีบริษัทผลิตรถ “โฟล์คสวาเก้น” เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ นั้นเจ้าตัวทำประตูไม่ได้เลย แต่ในความว่างเปล่านั้น กลับช่วยให้ “มันด์ซูคิซ” เปล่งแสงมากขึ้นจนได้ย้ายไปจอย กับทีมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างบาเยิร์นมิวนิค
ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเอง โดยการย้ายไปร่วมกับ แอตเลติโก มาดริด และ ยูเวนตุส ตามลำดับ รวมทั้งสร้างผลงานสุดยอดในบอลโลกปีล่าสุด ที่โครเอเชีย ทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้จะจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์
ขณะที่ “ยอห์นเซ่น” กลับต้องระหกระเหิน ถูกปล่อย ยืมตัวกับไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แต่ก็ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่ได้ จนต้องกลับไปเรียกความมั่นใจกับทีมบ้านใกล้เรือนเคียง อย่าง “อาเลบอร์” ใน “เดนมาร์ค”
สู่สามัญอีกครั้ง!!!
นับแต่ปี 2013-2018 เจ้าตัวหากินในเดนนิส ซูเปอร์ลีก กับทั้ง “อาเลบอร์” และ “โอบี โอเดนเซ่” สอง สโมรสรแดนโคนม แม้เจ้าตัวจะทำประตูได้ไปเยอะ แต่ด้วยสไตล์กองหน้าสายเก็บบอล และคอยชงให้เพื่อนกินมากกว่า ที่แดนโคนมแห่งนี้ เขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุด และ เดนนิส คัพ ได้อย่างละ 1 สมัย ก่อนจะโบกมาลา เดนมาร์ กลับสู่เฮลซิงบอร์กอีกครั้ง ในปี 2018
ทั้งนี้เจ้าตัวมีโอกาสเล่นให้กับทีมชาติสวีเดน ไล่ตั้งแต่ชุด u 17 3 นัด u19 15 นัด u21 23 นัด และเกียรติติยศสูงสุดคือเล่นทีมชาติชุดใหญ่ในยุคที่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิชเป็นหัวโจก 2 นัดถ้วน ก่อนเลือกหาความท้าทายในแดนสยามกลับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
แตกต่าง……แล้ว “ไม่เกิด”…..?
อันดับแรกต้องบอกแฟนๆปราสาทสายฟ้าก่อนเลยว่า “ราสมุส ยอห์นสัน” ไม่ใช่กองหน้าสไตล์ฉลาม ที่ได้กลิ่นคาวเลือดแล้วจะตามไปปิดบัญชีแบบเด็ดขาด แต่เจ้าตัวเป็นประเภท ที่เล่นลุกกลางอากาศได้ดี รู้จักดึงจังหวะ และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมในแนวรุกเล่นต่อได้ง่าย
ด้วยความสูง 192 เซนติเมตร จะช่วยดึงตัวประกบยามทีมเล่นลูกเซตพีซ ได้เป็นอย่างดี
ลองจิตนาการดูว่า หาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุม แล้วมีทั้ง อันเดร ตูเนซ กับ ยอห์นสัน อยู่ในกรอบเขตโทษก็เสียวสันหลังวาบแล้ว
เพราะฉะนั้นขอให้แฟนมองถึงประโยชน์ที่เขาสร้างให้กับทีม มากกว่าจำนวนประตู ที่จะทำได้ แต่ก็ต้องมาดูกันว่า นักเตะที่มาจากอีกซีกโลกหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเหมือนกับประเทศไทยเลย จะสามารถพิสูจน์ตัวเอง
กับทีมที่ขึ้นชื่อว่า “ใช้กองหน้าเปลืองที่สุด” ในไทยลีก ได้หรือไม่.
ขอบคุณ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
By ใบไม้ห้าแฉก
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th