• Home
  • News
  • ลูปเดิมของ “บอลไทย” ใครกันแน่ ที่ต้องรับผิดชอบ?

ลูปเดิมของ “บอลไทย” ใครกันแน่ ที่ต้องรับผิดชอบ?

By on June 12, 2019 0 1350 Views

DST.Special Report : กลับมาเป็นภาพที่เราคุ้นเคยอีกครั้ง หลังจบการแข่งขัน “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ 47 ด้วยอันดับบ๊วย ของทัพ “ช้างศึก” ด้วยการพ่ายแพ่ 2 นัด รวด

ต่อ “คู่รักคู่แค้น” และ คู่ต่อสู้หมายเลข 1 ของภูมิภาค อาเซียน จากประตูช่วงท้ายเกม แพ้ไป 0-1 ก่อนในนัดชิงอันดับ 3 จะโดน อินเดีย ย้ำแค้น ด้วยสกอร์เดียวกัน

หลังก่อนหน้านี้ พลพรรคอาบังงับเราไปแล้วหนึ่งแผล ในการ แข่งขันเอเชียน คัพ นัดเปิดหัว ด้วยสกอร์ 4-1

เสียงเรียกร้องให้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมาคุมทีมชาติ ถูกขยายประเด็นอีกครั้ง

เมื่อย้อนกลับไปดูเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ที่เป็นช่วงเรียกศรัทธาของฟุตบอลทีมชาติไทย หลังเราทำผลงานไม่เอาอ่าว จนมี “อัศวินขี่ม้าขาว” ตำนานดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติไทย ที่ต่อยอดความยอดเยี่ยมหลังพาทีม u-23 คว้าอันดับ 4 ในเอเชียนเกม

จนได้มาจับงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตคือ การคุมบังเหียนทีมชาติชุดใหญ่ ในช่วงนั้น “ช้างศึก” ทำผลงานได้ดีขึ้น

หากจะแพ้ ก็แพ้แบบที่ต้องบอกว่า ได้ใจกองเชียร์

ผลงานเด่นๆช่วงนั้น คือ การบุกไปเอาชนะ จีน 5-1 และพาถ้วยซูซูกิคัพ กลับมาสู่ประเทศไทยได้อีกครั้ง หลังหายไป 12 ปี

รวมทั้งการเสมอ ออสเตรเลีย ทีมได้ไปบอลโลกอยู่เป็นนิจ 2-2 ในบ้านเรา แต่ตอนนั้น ต้องบอกว่า ทัพช้างศึกเล่นได้แบบมีทรงกว่าเดิม แม้สุดท้าย พอผลงานไม่กระเตื้อง เสียงเรียกร้องแห่งการเปลี่ยนแปลงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนนำมาสู่โค้ชคนใหม่ อย่าง “มิโรวาน ราเยวัช”

ด้วยดีกรีที่เคยพา “ดาวดำ” ทีมชาติกาน่า ทะลุถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2010 มาแล้ว

ภาพฝันในจินตนาการของใครหลายคน ต่างคิดว่า “ช้างศึก” เตรียมจะอัพเกรดตัวเองเป็นทีมระดับเอเชีย(ขอเวลาอีกไม่นาน) โดยมีเกมที่น่าจดจำทั้ง การตบเกาหลีเหนือ ในคิงส์ คัพ ถึง 3-0 เสมอ ยูเออี เกมคัดบอลโลก 1-1 ที่ทำให้แฟนๆมีความหวัง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลงานกลับสาละวันเตี้ยลง ทั้งรอบคัดเลือกบอลโลก ซูซูกิ คัพ ที่ถ้วยตกเป็นของเวียดนาม

ก่อนฟางเส้นสุดท้ายจะขาดผึง เมื่อ พวกเขา โดน อินเดีย สอนบอล 4-1 จนต้องมีการปลดกลางอากาศ มาเป็น “สโลโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ “โอเล่ กุนนาร์ โสลชา” แต่อนินจา เหมือนฟ้าเล่นตลก หลังโชว์เทพ 2 นัด ต่อลมหายใจเข้าสุ่รอบ 16 ทีม

ก่อนโดน ทีมชาติจีน ยิงแซงครึ่งหลัง แพ้ไปด้วยสกอร์ 2-1 ตกรอบ แต่ในภาพรวมถือว่าทีมกำลังมาถูกทาง เมื่อนำไปบวกกับ สภาพความย่ำแย่ในนัดสุดท้ายของ “ราเยวัช” ความคาดหวังที่มีอยู่แล้วจึงเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผลใดๆมารองรับ

และเมื่อผลงาน “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่ชี้ให้เห็นว่า สุดท้าย ฟุตบอลไทยในระดับทีมชาตินั้น “ไม่ก้าวหน้าไปไหน” เมื่อเทียบในแง่ของ “มาตรฐานในสนามแข่ง”​

เรื่องนี้ เป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกฝ่ายพยายามจะแก้มาตลอด แต่ก็สามารถสร้างได้เพียงแค่ภาพลวงตาเป็นช่วงๆเท่านั้น

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราต้องหาสาเหตุที่แท้จริงว่าสรุปแล้ว ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ!!!! 

ต่อผลงานขึ้นๆลงของทีมชาติ เป็นที่ นักเตะ ที่โค้ช ที่แฟนบอล หรือ คนที่เคยพูดว่า “แพ้ญี่ปุ่น ใครไม่อาย ผมอาย” กันแน่ ที่ต้องย้อนกลับมาพิจารณาตัวเอง.

ขอบคุณ FA Thailand
By ใบไม้ห้าแฉก

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *