“คอง เฟือง เอฟเฟกต์” ไม่ต้องกลัวว่า “เวียดนาม” จะแซงหน้า “ไทย”
DST.News Report : ก่อนหน้านี้ “เค-ลีก” เปิดโควต้า นักเตะอาเซียน และดึง “ซุปตาร์” ไซ่ง่อน นามว่า “เหงียน คอง เฟือง” หรือ “เมสซี่เวียดนาม” ไปร่วมทัพกับ “อินชอน ยูไนเต็ด”
แต่ “คอง เฟือง” มาไว ไปไว เพราะ “เหงียน คอง เฟือง” ขอยุติเส้นทางการค้าแข้งบนแดนกิมจิ บนความยินยอมพร้อมใจ ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมข่าวลือว่า “เมสซี่เวียดนาม” เลือกไปหาความท้าทายใหม่บนแผ่นดินยุโรป
บทสรุปของงานนี้ “คอง เฟือง” ไม่ได้จากไปด้วยภาพของ “ผู้พิชิต” แต่จากไปในฐานะ “นักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จ” แม้ช่วงที่ค้าแข้งบนแผ่นดินแห่งใหม่ ต้นฤดูกาล 2019 ได้ลง 9 นัด (เคลีก 8 นัด และ บอลถ้วย 1 นัด) ผลงานกลับ “ไร้ประตู”
ทำให้ “ยู ซาง-ชุล” เฮ้ดโค้ช ของอินชอน ยูไนเต็ด สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวอย่างระวัง ว่า คอง เฟือง ที่ย้ายมาอยู่กับเรานั้น ปกติวิสัยของผู้เล่นต่างชาติจะต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก ด้วยความเคารพ เขาดูเหมือนว่าจะไม่มีความสุขกับเรื่องนี้เท่าไร ภาษาอังกฤษของเขาไม่ดีนัก นอกจากนี้เขายังไม่ได้ เต็มที่ตอนวอร์มอัพ ในเกมกับ แตกู อีกด้วย
นอกจากนี้ ตอน “ก้องห้วยไร่เวอร์ชั่นเวียดนาม” ตอบคำถามนักข่าวเกาหลี ที่ถามถึงความรู้จัก ปิยะพงษ์ ไหม? ซึ่งภายหลังกลายเป็นประเด็นให้บรรดาแฟนบอลไทย ขยี้จนเสียของ ว่า ถามแบบนี้เหมือนจะเปรียบเทียบกลายๆกับนักเตะที่มาจากภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งคนหนึ่งเคยทำสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ขณะที่อีกคน ผลงานตรงกันข้าม
จุดนี้ก็ต้องขอเรียนว่า หากทเยบระยะเวลา ตอนที่ “เดอะตุ๊ก” ไปโชว์เทพ ที่แดนกิมจิ กับตอนที่ “เหงียน คอง เฟือง” ทำไม่ได้นั้น สภาพแวดล้อมทั้งหมดนั้นต่างกันมาก ทั้งความแข็งแกร่งของผู้เล่นในลีก กระแสฟุตบอลภายในประเทศ รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ ที่เทียบกันไม่ได้
ดังนั้น อย่าเอาเรื่องนี้ มา “ขิง” ให้ทะเลาะกันป่าวๆ
แต่ผลกระทบที่มีอย่างแน่นอนเลยคือ บรรดาทีมใน เค-ลีก คงได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวของนักเตะเวียดนาม และ “อาจ” ใช้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานในการดึงตัวนักเตะโควตาอาเซียนในปีต่อๆไป ดังเช่นที่ “เจ ชนาธิป สรงกระสินธุ์” บุกไปกรุยทาง ณ แดนปลาดิบ เพื่อให้นักเตะคนอื่นๆ ย้ายไปทำมาหากินกันต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี “ความไม่สำเร็จ” ของ กองหน้าเวียดนาม วัย 24 ปีรายนี้ ยังคงไม่มีดอกผลใดๆให้เห็นกัน โดยเฉพาะในภาพใหญ่ที่เป็นฟุตบอลระดับทีมชาติ แม้หลายคนจะตั้งข้อสังเกตต่างๆ นานา
อย่าง “พี่เหงียน” จะแซงหน้าเราบ้างละ หรือ ผลงานทีมชาติของพวกเขาตอนนี้ที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของ อาเซียนอย่างไม่มีข้อโต้แย้งบ้างละ
ขอให้ไม่ต้องไปกังวลใจอะไรให้ฉี่เหลือง เพราะตอนนี้บรรดานักเตะทีมชาติเวียดนาม ที่ค้าแข้งในประเทศตัวเอง ยังไม่ได้โอกาสไปเล่นในถ้วยใหญ่ที่สุดของ เอเชีย อย่าง ACL ในเร็วๆนี้
ต่างกับ ทีมในไทยได้ไปขัดเกลากับ บรรดายักษ์ของเอเชียมาแล้วบ่อยๆ
แน่นอนว่า หากมองในระยะยาว การที่ พลพรรค “ดาวทอง” จะแซงหน้า “ช้างศึก” นั้นคงเป็นไปได้ยาก แม้ว่าการรวมตัวในนามทีมชาติของพวกเขาจะ “แข็ง” จริง แต่ เรื่องโอกาส พิสูจน์ตัวเอง ในลีกระดับที่สูงกว่านั้น เรานำหน้าเขาไปหลายช่วงตัวอยู่เหมือนกัน.
By ใบไม้ห้าแฉก