• Home
  • News
  • “คอง เฟือง เอฟเฟกต์” ไม่ต้องกลัวว่า “เวียดนาม” จะแซงหน้า “ไทย”

“คอง เฟือง เอฟเฟกต์” ไม่ต้องกลัวว่า “เวียดนาม” จะแซงหน้า “ไทย”

By on June 3, 2019 0 1178 Views

DST.News Report :  ก่อนหน้านี้ “เค-ลีก”​ เปิดโควต้า นักเตะอาเซียน และดึง “ซุปตาร์” ไซ่ง่อน นามว่า “เหงียน คอง เฟือง”​ หรือ “เมสซี่เวียดนาม”​ ไปร่วมทัพกับ “อินชอน ยูไนเต็ด”

แต่ “คอง เฟือง”​ มาไว ไปไว เพราะ “เหงียน คอง เฟือง” ขอยุติเส้นทางการค้าแข้งบนแดนกิมจิ บนความยินยอมพร้อมใจ ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมข่าวลือว่า “เมสซี่เวียดนาม” เลือกไปหาความท้าทายใหม่บนแผ่นดินยุโรป

บทสรุปของงานนี้ “คอง เฟือง” ไม่ได้จากไปด้วยภาพของ “ผู้พิชิต” แต่จากไปในฐานะ “นักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จ” แม้ช่วงที่ค้าแข้งบนแผ่นดินแห่งใหม่ ต้นฤดูกาล 2019 ได้ลง 9 นัด (เคลีก 8 นัด และ บอลถ้วย 1 นัด) ผลงานกลับ “ไร้ประตู”​

ทำให้ “ยู ซาง-ชุล” เฮ้ดโค้ช ของอินชอน ยูไนเต็ด สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวอย่างระวัง ว่า คอง เฟือง ที่ย้ายมาอยู่กับเรานั้น ปกติวิสัยของผู้เล่นต่างชาติจะต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก ด้วยความเคารพ เขาดูเหมือนว่าจะไม่มีความสุขกับเรื่องนี้เท่าไร ภาษาอังกฤษของเขาไม่ดีนัก นอกจากนี้เขายังไม่ได้ เต็มที่ตอนวอร์มอัพ ในเกมกับ แตกู อีกด้วย

นอกจากนี้ ตอน “ก้องห้วยไร่เวอร์ชั่นเวียดนาม” ตอบคำถามนักข่าวเกาหลี ที่ถามถึงความรู้จัก ปิยะพงษ์ ไหม? ซึ่งภายหลังกลายเป็นประเด็นให้บรรดาแฟนบอลไทย ขยี้จนเสียของ ว่า ถามแบบนี้เหมือนจะเปรียบเทียบกลายๆกับนักเตะที่มาจากภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งคนหนึ่งเคยทำสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ขณะที่อีกคน ผลงานตรงกันข้าม

จุดนี้ก็ต้องขอเรียนว่า หากทเยบระยะเวลา ตอนที่ “เดอะตุ๊ก” ไปโชว์เทพ ที่แดนกิมจิ กับตอนที่ “เหงียน คอง เฟือง” ทำไม่ได้นั้น สภาพแวดล้อมทั้งหมดนั้นต่างกันมาก ทั้งความแข็งแกร่งของผู้เล่นในลีก กระแสฟุตบอลภายในประเทศ รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ ที่เทียบกันไม่ได้

ดังนั้น อย่าเอาเรื่องนี้ มา “ขิง” ให้ทะเลาะกันป่าวๆ

แต่ผลกระทบที่มีอย่างแน่นอนเลยคือ บรรดาทีมใน เค-ลีก คงได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวของนักเตะเวียดนาม และ “อาจ” ใช้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานในการดึงตัวนักเตะโควตาอาเซียนในปีต่อๆไป ดังเช่นที่ “เจ ชนาธิป สรงกระสินธุ์” บุกไปกรุยทาง ณ แดนปลาดิบ เพื่อให้นักเตะคนอื่นๆ ย้ายไปทำมาหากินกันต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี “ความไม่สำเร็จ” ของ กองหน้าเวียดนาม วัย 24 ปีรายนี้ ยังคงไม่มีดอกผลใดๆให้เห็นกัน โดยเฉพาะในภาพใหญ่ที่เป็นฟุตบอลระดับทีมชาติ แม้หลายคนจะตั้งข้อสังเกตต่างๆ นานา

อย่าง “พี่เหงียน” จะแซงหน้าเราบ้างละ หรือ ผลงานทีมชาติของพวกเขาตอนนี้ที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของ อาเซียนอย่างไม่มีข้อโต้แย้งบ้างละ

ขอให้ไม่ต้องไปกังวลใจอะไรให้ฉี่เหลือง เพราะตอนนี้บรรดานักเตะทีมชาติเวียดนาม ที่ค้าแข้งในประเทศตัวเอง ยังไม่ได้โอกาสไปเล่นในถ้วยใหญ่ที่สุดของ เอเชีย อย่าง ACL ในเร็วๆนี้

ต่างกับ ทีมในไทยได้ไปขัดเกลากับ บรรดายักษ์ของเอเชียมาแล้วบ่อยๆ

แน่นอนว่า หากมองในระยะยาว การที่ พลพรรค “ดาวทอง” จะแซงหน้า “ช้างศึก” นั้นคงเป็นไปได้ยาก แม้ว่าการรวมตัวในนามทีมชาติของพวกเขาจะ “แข็ง” จริง แต่ เรื่องโอกาส ​พิสูจน์ตัวเอง ในลีกระดับที่สูงกว่านั้น เรานำหน้าเขาไปหลายช่วงตัวอยู่เหมือนกัน.

By ใบไม้ห้าแฉก

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *