น้องเล็ก ‘เมืองหมอแคน’ เปรี้ยวจัดในอีสาน

DST.Special Report : เพียงขวบปีแรกบนลีกอาชีพ เพียง 11 นัดแรกของฤดูกาล ทีมที่ผสมผสมระหว่างศิษย์เก่าและปัจจุบันของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ในแบรนด์ยุทธจักรฟุตบอลนาม “ขอนแก่นมอดินแดง” สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย

พวกเขาไม่มีประสบการณ์ มิหนำซ้ำ ยังต้องต่อกรกับบรรดาเสือ สิง กระทิง แรด ที่โลดโผนในไทยลีก 4 โซนลูกข้าวเหนียวมาก่อน แต่ทีมฟุตบอลจากเมือง “หมอแคน” กลับทำผลงานได้เจิดจรัส

ใน 11 นัดแรก พวกเขาป้วนเปี้ยนอยู่ในอันดับ 2 และ 3 ของตารางคะแนน ร่วมกับแชมป์เก่า “นักรบเซไล” เมืองเลย ยูไนเต็ด และ “หัวรถจักรพิฆาต” นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด

หวดไป 990 นาที ชนะ 5 เสมอ 4 และแพ้เพียง 2 เกม ถือว่า น่าจับตา

อีก 1 ทีมฟุตบอลจาก จ.ขอนแก่น ในฐานะอดีตแชมป์ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก โซนอีสาน ฤดูกาล 2018 สร้างปรากฎการณ์ให้กับคอบอลในโซนนั้น แม้จะเกิดช้ากว่ารุ่นพี่อย่างขอนแก่น เอฟซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก็ตาม

ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่า พวกเขาเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” เพราะเป็นประหนึ่งทีมองค์กร การจะไปหารแฟนบอลจาก 2 ทีมใหญ่บนลีกบนอาจกระทำได้ยาก

ทว่า มันผิดหมด เมื่อน้องเล็กสุดใน จ.ขอนแก่น กลับมีแฟนบอลหนาแน่น คอยตามใจเชียร์ โดยเฉพาะคราวได้เล่นในสนาม 50 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น อันเป็นรังเหย้า

ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เป็นกองกำลังหนุนหลังให้กับตัวแทนของพวกเขา ที่แทบจะเรียกว่า เป็น ทีมมหาวิทยาลัยที่มีแฟนบอลมากเป็นต้นๆ แม้จะอยู่ในลีกล่างสุด

ขณะที่การบริหารจัดการทำได้แบบมืออาชีพ มีการวางระบบเหมือนที่ทีมใหญ่ๆ ทำ โดยไม่ได้ขอไปที เพียงเพราะเป็นทีมเล็กๆ

ขณะที่ปรัชญาการทำทีม มีแนวทางที่ชัดเจน คือ ทำให้ฟุตบอลกับการศึกษาสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างไร้ปัญหา

“กระรอกสายฟ้า” ภายใต้การดูแลของ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายสมศักดิ์ แต้วิริยะกุล ประธานสโมสร ไม่เน้นนักเตะชื่อดัง แต่เน้นคนมีฝีมือ โดยเฉพาะการให้เปิดประตูรอ ลูกมหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่มีฝีมือ

ขุนพลกระรอกสายฟ้าที่สู้ศึกฤดูกาลนี้ เกือบจะทั้งหมดเป็นนักเตะไทย ธนพล ศรีทอง, ศศิพงษ์ พรมดวงดี, ภาณุพงษ์ สุวะไชย, ประเทืองวุฒิ เนื่องภักดี และอ๊อด หาลา เป็นต้น

ขณะที่ขุมกำลังในทีมคนอื่นๆ ประกอบด้วย ศิวนัส ยอยโพธิ์สัย, สรวิชญ์ มีพร้อม, วีระพล อุณาสิงห์, นนทภัช ประดับมุข, สหยศ ซาสิโย, อนันศักดิ์ จรอนันต์, ประวิทย์ ภูทัดทาน, ธนกร ศรีบัณฑิต, ธีรวงศ์ รุ่งวงษ์

ปณวัฒน์ จันทะสิลา, ชุนากร อาจนุการ, อรรถพล อ่างแก้ว, ปภพ สืบศรี, ปฐมพงศ์ คำจันทร์ดี, ธนวัฒน์ เลิศฤทธิ์, จิรพัทธ์ โมมขุนทด, นพนันทน์ ลันดา, ณัฐวุฒิ พลซา, จิรวัตร เจริญนนท์, โอภาส ราโช, โบริส วิลเฟรด, วสันต์ วงษ์ไชยา, ก้องภพ ผาลา

ส่วนใหญ่เป็น “ดาวรุ่ง” ต่ำกว่า 21 ปีหลายคน

กระนั้น มันไม่ใช่ปัญหาในการสู้รบปรบมือกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์จากทีมอื่น เมื่อ “กระรอกสายฟ้า” อยู่ในการบัญชาเกมของ “ประกอบ กระแสโสม” ที่พินอบพิเทาทีมนี้มาตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ดี จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมก็ไม่ได้ทำให้เด็กๆ จากขอนแก่นมอดินแดนเหลิงลม แต่ยังอยู่ในอาการถ่อมตัวและไม่หวังสูงไปไกล ดำเนินไปแบบแมตซ์ต่อแมตซ์ ซึ่ง “ดร.บี้” ประพันธ์ศักดิ์ ฉวีราช ผู้อำนวยการสโมสร เคยระบุว่า มีอีกหลายจุดที่ต้องปรับแก้เพื่อให้สมบูรณ์

เพราะหนทางยังอีกยาวไกล ในขณะที่จ่าฝูงอย่าง “นักรบเซไล” ก็ตีตัวออกห่างผู้ตามไปเรื่อยๆ ยิ่งกระชับให้โควต้าสู่รอบแชมเปี้ยนลีกส์ในโซนนี้เหลือน้อยลง

ทีมตั้งแต่อันดับ 2 รูดลงมาถึงท้ายตารางมีคะแนนไม่ห่างกันเท่าไร

แต่กระนั้น ความคงเส้นที่ “กระรอกสายฟ้า” มีตั้งแต่ต้นฤดูกาล ไม่หลุดจากอันดับ 3 ไปไกล ยังเป็นข้อได้เปรียบและเรื่องความมั่นใจ

แต่ไม่ว่าที่สุดเป็นอย่างไร ถึงตรงนี้พวกเขาทำให้ฟุตบอลไทยรู้จัก “ขอนแก่นมอดินแดง” มากขึ้นแล้ว ทั้งที่มีอายุแค่ขวบปีกว่าๆ.

เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ขอนแก่นมอดินแดง ฟุตบอลคลับ