ถึงทีข้าบ้าง!!!วันนี้ของ“แฟรงค์ใหญ่” โอแฮนด์ซ่า5ประตูจาก7 นัดในลีกจีน
DST.News : หลังจากปล่อยให้ “แฟรงค์เล็ก” อย่าง แฟรงค์ อาเชียมปง โชว์ผลงานเขย่า “ไชนีส ซูเปอร์ลีก” เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมากับ “เทียนจิน เทด้า” ดูเหมือนว่า ฤดูกาลนี้จะถึงคิวของ “แฟรงค์ใหญ่” อย่าง “แฟรงค์ โอแฮนด์ซ่า”ในวัย 27 ปี โชว์ผลงานสะเด่าบ้าง เมื่อฤดูกาลแรกของเจ้าตัว บนลีกสูงสุดแดนมังกร กับ “เฮอหนาน เจียนเย่” กดไปแล้ว 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 7 นัด เป็นกำลังหลักของทีม ร่วมกับ “คริสเตียน บาสซาก็อก” ปีกจรวด เพื่อนร่วมชาติ ที่ย้ายมาทำมาหากินในแดนมังกรตั้งแต่ปี 2017
แน่นอนว่า ไม่มี “แฟนปราสายฟ้า” คนใด ที่จำวีรกรรมของ “คู่หูนรกแตก” ทั้ง 2 แฟรงค์ไม่ได้ พวกเขาเป็นกำลังสำคัญในยุคที่พา “บุรีรัมย์ พีอีเอ” ผงาดขึ้นมาเป็นทีมที่ดีที่สุดในไทยลีก ระหว่างปี 2011-2013 โดย “แฟรงค์ “โอแฮนด์ซ่า” มีโอกาสอยู่กับทีมในฤดูกาลเดียวเท่านั้น หลัง โชว์ฟอร์มสุดเหี้ยม กดไป 19 ประตู จาก 22 นัด ให้กับทีมดังแดนอีสานใต้ ก่อนจะโดย “กรอยเธอร์ เฟือร์ธ” ที่กำลังจะเลื่อนชั้นสู่ บุนเดสลีกา ในปีนั้น สอยไปด้วยสัญญายืมตัว
แต่ชีวิตบนเมืองเบียร์ ไม่ใคร่จะสวยงามนัก จากอาการบาดเจ็บหนักที่เล่นงานเจ้าตัว ทำให้มีโอกาสลงสนามให้ต้นสังกัดเพียงนัดเดียว โดยเป็นเกมลีกา 2 ที่ต้นสังกัดของเข้านั้นตกชั้นไปแล้ว จนต้องระหกระเหินไปหาโอกาสลงสนามกับ “อิลาคริส ชาสน่า” ทีมในลีกรอง ของกรีซ แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ เมื่อเจ้าตัวมีโอกาสลงสนามแค่ 10 นัด และทำไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น
ก่อนที่ “เอ็นเค เซสเวท“ ทีมในลีกรองของโครเอเชีย จะอาสาขอนำตัวไปชุบเลี้ยงต่อ และ ณ ลีกรองของดินแดนตราหมากรุกนี่เอง ที่ “วิณญาณเพฌชฆาต” กลับเข้าร่างอีกครั้ง โดยเจ้าตัวโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ถองไป 15 เม็ด จาก 22 นัด จนไปเตะตา ทีมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ นั่นคือ “ดินาโม ซาเกร็บ” สอยไปร่วมทัพ แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้มีโอกาสลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว ก่อนจะย้ายไปคู่ปรับร่วมลีกอย่าง “ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท” ในปี 2015
ตลอด 3 ปี กับทีมใหญ่แต่ไม่ที่สุดของประเทศ เขาทำผลงานได้น่าพอใจ จากการลงสนามต่อเนื่อง ตลอด 3 ฤดูกาล รับใช่ต้นสังกัดทั้งสิ้น 68 นัด ถองไปทั้งสิ้น 26 ประตู 7 ลูกในนั้นเป็นการยิงใน ยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก ไม่แปลกที่ผลงานไม่ธรรมดาอย่างนี้ เจ้าตัวจะเนื้อหอม โดยมี “เสินเจิ้น เอฟซี” ทีมเงินถึง ใน “ไชนีส ลีกวัน” ซึ่งเป็นลีกรองของประเทศจีน ยกขันหมาก มาขอด้วย มูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท
“แฟรงค์ใหญ่” วัย 26 ปี กลับมาเหยียบแผ่นดินเอเชีย อีกครั้ง ด้วยความมั่นใจ และเขาก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวัง เมื่อยิงไป 18 ลูก จาก 23 เกมที่ลงสนาม และเจ้าตัวเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาที่เซ็ฯกันไว้เพียงปีเดียว แล้วย้ายไป ซบอก “เหอหนาน เจียนเย่” ต้นสังกัดปัจจุบัน และกำลังโชว์ฟอร์ม สุดจี๊ดอยู่ ณ ตอนนี้ พาต้นสังกัดค้ำอยู่ที่อันดับ 8 บนตาราง
แม้เส้นทางการค้าแข้งของเจ้าตัว อาจจะสวยงามน้อยกว่า เพื่อนรุ่นน้องอย่าง “อาเชียมปง” อยู่บ้างในแง่ของวาสนา โดยเฉาพะการเล่นบอลถ้วยยุโรป และ การติดทีมชาติ เพราะนอกจากเกียรติประวัติทีมชาติ แคเมอรูน u-20 แล้ว เจ้าตัวยังไม่เคยถูกเรียกติดทีมชาติ “หมอผี” ชุดใหญ่ เลย ขณะที่ “แฟรงค์น้อย” เอ็นจอย กับ ทัพ “ดาวดำ” ไปแล้ว ถึง 23 นัด แต่ถ้าเจ้าตัวยังรักษาฟอร์มโหดแบบนี้ต่อไป คงไม่เกินปี 2020 ที่จะได้มีโอกาสครั้งแรกกับเขาเสียที
ที่น่าเจ็บใจกว่าสำหรับแฟนๆ “ปราสาท สายฟ้า”คือ เมื่อต้นฤดูกาล 2019 เจ้าตัวมีชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดท ที่จะมารับไม้ต่อ จาก “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” แต่สุดท้าย กลายเป็น “โมดิโบ ไมกา” ที่ได้มา “โชว์ของ” แทน และ “ของ” ที่เจ้าตัวได้แสดงให้แฟนบอลเห็น คงไม่ต้องสาธยาย ให้เจ็บช้ำ การโดนยกเลิกสัญญา ทั้งที่ไม่ทันจะจบเลก 1 คงตอบทุกอย่างได้ชัดเจน
แต่อย่างน้อย การที่ทั้ง 2 แฟรงค์ สามารถไปได้สวยในเส้นทางการค้าแข้ง ก็นับว่าสร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนๆ “ปราสาทสายฟ้า” ได้ไม่น้อย และก็คงได้แต่ร้องเพลง “รอ” ว่า เมื่อ “บิ๊กเน” จะหาของดี คุณภาพเกินราคาแบบนี้มาเขย่าไทยลีกได้อีก
BY : ใบไม้ห้าแฉก