• Home
  • Exclusive
  • เปิดเบื้องหลัง “เคน-พิชา” ผู้เบิกประตูแรก ให้ “เขี้ยวสมุทร” ต้องจารึก

เปิดเบื้องหลัง “เคน-พิชา” ผู้เบิกประตูแรก ให้ “เขี้ยวสมุทร” ต้องจารึก

By on March 4, 2019 0 1121 Views

DST.Exclusive : ไทยลีก2019 เปิดแมชต์ จั่วหัวไปแล้ว 2 เกม ซึ่งทั้ง 2 เกมพอจะมองออกว่า “ใครเจ๋ง” หรือ “ใครจ๋อย”

เพราะ “ของที่ว่าเจ๋ง” จะโชว์ฟอร์มร้อนแรง ตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล ให้แฟนบอลได้เฮ!!

กับทีม “เขี้ยวสมุทร-สมุทรปราการ ซิตี้” ที่แม้ไม่ใช่น้องใหม่ไทยลีก เสียทีเดียว เพราะโอนกรรมสิทธิ์มาจาก “ทีมพัทยา ยูไนเต็ด” และเปลี่ยนผู้บริหารทีมใหม่

กับผลงานแมชต์แรกที่เปิดบ้าน เอาชนะ “พยัคฆ์ล้านนา- เชียงใหม่ เอฟซี” ไปถึง 3:2 มีดาวรุ่งที่น่าจับตา และ DST. : DailySoccerThailand ขอนำเสนอสัปดาห์นี้

คือ “เจ้าเคน – พิชา อุทรา” แนวรุกดาวรุ่ง หมายเลข 37 ที่ซัดประตูแรกให้กับทีม โดยไม่สนว่า “พยัคฆ์ล้านนา” คือ ทีมบ้านเกิด

จากประตูแรกนั้น ทำให้ “เขี้ยวสมุทร” ต้องจารึกในประวัติศาสตร์สโมสรว่า “พิชา อุทรา” คือ คนที่เบิกประตูแรกให้กับทีม และเมื่อจบเกมเขายังได้รับเลือกให้เป็น “แมน ออฟ เดอะ แมชต์” อีกด้วย

แต่หากเอ่ยชื่อ “พิชา อุทรา” หลายคนคงไม่กังขาเรื่องฝีเท้า เพราะเจ้าหนูคนนี้มีดีกรีเป็นถึง นักเตะเยาวชนทีมชาติ, เป็นดาวซัลโวรุ่นเด็ก รายการฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย (โค้ก คัพ) เมื่อปี 2014 พ่วงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม, เป็นเด็กไทยที่ถูกคัดเลือกให้ไปฝึกทักษะฟุตบอลขนาดแท้ ที่ ​”แอตเลติโก มาดริด” ประเทศสเปน และก่อนหน้านั้น เป็นเด็กปั้นของทีม “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” และ “เจเอ็มจี อะคาเดมี่”

กับประสบการด้านฟุตบอล 12 ปี และการฝึกฝนจากสโมสรฯ มืออาชีพ ถือเป็นหลักสูตรเร่งรัดที่ทำให้ “พิชา” เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตา และด้วยวัยเพียง 23 ปี ยิ่งทำให้หลายคนมองว่า เขาเนี่ยแหละคือ หนึ่งในตัวความหวังของอนาคตฟุตบอลไทย

แต่เชื่อหรือไม่ กว่าที่เขาจะมาถึงวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้หลายคนจะมองว่า เขาเป็นคนที่โชคดี มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

ทั้งหมดที่เขาพยายาม คือ มาจากตัวตนบวกกับความมุ่งมั่นล้วนๆ

“จะเรียกผมเป็นคนบ้านนอกก็ได้ เพราะผมเกิดที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ตอนแรกของจุดเริ่มในกีฬาฟุตบอล ผมไม่เคยคิดจะมาไกลถึงขนาดนี้ ทั้งติดทีมชาติ หรือเล่นบอลอาชีพ เพราะตอนไปเล่นรายการบอลเนสเลย์ ที่เชียงใหม่ ผมป่วยเป็นอีสุกอีใส และทีมผมยังตกรอบด้วยซ้ำ”

แม้จะป่วย ทีมจะตกรอบ แต่ “เจ้าเคน” ยังถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 5 ดาวเด่น จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกคัดเลือกให้เข้าฝึกทักษะที่ เจเอ็มจี อะคาเดมี่

โดยช่วงแรกมีสัญญาใจแค่ 1 เดือน เพื่อทดสอบการพัฒนาของฝีเท้า แต่จาก 1 เดือนนั้น เขาถูกขยายไปถึง 7 ปี และพ่วงโอกาสได้ไปต่อที่ “อะคาเดมี่ของกิเลนผยอง”

​กับสิ่งที่เป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้ “เจ้าเคน” มีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือ แรงบันดาลใจจาก การเป็นเด็กเก็บบอล

“วัยเด็ก ผมมีรุ่นพี่หลายๆ คนเป็นตัวอย่าง ผมคิดเสมอว่าอยากไปเล่นกับเขา อยากไปอยู่กับเขา อยากเดินตามรอยรุ่นพี่ มีช่วงหนึ่งที่น้องๆ ในทีมต้องไปช่วยงานรุ่นพี่ ช่วยงานของทีม เก็บบอลในสนามแข่ง สนามซ้อม ผมคอยมองพวกพี่ๆ เขาตลอด มันเหมือนเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมอยากไปยืนอยู่จุดนั้น และอยากประสบความสำเร็จเหมือนพวกพี่ๆ”

แรงบันดาลใจและความปรารถนา ถือเป็น “จิ๊กซอว์” สำคัญ ทำให้ “เจ้าเคน” นำไปต่อยอดและผสานกับการฝึกฝนในรูปแบบเฉพาะตัว คือ ซ้อมให้หนัก เมื่อเจอจุดพลาด หรือ ข้อบกพร่อง เขาจะซ้อมซ้ำๆ เพื่อให้ข้อผิดพลาดไม่เกิดขึ้นหรือเกิดน้อยที่สุด

“ตอนที่ผมอยู่ เจเอ็มจี อะคาเดมี่ เขามีแบบทดสอบวัดระดับ ที่ต้องสอบให้ผ่าน เพื่อจะได้เลื่อนระดับ ผมเคยสอบไม่ผ่านพื้นฐานเดาะบอล ซ้ำอยู่ระดับนั้นอยู่ถึง 3 เดือน จนเพื่อนทิ้งห่างไปไกล ผมท้อมาก มีครั้งหนึ่งที่แกล้งเตะบอลเข้าป่าอ้อย ข้างสนาม เพื่อไปร้องไห้ เหมือนกับระบายความกดดัน”

แต่ความสอบตกซ้ำๆ ใช่ว่าจะเป็นสิ่งไม่ได้เรื่อง เพราะจากแบบฝึกขั้นเบสิคนั้น ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ควบคุมบอลได้ดี

​และทุกวันนี้ เขายังไม่ละทิ้งการฝึกเบสิค อย่างน้อยก่อนซ้อม ต้องมีเวลาทบทวน พื้นฐาน แต่สำคัญสำหรับการวางรากฐานฟุตบอลมืออาชีพ

กับความทุ่มเทและความจริงจังที่เขามี “เจ้าเคน” ประมินตัวเองว่า ได้จากการบินลัดฟ้าไปฝึกฝนกับทีม “มาดริด” นาน 5 เดือน

“ประสบการณ์ที่ผมได้รับ คือ ความจริงจัง มุ่งมั่น บรรยากาศซ้อมจะเต็มไปด้วยความจริงจังชัดเจน และกดดันหนักมาก ขณะที่โค้ชให้ความใส่ใจกับนักเตะทุกคน กระตุ้นและปลุกเร้าให้เด็กในทีมกระตือรือร้นอยู่เสมอ “

กับประสบการณ์อีกอย่าง คือการรับใช้ชาติ เชื่อหรือไม่? กว่า “พิชา” จะมีชื่อติดทีมชาติไทย เขาเคยผ่านการทดสอบหลายรอบ ตั้งแต่วัย 16 ปี แต่เขาไม่ใช่คนที่ถูกเลือกให้ไปต่อ และผลขอความพลาดหวัง ทำให้เขามุ่งมั่นกว่าเดิม กลับมาแก้ไขในจุดบกพร่อง

และสิ่งที่ทำให้เขาคิดได้ คือ การเล่นบอลในสไตล์ของตัวเอง และเป็นธรรมชาติของตัวเอง ทำให้ในชุดช้างศึกรุ่นเยาวชน อายุไม่เกิน 23 ปี เขาได้เป็นตัวแทน และได้ เป็นตัวแทนประเทศเล่นรายการใหญ่ “ซีเกมส์” จนพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองกลับมา

“กับรายการซีเกมส์ที่พวกผมได้ไป ตอนแรกยอมรับว่ามีแรงกดดันเยอะมาก ยิ่งในโซเชียลมีเดีย มีแฟนบอลเข้ามาด่า ว่าเล่นไม่ดี โดนถล่ม แต่พวกผมในทีมนั่งคุยกันว่า อย่าคิดมาก เล่นให้ดีที่สุด เอาคำด่าเป็นแรงผลักดัน สุดท้ายผลออกมาคือ พวกเราได้แชมป์ ถือเป็นความภูมิใจ ที่พวกผมสามารถพิสูจน์ให้คนที่ดูแคลนได้เห็นว่าพวกผมทำได้”

กับเป้าหมายทีมชาติ “เจ้าเคน” ยังฝันถึงการไต่เข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ แม้รายการก่อนหน้านั้นจะมีชื่อโผล่ให้ร่วมลุ้นอยู่บ้าง แต่เขายังไม่ใช่คนที่ถูกเลือก​

แต่ยังไง เขายังมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน

กับสโมสรอาชีพ อย่าง “เขี้ยวสมุทร” เขาบอกกับ DST. ว่า คือเป้าหมายของเขาอยากทำให้ผลงานทีมดีกว่าปีที่ผ่านมาให้ได้ และเขาพร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีทุกครั้งที่อยู่ในสนามแข่ง

สุดท้าย “เจ้าเคน” ฝากถึงเยาวชนที่กำลังไต่สู่ทางแห่งฝันว่า “ทางของฟุตบอล สิ่งสำคัญคือความตั้งใจและมุ่งมั่น รวมถึงมุมานะ ขอให้คิดเสมอว่า เราทำเพื่อคนรอบข้าง ไม่ใช่เฉพาะตัวเรา แม้ทางของฟุตบอลจะมีแรงกดดันและอุปสรรค ขอให้นำมาเรียนรู้ อย่าเสียสมาธิ และตั้งใจในสิ่งที่ได้ทำ”.

ขอบคุณ สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้
By BlackSugar

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *