- Home
- Special Report
- “16 ทีม” ไทยลีก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
“16 ทีม” ไทยลีก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
DST.Special Report : เห็นเขาเล่น #10yearchallenge รูปถ่ายเมื่อปี 10 ปีที่แล้วกับปัจจุบัน กันเกลื่อน “Facebook” ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของบริการเครือข่ายสังคมสัญชาติอเมริกัน “ผู้พลิกโฉม” ให้ทั่วโลกใกล้กันแค่เปิดหน้าจอ
หวนนึกคึก จับโยงมาวงการฟุตบอลไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่เพิ่งเริ่มจริงจังพัฒนา “ลีกอาชีพ” ใหม่ๆ จนนักฟุตบอลใช้ลำแข้ง หยาดเหงื่อ แลกเม็ดเงินและเกียรติยศได้ในปัจจุบัน
10 ปีมานี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะในทางอาณาจักรลูกหนังสยาม หลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างเท่าเดิม และหลายอย่างแย่ไปกว่าเดิม แต่โดยรวมแล้ว “ดี” มากกว่า “แย่”
อย่างน้อยการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึก “เอเชียน คัพ” ของ “ช้างศึก” ก็เป็นผลสัมฤทธิ์หนึ่งของการมีลีกที่แข็งแกร่ง อันเป็นการเปิดกว้างให้ “ผู้เล่นฝีมือดี” ได้รับโอกาส
ขณะเดียวกัน ยังยกระดับฝีมือนักเตะไทย หลังแข้งอิมพอร์ตฝีเท้าฉกาจจากต่างประเทศ “ทะลัก” เข้ามาหาเลี้ยงชีพในยุทธจักร “ไทยลีก” กันปีละหลายคน
ปี 2009 หรือฤดูกาล 2552 ผู้คว้าโทรฟี่ไทยพรีเมียร์ลีกไปครองขณะนั้นคือ “เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด” ที่เพิ่งจะเลื่อนชั้นมาในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1
ตอนนั้น “หัวโจก” ในลีกสูงสุดบ้านเรา ยังเป็นพวกชลบุรี เอฟซี, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขณะที่ “เอลกลาซิโก” ยุคนั้น ต้อง “เมืองทองฯ – ชลบุรี” ที่ผู้ชมล้นสนาม บรรยากาศเดือด การ์ดสนามทำงานกันหัวหมุน เพราะอุณหภูมิ “ปรอทแตก” ตลอดเวลา
ปีนั้น “เมืองทอง” ได้แชมป์ด้วยคะแนน 65 แต้ม เฉือน “ชลบุรี” อภิมหาอำนาจลูกหนังช่วงนั้นที่ได้อันดับ 2 แค่ 3 คะแนนเท่านั้น
ส่วนอันดับ 3 เรื่อยไปถึง 16 เรียงตามลำดับดังนี้ บางกอกกล๊าส เอฟซี, บีอีซี เทโรศาสน, โอสถสภา เอ็ม 150, การท่าเรือไทย, ทีโอที, ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, สมุทรสงคราม เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด, ราชนาวี ระยอง, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ศรีราชา เอฟซี, จุฬา ยูไนเต็ด และนครปฐม เอฟซี
ปีนั้น “อานนท์ สังข์สระน้อย” ของ “มังกรไฟ” คว้าดาวซัลโวไปครอง หลังกดไป 18 ประตู ขณะที่ “ศรีราชา – จุฬา – นครปฐม” คือ 3 ทีมที่ร่วงหล่นตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 1
ปี 2009 “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ยังเล่นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นทีมที่มีซุปเปอร์สตาร์ล้นทีม ขณะที่ “บุรีรัมย์” เพิ่งจะเริ่มเข้าสู่แวดวงฟุตบอล ด้วยการก่อตั้ง “บุรีรัมย์ เอฟซี” ขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 2 โซนอีสาน
ก่อนที่ต่อมา “เนวิน ชิดชอบ” จะเทคโอเวอร์ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” มาเป็น “บุรีรัมย์ พีอีเอ” แล้วมาเตะกันที่ จ.บุรีรัมย์ จนยิ่งใหญ่ทุกวันนี้
ขณะที่ “ไทยลีก” ฤดูกาล 2019 หรือ 10 ปีต่อมา 16 ทีมบนลีกสูงสุด เปลี่ยนหน้าไปจากฤดูกาล 2009 มากมาย หลายปีล้มหายตายจากไปแล้วก็เยอะ
โดยฤดูกาล 2019 จำนวน 16 ทีมในไทยลีก (เรียงตามตัวอักษร) ประกอบด้วย การท่าเรือ เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล, เชียงใหม่ เอฟซี, ตราด เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, พีที ประจวบ, พีทีที ระยอง, ราชบุรี มิตรผล, สมุทรปราการ ซิตี้, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, สุโขทัย เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
มีหลายทีมจาก 2009 หายไปจาก “ลีกสูงสุด” ได้แก่ บางกอกกล๊าส เอฟซี (ตกชั้นฤดูกาล 2018), บีอีซี เทโรศาสน (ตกชั้น 2018), โอสถสภา เอ็ม 150 (เปลี่ยนเป็นจัมปาศรี ยูไนเต็ด ไทยลีก 4), ทีโอที เอสซี (ยุบทีม), ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร (ยุบทีม), สมุทรสงคราม เอฟซี (ไทยลีก 4), ราชนาวี ระยอง (ย้ายมาเล่นสัตหีบ ตกชั้นฤดูกาล 2018), ศรีราชา เอฟซี (ขายสิทธิ์ให้ทวีวัฒนา เอฟซี), จุฬา ยูไนเต็ด (เปลี่ยนเป็นจามจุรี ยูไนเต็ด เล่นไทยลีก 3) และนครปฐม เอฟซี (เล่นไทยลีก 3)
ทีมที่ยังอยู่บน “ลีกสูงสุด” หลังผ่านมา 10 ปี ในฤดูกาล 2019 คือ เมืองทอง, แบงค็อก ยูไนเต็ด, สมุทรปราการ ซิตี้ (พัทยา ยูไนเต็ดเดิม), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (การไฟฟ้าฯเดิม), ชลบุรี และ การท่าเรือ
ถือเป็น “วัฏจักร” ขนาดใบหน้าคนยังเปลี่ยน ไทยลีกก็ต้องมีเปลี่ยนแปลงไปตาม “กาลเวลา”
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย