- Home
- Special Report
- “ไทยลีก” บอลกิน “โค้ช” แบบนี้ เรียกมา “คุม” หรือ “เที่ยว”
“ไทยลีก” บอลกิน “โค้ช” แบบนี้ เรียกมา “คุม” หรือ “เที่ยว”
DST.Special Report : บางคนยังไม่เคยคุมทางการสักนัดก็เก็บกระเป๋า
ชึ้นชื่อกันมาในตลอดระยะเวลาหลายปีว่า “ไทยลีก” คือ ลีกที่ใช้ “กุนซือ” เปลืองมากที่สุดลีกหนึ่ง จนคนประชดประชันกันเล่นว่าเป็น “ลีกกินโค้ช”
ในแต่ละฤดูกาลอาณาจักร “ลีกสยาม” ใช้บริการโค้ชชาวไทยและโค้ชชาวต่างชาติกันหลายสิบชีวิต ขณะที่ “บางคน” ไปเร็วเสียจนเหมือน “มาเที่ยว”
บางคนไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้คุมทีมในนัดอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ อย่างล่าสุดในราย “ดาวิด คาร์โบเนโร่” ขงเบ้งชาวสเปน ที่ “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ์ เจ้าบุญทุ่มไทยลีก 2 เพิ่งจะเซ็นสัญญาเข้ามาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.61 หลังทีมดังแห่งอีสาน ปรารถนาเกมรุกที่ดุดัน แต่หลังจากผ่านไปแค่ราว 1 เดือน ก็ต้อง “แยกทาง”
วันนี้ “DailySoccerThailand” ขอนำสถิติการคุมทีม “อันแสนสั้น” ที่ซีรีบรัมเล็กๆ จะพอจำได้มาเสนอดู โดยเลือกฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไปหยกๆ อย่าง 2561
ตอนต้นฤดูกาล 2561 กุนซือโปรโฟล์หนาสมัยเป็นพ่อค้าแข้ง “คริสเตียน ซีเก” ชาวเยอรมัน เข้ามาคุมราชบุรี มิตรผล เอฟซี แต่ผ่านไปแค่ 2 นัด “ราชันย์มังกร” กับ “ซีเก” ก็เซย์กู๊ดบายแก่กัน
เช่นเดียวกับ “ดราโก มามิช” ชาวโครเอเชีย ที่เตรียมทีมมาอย่างดีในช่วงปรีซีซั่น แต่ปลายทางของเขากับชัยนาท ก็หยุดอยู่ที่ 2 นัด
2 นัดของ “ซีเก” กับ “ราชบุรี” และ “มามิช” กับ “ชัยนาท” ว่าเร็วแล้ว “เรเน เดอซาเยียร์” ที่ไปคุมราชบุรีอีกคน ก็ไวราวกับ “กามนิตหนุ่ม” เพราะเขามีเวลาแค่ 19 วัน บนเก้าอี้เท่านั้น
ส่วนพวกที่เพิ่งรับงาน (ไม่ได้คุมทีมต่อเนื่องมาก่อนหน้านั้น) แต่โดนปลดหลังผ่านไป 10 นัด ก็เยอะไม่เบา
ไล่ตั้งแต่ “โจเซฟ เฟร์เร” ของบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่คุมได้ 7 นัด “สกอตต์ คูเปอร์” ของโปลิศ เทโร เอฟซี “โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช” ของชลบุรี เอฟซี
หรือในราย “โค้ชบู” ชำนาญ แพรขุนทุด ของราชบุรี เอฟซี ที่เข้ามาคุมทีมต่อจาก “วิริยะ เผ่าพันธุ์” ได้เพียง 2 นัด หรือ 1 สัปดาห์ ก็ “ปลิว” ดังสายฟ้าฟาด เร็วสุดเป็นประวัติศาสตร์ลูกหนังไทย
รวมไปถึง “ขวัญใจบอลไทย” เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ที่เข้ามาคุมราชนาวี เป็นคนที่ 3
เขาอาจลือเลื่องสมัยเป็นนักเตะ แต่ที่สัตหีบ เขามีโอกาสได้ยืนข้างสนามเพียง 21 วันเท่านั้นเอง
ส่วนพวกที่รับงาน “กลางศึก” อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ที่แยกทางกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
แล้วมารับงานที่ “โปลิศ เทโร เอฟซี” แต่คุมทีมไปได้แค่ 9 นัด ผลงานออกอ่าวไทย ชนะ 2 แพ้ 2 และเสมอไป 5 ทำให้โบกลาตอนท้ายฤดูกาล
หรือย้อนกลับไปในอดีต “มิก้า ลอนน์สตรอม” ชาวฟินแลนด์ ถูกดึงเข้ามากู้วิกฤต “สระบุรี เอฟซี” เพื่อหนีตกชั้น แต่หลัง “วีระพล อดิเรกสาร” นายใหญ่ไขก๊อก เขาก็ประกาศแยกทางกับทีม หลังเพิ่งคุมทีมไปได้แค่ 4 นัด และเก็บได้แค่ 1 คะแนน
“แซร์โจ้ อปาเรซิโด้” ชาวบราซิล เข้าคุมทีมสุพรรณบุรี เมื่อฤดูกาล 2016 แต่เมื่อคุมทีมไปได้ 3 นัด เก็บได้ 4 คะแนน จนกระทั่งนัดที่ 4
จู่ๆ ก็มีการอ้างกันว่า เจ้าตัวท้องเสียไม่ได้ไปคุมทีมข้างสนาม กระทั่งหลังเกมสโมสรก็ออกมาประกาศแยกทางแบบงงเป็นไก่ตาแตกกันหมด
“มาซาฮิโระ วาดะ” ชาวญี่ปุ่น ถูกดึงมาช่วยทีมศรีสะเกษหนีตกชั้น ในท้ายฤดูกาล 2016 ขณะเหลือโปรแกรมเพียง 6 นัด แต่เขาคุมทีมได้แค่ 3 นัด ประเทศไทยก็ต้องพบกับข่าวเศร้า และลีกต้องยุติการแข่งขัน เช่นเดียวกับสัญญาของเขา
“คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่” ชาวบราซิล เข้ารับงาน “กิเลนผยอง” ในฤดูกาล 2011
โดยเกมทางการของเขา 2 นัดแรกคือ การพาทีมไปแพ้ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ให้กับ “ศรีวิจาย่า” จากอินโดนีเซีย จนตกรอบ และแพ้ในถ้วยพระราชทาน ก. ให้กับ “ชลบุรี เอฟซี” ทำให้ถูกปลดทันที ทั้งที่ไทยลีกยังไม่รูดม่าน รวมแล้วได้ทำงาน 35 วัน
พอกันกับ “วินฟรีด เชเฟอร์” ขงเบ้งชื่อดัง ที่คุมเมืองทองฯ แค่ได้ 5 นัด ประกอบด้วย เกมลีก 3 นัด และบอลถ้วย 2 นัด สุดท้าย “จากลา” มีเวลาทำงานเท่ากับ “คาร์วัลโญ่” คือ 35 วัน
ส่วนสถิติเร็วแบบ “เร็วเวอร์” ในโลก เท่าที่ “DailysoccerThailand” ค้นหา
พบว่า อยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยเจ้าของสถิติผู้นี้มีนามว่า “เลรอย โรซิเนีย” โดย “ทอร์คีย์ ยูไนเต็ด” ทีมในลีกล่าง ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว “เรลอย โรซิเนีย” ในการเข้ามาคุมทัพ
แต่หลังจากผ่านไป 10 นาที สโมสรแห่งนี้ได้ถูกเทคโอเวอร์ บอร์ดบริหารทั้งหมดถูกลอยแพ เช่นเดียวกับตัวเขา
ดังนั้น “ไทยลีก” สมควรได้รับฉายา ลีกสุดโหด ที่เปลี่ยนโค้ชเป็นว่าเล่น…. หาก “กุนซือ” รายนั้น
ทำผลงานไม่เข้าเป้า เจ้านายใหญ่.
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย