• Home
  • Exclusive
  • ชีวิตต้องมีทาง  “เต็น – ปานศิริ” จาก “นักบอลเดินสาย” สู่สังเวียนอาชีพ

ชีวิตต้องมีทาง  “เต็น – ปานศิริ” จาก “นักบอลเดินสาย” สู่สังเวียนอาชีพ

By on January 7, 2019 0 1909 Views

DST.Exclusive :  ไทยลีก ฤดูกาล 2019 กับทีมระดับ ไทยลีก2 อย่าง “ยักษ์แสด – อุดรธานี เอฟซี” เรียกว่า ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร

ด้วยแผนทำทีมสไตล์ “บิ๊กก้อ – วัชรพล ขาวขำ” ประธานสโมสรฯ ที่ต้องการสร้างทีมฟุตบอล ที่ เน้นทีมยังบลัดทำให้การเตรียมตัวทัพนักเตะ คือการ “ขนดาวรุ่ง” ผสม “แข้งเก๋า”

ในบรรดา “แข้งดาวรุ่ง” ที่พาเหรดเสริมทัพ กว่า 10 คน มี กองกลางตัวรับ ที่ฝีเท้าไม่ธรรมดา “เต็น – ปานศิริ สุกุณีย์” ที่เพิ่งย้ายมาจาก “ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี”

แม้ประวัติค้าแข้งของ “เจ้าเต็น” หากนับกันจริงๆ จังๆ จะมีเพียง 7 ปี แต่ด้วยสไตล์ “ใจถึง พึ่งได้” ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกที่ “อุดรธานี เอฟซี” คว้าตัวมาเสริมทัพ

แต่เชื่อไหม? กว่าที่ “เจ้าเต็น” จะมาถึงวันนี้ เขาเคย ถอยห่างจาก “วงการอาชีพ” และไปเตะบอลเดินสาย นานถึง 2 ปี!!

เพราะเขาเอง.. ไม่อยาก เล่นบอลในกรอบ อยากมีอิสระในการใช้ชีวิต

“ช่วงที่ผมเรียน ม.รังสิต แม้จะมีชื่อเป็นตัวกีฬาของมหาวิทยาลัยและ มีชื่อแข่งขันหลายรายการอาชีพ ซึ่งตอนนั้น ม.รังสิต เล่นในดีวิชั่น2  แต่ผมติดเพื่อนและติดเที่ยว ทำให้ไม่อยากเข้าระบบฟุตบอลที่ต้องซ้อมและอยู่ในกติกาที่เข้มข้น ผมจึงออกจากทีม แต่ช่วง 2 ปีนั้นผมยังเตะบอลเดินสาย เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง”

ซึ่งตลอด 2 ปี ที่เขาเป็น “นักฟุตบอลนอกระบบ”  ทำให้เขาหวนคิดถึง “ความฝัน” วัยเด็ก ที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และ อยากติดทีมชาติ  และด้วยภาวะรับผิดชอบ ที่อยากให้ “ครอบครัว” ภูมิใจและมีชีวิตสุขสบาย

เขาจึงกลับมาถามตัวเอง  และ วาดเป้าหมายบนเส้นทางฟุตบอลออาชีพอีกครั้ง

และด้วยสไตล์การเล่นบอลที่ฟอร์มไม่เคยตก บวกกับ “ความโชคดี” ทำให้ “เต็น” ในวัย 21 ปี กลับสู่สังเวียนสนามหญ้าอีกครั้ง

“ตอนที่เล่นบอลเดินสาย มีคนเห็นและตามผมไปเล่นบอล ถ้วย ค. ให้กับ ทีมทหารอากาศ  จากนั้นได้รับโอกาสเข้าทีม แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ที่เล่นในระดับดีวิชั่น1 เป็นนักเตะที่ขึ้นชุดใหญ่ ผมถือว่าโชคดีที่ได้รับโอกาสกลับมาทำในสิ่งที่ผมรัก และเป็นความฝันในสมัยเด็ก”

และด้วยโอกาสที่ได้รับ ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปรับตัวเข้าระบบ “มืออาชีพ” และใช้แรงรัก ฟุตบอล และครอบครัว เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาไม่ยอมแพ้

แต่ด้วยเหมือนชะตาที่ “ฟ้าลิขิต” ตลอด 7 ปีที่เขากลับมายืนบนสายทางอาชีพ กลับต้องพบกับการ “พเนจร”

หลังจากจบปีแรก กับ “แอร์ฟอร์ซ” ต่อด้วย “เกร็คคู ลูกทัพฟ้า” เพราะปัจจัยเรื่องความมั่นคง ต่อด้วย “เจ ดับบลิว รังสิต”  – “เพื่อนตำรวจ” – “นครปฐม ยูไนเต็ด” –  “ประจวบ เอฟซี” – “ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี” ซึ่งแต่ละแห่ง “เจ้าเต็น” ใช้เวลาสโมสรแห่งละ 1 ปีเท่านั้น

“ย้ายทีมบ่อยๆ ผมมองว่าเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แถมยังได้ย้ายไปตามจังหวัดต่างๆ เหมือนได้เปลี่ยนมุมมอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา แม้การย้ายทีม หรือเข้าไปเป็นเด็กใหม่ของทีม จะทำให้เราต้องพิสูจน์ตัวเองหนักกว่าคนที่อยู่มาก่อน แต่นั่นคือการได้พิสูจน์ตัวเองอย่างหนึ่ง”

ซึ่งบทพิสูจน์ที่ “ปานศิริ” ว่าไว้ กลายเป็นสิ่งที่สอนให้เขาไม่ยอมแพ้ และ เคารพในเพื่อนร่วมทีม

“ตอนที่อยู่สโมสรเพื่อนตำรวจ มีดาราในทีมเก่งๆ เยอะ ทั้ง ปกเกล้า อนันต์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ลีซอ-ธีรเทพ วิโนทัย และตำแหน่งที่ผมเล่น คือ กลางรับ ทับกับตำแหน่งนักเตะต่างชาติอีก ทำให้ผมเบียดเป็นตัวจริงยากมาก แต่ผมไม่ยอมแพ้ ซ้อมตามระบบและให้เพื่อนในทีม อย่าง ดาโน่ เซียก้า แข้งเก่งจากไอเวอร์รี่ โคสต์ คอยแนะนำ และเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เขามี ทั้งการอ่านเกม และแนวทางที่จะเป็นประโยชน์กับทีม จากนั้นผมกลับมาซ้อม และซ้อมอย่างมุ่งมั่น เพราะผมยังต้องสู้ เพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง”

 กับบทพิสูจน์ที่เขาพยายามทำ หากนับกันจริง ยังไม่ใช่ “แรงกดดันขั้นสูง” ที่ “มิดฟิลด์ตัวรับ”  เคยเจอ

อย่างที่บอกไปว่า หลังจากห่างสนามหญ้า ไปถึง2ปี และได้โอกาสร่วมทีมในสโมสรต่างๆ แต่ด้วยวิถีของฟุตบอล ที่ต้องปรับ – เปลี่ยน เพื่อชัยชนะ ทำให้ “เจ้าเต็น” ไม่ใช่ผู้เล่นในแผน

โดยแรงกดดันสุดที่เขาเจอ คือ ตอนที่ “พีที ประจวบ เอฟซี” ได้สิทิ์เลื่อนชั้น แต่เขากลับไม่ได้ไปต่อ ทำให้เขาต้องวิ่งหาทีมสังกัดเอง

 “ก่อนที่เข้ามาอยู่สมุทรสาคร  เรียกว่าเป็นปีที่ผมแทบหาทีมใหม่ไม่ได้ และสมุทรสาครให้โอกาสผมได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และผมเซ็นต์สัญญาในวันสุดท้ายที่จะต้องส่งรายชื่อเข้าการแข่งขัน”

กับฤดูกาล 2019 ที่ใกล้เปิดฉาก แน่นอนว่า “ปานศิริ” คือ ยักษ์ตนใหม่ ของทีม อุดรธานี เอฟซี แม้ในสังกัดนี้ เขายังไม่รู้ว่าจะชะตาชีวิต จะพาให้เขาต้องพเนจรอีกครั้งหลังจบฤดูกาลหรือไม่

แต่สิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้กับทีมคือ ทำผลงานให้ดีที่สุด เพราะต้องการพาทีมเข้าสู่โซน “ลุ้น” เลื่อนชั้น แม้ฤดูกาลใหม่นี้จะต้องเจองานโหด ลานหิน ก็ตาม

“พวกผมทุกๆคน ทำงานกันอย่างหนัก และพยายามทำให้เต็มที่เพื่อชื่อเสียงของทีมอุดรธานี เอฟซี  และแฟนบอล ดังนั้นอยากจะให้เข้ามาเชียร์ และส่งกำลังใจพวกเรากันเยอะๆ”

 


ขอบคุณ สโมสรอุดรธานี เอฟซี

By BlackSugar

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *