จำได้หรือเปล่า…เพื่อนร่วมทีม “มุ้ย” ที่อัลเมเรีย ย้ายมา จอย “อาร์มี่ ยูไนเต็ด”

DST.News : เชื่อขนมกินได้เลยว่า “ชาวบูร์กินาฟาโซ” (ประเทศที่เคยมาเตะคิงคัพกับประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว) ที่เคยโดนแฟนบอลไทยวิจารณ์ แบบเสียๆ หายๆ ทั้งแบบที่จำชื่อได้ และพวกที่ไม่รู้จักชื่อแต่ก็ด่ากับเขาไปด้วย อย่างหนักหนา ที่สุด

จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “โจนาธาน ซองโก้”

และเจ้าตัวนี้แหละ ที่ล่าสุด คือ แข้งป้ายแดงของ ”สุภาพบุรุษวงจักร” อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมในไทยลีก 2

แต่ก่อนจะขุดประวัติมาวิจารณ์แบบปีที่แล้ว….. มาดูนี่ก่อน ว่า “ซองโก้” นี่โคตรโก้เลย

หมอนี่ มีประสบการณ์กับดวลโคตรแข้งของยุค อย่าง “ลิโอเนล เมสซี่” – “เนย์มาร์” และ “คริสเตียโน่ โรนัลโด” มาแล้ว เมื่อครั้งเล่นกับ “อัลเมเรีย” ตั้งแต่ปี 2011-2017

โดยพวกเขา สลับเลื่อนชั้น-ตกชั้น ระหว่าง ลีกสูงสุด กับ เซกุนดา ดิวิชั่น ทุกๆ 2 ปี

ในปี 2014 “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้โอกาสสัมผัสกับ “ลา ลีกา” กับ “อัลเมเรีย” เช่นเดียวกัน แต่สถานะในตอนนั้น ”มุ้ย” ยังเป็นเพียงน้องใหม่ของทีม

ขณะที่ “ซองโก้” เป็นนักเตะตัวหลัก ที่โค้ชให้โอกาสลงสนามอยู่เสมอ เมื่อได้รับโอกาสลงเล่นร่วมกันกับ “มุ้ย” มักมีหลายจังหวะที่ “ซองโก้” ฝืนเลี้ยงไปเอง ไม่ยอมจ่าย สุดท้ายเสียบอล จังหวะเหล่านั้น หลายคนคงจำได้ดี และน่าจะเคยหลุดปากสบถอะไรไปบ้าง

“ซองโก้” เล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีก เขาโต มาจากสโมสรเมืองหลวงของประเทศ บูร์กินาฟาโซ “วากาดูกู” ก่อน “อัลเมเรีย” จะคว้าไปร่วมทีม

เมื่อปี 2010 ลงเล่นในทีมสำรอง 52 นัด ทำไป 11 ประตู จึงได้โอกาส ใน ลา ลีกา นัดแรก

ในปี 2013 พร้อมทำสถิติเป็น “นักเตะบูร์กินาฟาโซคนแรก” ที่ได้เล่นลีกสูงสุด ของสเปน เช่นเดียวกับ “เจ้ามุ้ย” นั่นเอง

ดังนั้นหากจะเรียกเขาในอดีต เป็น “โกลเดนบอย” ของประเทศ บ้านเกิด คงไม่เกินเลยความจริงไปนัก

ตลอด 7 ปี ลงเล่นลา ลีกาไป 102 นัด ยิงไป 6 ประตู

มีลูกยิ่งที่คนจำได้ คือ การยิงจากครึ่งสนาม 55 หลา ในเกมกับเรอัลเบติส

จากนั้น เมื่อ อัลเมเรีย ตกชั้นในปี 2014 เขาถูกลดบทบาทในทีมชุดใหญ่ของโสมสร โดยเฉพาะใน ปี 2015 ถึง 2017 ที่มีโอกาสลงไปเลี้ยงบอลโชว์แฟนๆ เพียง 16 นัดเท่านั้น โดยไม่สามารถทำประตูได้เลย

สำหรับประสบการณ์ระดับชาตินั้น เคยเล่นให้กับทีมชาติ บูร์กินาฟาโซไป 22 นัด ทำไป 3 ประตู ทั้งหมดเกิดขึ้นกับทีมจากทวีปแอฟริกาทั้งหมด

จุดเด่นของ “ซองโก้” ที่ทุกคนเห็น หมอนี่เป็นแนวรุกที่ไปกับบอลได้ดี เร็ว แข็งแกร่ง และมีความั่นใจในตัวเองสู๊งงงงงงมากส์

แต่ดูเหมือนว่า สิ่งเหล่านั้นยังไม่ดีพอลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ไม่เชื่อลองสังเกตดูบรรดาโคตรบอลทั้งหลาย ไม่ใช่ว่าพวกเขาเลี้ยงบอลไม่พริ้ว หรือ ไม่มีความเร็ว

แต่เขาเหล่านั้น รู้ดีว่าจังหวะไหนควร จ่าย จังหวะไหนควรดึง หรือ ยิง เพื่อประโยชน์สูงสุดของทีม จึงประสบความสำเร็จ

แนวทางการเล่นแบบที่เจ้าตัว และ “เธียวี่ บิฟูม่า” คู่หูแนวรุกของ “ซองโก” ณ อัลเมเรีย จึงไม่ได้ช่วยผลักดันให้ทีมไปสู่เป้าหมาย “รอดตกชั้น” ได้ ในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตาม นับแต่ “มุ้ย” ย้ายกลับมา “กิเลนผยอง” อีกครั้ง ไม่เคยได้ติดตามดู อัลเมเรีย เล่นอีก ไม่รู้ว่า ปัจจุบัน ทัศนคติการเล่นของหมอนี่ เปลี่ยนแปลงไป หรือยังเป็น “บอลชายเดี่ยว” แบบเดิม

มองกลับกัน การย้ายมาร่วมทัพไทยลีก 2 กับ “อาร์มี่ ยูไนเต็ด” นั้น เป็นเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างโดยสิ้งเชิง ทั้งกระดูกบอล เพื่อนร่วมทีม ความเข้มข้นของการแข่งขัน และสไตล์การเล่น วัฒนธรรมทั้งในและนอกสนาม ไม่แน่ว่า!! สไตล์การเล่นแบบเดิมของเขาอาจเฉิดฉายในไทยลีก 2 ก็เป็นได้

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสต๊าฟโค้ช และเพื่อร่วมทีม อาร์มี่ ยูไนเต็ด แล้วว่า จะปรับจูนกับเพื่อร่วมทีมคนใหม่ ที่มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดารายนี้ 

แต่หนึ่งประสบการณ์ใหม่ที่เขาจะสัมผัสได้แน่ๆ คือ ความยิ่งใหญ่ และ ทัศนคติ ของชาวไทยที่มีต่อ อดีตเพื่อนร่วมทีมของ “ซองโก้” ในประเทศสเปน

ว่าเพราะเหตุใด “เจ้ามุ้ย” ถึงเป็นคนไทยคนแรกที่ได้สัมผัสเวที ลา ลีกา อย่างที่ตัวเขาเคยมีประสบการณ์ในแบบเดียวกันมาแล้ว.

ขอบคุณ สโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนต็ด

By ใบไม้ห้าแฉก