
บททดสอบช้างศึก กับ 30 ปี ที่ไม่เคยชนะชาติตะวันออกกลาง
DST.News Report : นับนิ้วอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทีมชาติไทยจะเตรียมลง “คิกออฟ” ศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 แล้ว
โดยหนนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เศรษฐีเงินถังกลางทะเลทราย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ
ช้างศึก ที่ได้ตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ และถูกจับวางไว้ในโถ 2 อยู่ร่วมสายกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), บาห์เรน และ อินเดีย
หลายคนมองว่า ทีมชาติไทย หนนี้ได้ใบบุญจากผลงานเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายบอลโลก จนได้อยู่ในสายที่ง่ายสุด (ในรอบหลายปี) และหนนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกทีม มิโลวาน ราเยวัช มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ เป็นครั้งแรก
หลังที่ผ่านมา “จอดป้ายรอบแรก” และรอบคัดเลือกเกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่สถิติเดิม นอกจากไม่เคยผ่านรอบแรกได้แล้ว ทีมชาติไทย ไม่สามารถเอาชนะชาติจากตะวันออกกลางมากว่า 30 ปี!!
ซึ่งคู่ต่อสู้ 3 ชาติในสาย เอเชียนคัพหนนี้ ล้วนเป็นทีมจากตะวันออกกลางทั้งหมด
ลองมาดูสถิติกัน
9 กุมภาพันธ์ 1988 เป็นครั้งสุดท้ายที่ ทีมชาติไทย เอาชนะ อินเดีย 1-0 ที่อาบูดาบี หลังจากนั้นพลพรรคช้างศึกไม่เคยพุ่งชนชัยชนะ รายการเอเชียนคัพ ในการเจอกับชาติตะวันออกกลาง
เอเชียนคัพ 1988 (รอบคัดเลือก) แพ้ ยูเออี 0-3, เสมอ บังกลาเทศ 3-3
เอเชียนคัพ 1996 (รอบสุดท้าย) แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-6, แพ้ อิหร่าน 1-3, แพ้ อิรัก 1-4
เอเชียนคัพ 2000 (รอบสุดท้าย) แพ้ อิรัก 0-2, เสมอ อิหร่าน 1-1, เสมอ เลบานอน 1-1
เอเชียนคัพ 2011 (รอบคัดเลือก) เสมอ จอร์แดน 0-0
เอเชียนคัพ 2015 (รอบคัดเลือก) แพ้ เลบานอน 2-5, แพ้ คูเวต 1-3
กับ เอเชียนคัพ 2019 เป็นปีที่สมาคมฟุตบอลฯ หมายมั่นปั้นมือว่า ต้องการผ่านรอบแรกไปให้ได้
และกับการจับสลากที่ “โคตรโชคดี” ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าอย่างแย่ ทีมชาติไทย น่าจะคว้าชัยเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และ ผ่านเข้ารอบเป็น 1 ใน 3 ทีมที่ดีสุดผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์
ขณะที่ดาวยิงหมายเลข 1 ทีมชาติไทย อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ยังมองว่า “กำแพงระดับเอเชีย” นั้นไม่ใช่งานที่ง่าย แต่ก็ถือเป็นบทพิสูจน์ทีมชั้นดีว่า เราดีแค่ไหนในเวลานี้
“เกมแรกกับ อินเดีย เป็นเกมแรกของทัวนาเมนต์ จะสำคัญมากที่สุด เพราะหากเราชนะได้ โอกาสที่ผ่านเข้ารอบก็จะเปิดกว้าง และการเล่นในเกมที่เหลือจะทำให้เราผ่อนคลายยิ่งขึ้น” เอล แดงดา กล่าวเริ่ม
แล้วทีมอื่นหละ?!! ไม่คิดเผื่อเอาไว้บ้างหรอ?
“อย่างที่บอก การเล่นในระดับเอเชียยากเสมอ จากสถิติที่ผ่านมาเราอาจไม่ดีนักเวลาเล่นกับทีมจากตะวันออกกลาง แต่เรามีการเตรียมทีมอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าเราพัฒนามากขึ้นแค่ไหน ความห่างของเรากับชาติอื่นจะมากหรือไม่ ทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมด”
แน่นอนว่า เกมนี้อาจจะไม่ง่ายนัก แต่ถือว่าเป็น บทพิสูจน์ครั้งสำคัญ ว่า “ช้างศึก” ยังมีของ และจังหวะให้แฟนบอลชาวไทยได้ชื่นใจหรือไม่
สำหรับ “ธีรศิลป์” แล้ว เขาก็คาดหวังโดยส่วนตัวว่าอยากพาทีมผ่านเข้ารอบให้ได้ และทำผลงานที่ดีให้ทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์นี้
ดังนั้นมาลุ้นกันว่า “ช้างศึก” เชือกนี้จะไปไกลแค่ไหน ในทัวร์นาเมนต์ลูกหนังที่เชี่ยวกราด และเข้มข้นสุดในทวีปเอเชีย
ฺัBy YoongNam