- Home
- Special Report
- ศูนย์รวม “แข้งสายพันธุ์ผสม”

ศูนย์รวม “แข้งสายพันธุ์ผสม”
DST.Special Report : คงไม่ต้องเอื้อนเอ่ยการเสริมทัพของ “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” รองแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2018 เพื่อสู้ศึกในปีหน้าว่า มันหน้าอิจฉาตาร้อนเพียงใด หลังกระชากแข้งดีกรีทีมชาติไทยแบบ “แฮ็ตทริก” รวด
ทั้ง “เมสซี่แม่ริม” อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ มาจากอีสานใต้ หรือ “ทริสตอง สมชาย โด” กับ “เจ้าบาส” พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา แบ็กขวา – ซ้าย จาก “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ไหนจะที่รอเปิดตัวอีกหลายรายแบบตู้มต้ามอีก
แต่จะขอกล่าวถึงการได้ “ทริสตอง โด” หนุ่มลูกครึ่งไทย – เวียดนาม – ฝรั่งเศส มาร่วมทัพ ซึ่งมันตอกย้ำให้เห็นว่า “แข้งเทพ” มีรสนิยมชมชอบแข้งลูกครึ่งปานใด
หากจะพูดว่า ทีมรองแชมป์ไทยลีก เป็นทีมที่สะสม “นักเตะสายพันธุ์ผสม” เอาไว้มากในสุดในประเทศคงไม่ได้เกินจริงนัก เพราะปัจจุบัน “มาโน่ โพลกิ้ง” เฮดโค้ชชาวแซมบ้า มีผู้เล่นลูกครึ่งให้เลือกใช้เต็มทีมไปหมด
ก่อนหน้า “ทริสตอง โด” ทีมป๋าอย่าง “แบงค็อก” มีแข้งลูกครึ่งที่เป็นกำลังหลักให้กับทีมหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “มิก้า ชูนวลศรี” ปราการหลังเชื้อสายไทย – เวลส์
“แข้งเทพ” ยังมี “มานูเอล ทอม เบียห์ร” เซนเตอร์แบ็กลูกผสมไทย – เยอรมนี ที่เป็นตัวหลักในแผงหลังให้กับทีมในปัจจุบัน
หรือจะเป็น “แอนโทนี่ อําไพพิทักษ์วงศ์” กองกลางลูกครึ่งไทย – อเมริกัน ซึ่งเป็นนักเตะพันธุ์ผสมคนแรกๆ ของไทยลีก ที่อยู่กับ “แบงค็อก” ก่อนใครเพื่อน หลังย้ายมาจาก “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
นอกจากนี้ พวกเขายังมี “อเล็กซานเดอร์ กษิดิศ ซิกฮาร์ท” วิงแบ็กลูกครึ่งไทย – เยอรมนี ที่รับสัมปทานมาจาก “บุรีรัมย์” หลังเป็นส่วนเกินที่ดินแดนปราสาทหิน
เรื่อยไปจนถึง “เอร์เนสโต อมันเตกี ภูมิภา” วิงแบ็กลูกครึ่งไทย – สเปน ที่ไปกระชากตัวมาจาก “สุภาพบุรุษกงจักร” อาร์มี ยูไนเต็ด เมื่อปีก่อน และปล่อยให้ “แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี” ยืมในครึ่งฤดูกาลหลังที่ผ่านมา
ยังไม่นับพวก “สายพันธุ์ผสม” ที่ไม่มีเชื้อไทยในทีม แต่เป็นลูกครึ่งชาติอื่น อย่าง “ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด” นายทวารร่างโย่ง ชาวเดนมาร์กเชื้อสายฟิลิปปินส์ ในทีม
หากเป็นยุคก่อน การดึงแข้งลูกครึ่งที่มีเชื้อไทยเข้าสู่ทีม ถือเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง แต่สำหรับ “แบงค็อก” พวกเขาเอามาใช้งานจริง
แข้งที่อาจจะดูไม่ประสบความสำเร็จหรือเป็นส่วนเกินกับทีมใหญ่ๆ เมื่อมาสวมยูนิฟอร์ม “แบงค็อก” หลายรายถือกำเนิดใหม่ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ในราย “แอนโทนี่ – มิก้า” โดยเฉพาะรายหลังที่กลับมามีชื่อติดทีมชาติ ตั้งแต่ยุค “ซุปไก่สกัด” ถึง “มิสเตอร์ราเยวัช”
“แอนโทนี่” แม้ไม่ติดทีมชาติในระยะหลัง แต่สำหรับ “แข้งเทพ” เขาคือ ผู้นำ คือ กองกลางคนสำคัญที่เติมเต็มทุกอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ทอม เบียห์ร” ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ ทั้งที่เพิ่งจะมาอยู่กับทีมได้ไม่นานนัก ขณะที่ “ซิกฮาร์ท” ได้ลงเล่นบ่อยขึ้นกว่าตอนอยู่ “ปราสาทสายฟ้า” เรียกว่า ลูกครึ่งน้อยรายนักที่จะเอาชื่อมาทิ้งที่นี่
การได้ “ทริสตอง โด” มาเพิ่มอีกคน นอกจากจำนวนลูกครึ่งที่เพิ่มขึ้นในทีม ยังเป็นการเพิ่มนักเตะดีกรีระดับทีมชาติมากขึ้นเข้าไปอีก
ถ้าถามว่า “แบงค็อก” คลั่งไคล้อะไรกับแข้งลูกผสมนัก สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดอันดับแรกคือ พวกเขาไม่ต้องไปเปลืองโควตานักเตะต่างชาติ แต่กลับได้ของที่มี “คุณภาพ” ใกล้เคียงกัน
เวลาลงแข่งขัน มันจึงเหมือนมีนักเตะต่างชาติมากกว่าทีมอื่น ทั้งที่ความเป็นจริงพวกเขาเลือกซื้อ เลือกใช้โควตาอย่างชาญฉลาดต่างหาก
ถึงตรงนี้ นอกจาก “บิ๊กเนม” ที่รอการเปิดตัว ลำพังตัวใหม่ที่เสริมเข้ามา ทั้งไทย และไทยลูกครึ่ง พูดได้คำเดียวปีหน้า “แบงค็อก” คงพร้อมแล้วล่ะ สำหรับคำว่า “แย่งแชมป์เต็มตัว” หลังหลายปีมานี้พวกเขาไม่สามารถทะลุเพดานเกินคำว่า “พระรอง” ไปได้สักที.
เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ True Bangkok United