• Home
  • Special Report
  • “กุมภกรรณ” แห่งอีสาน ตั๋วใบสุดท้าย “เพื่อตื่น”

“กุมภกรรณ” แห่งอีสาน ตั๋วใบสุดท้าย “เพื่อตื่น”

By on October 19, 2018 0 2924 Views

DST.Special Report :  “คบเพลิง” ฤดูกาล 2018 ยังคงไม่มอดดี แม้ไทยลีก 1 และไทยลีก 2 จะได้ทีมลงเล่นในสังเวียน 2019 ครบทุกทีมแล้ว

แต่  “ไทยลีก 3” ยังขาดจิ๊กซอว์อีกตัวหนึ่ง!!  

กับ “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด ทั้ง 2 ทีม ถูกกาชื่อไว้ตั้งแต่ปีมะโว้ว่า มีลุ้นเลื่อนชั้น เพราะคุณภาพทีมเหลื่อมกว่าคู่แข่ง ตอนนี้ มาตามนัดไปแล้ว หลังจบด้วยอันดับ 1 ของกลุ่มโซนบนและล่าง ในรอบมินิลีก

เหลือเพียงแค่ “นักรบเซไล” เมืองเลย ยูไนเต็ด และ “อาชาผยอง” ม.นอร์ทกรุงเทพ ทีมอันดับ 2 ของโซนบนและล่างในมินิลีก ที่ต้องมา “เปิดไฟต์” เพื่อพิสูจน์ว่า ใครดีพอที่จะได้วีซ่าใบสุดท้าย

ในรอบเพลย์ออฟ จะเล่นแบบ “บ้านใคร – บ้านมัน” โดยแมตซ์แรก “อาชาผยอง” จะได้  Open House ก่อน และมาเล่นนัดที่สอง กันที่ดินแดนผีตาโขนของ “นักรบเซไล”

สำหรับ “ตั๋วใบสุดท้าย” นี้ จะว่าไปทั้ง “อาชาผยอง” และ “นักรบเซไล” ใครขึ้นไปก็คู่ควรทั้งนั้น เพราะเข้ามารอบนี้ได้ ด้วยการเป็นแชมป์โซนทั้งคู่  หากแต่ดูเหมือนที่ “วังสะพุง”  จะมุ่งหมายเอาไว้เยอะ

ไม่แปลกหรอก!! เพราะนอกจากล็อตเตอรี่ ที่เป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ ในอาณาจักรฟุตบอล พวกเขาก็ถือเป็นอีกหนึ่ง “ยักษ์หลับ” ที่คอบอลอยากปลุกให้ตื่นมา เพื่อกลับขึ้นมาสร้างอรรถรสที่ขาดให้กลับมา “กลมกล่อม”

นอกจาก “หมอผี” คาเด็นซ่า สตูล ยูไนเต็ด อีกหนึ่ง “กุมภกรรณ” แห่งลูกหนังสยามประเทศ ที่ต้องหลับใหลต่อไป หลังอกหัก พลาดพาสปอร์ตไทยลีก 3 สองปีติดต่อกัน มันก็เหลือ “เมืองเลย”  นี่แหละที่ใครหลายคนลุ้นให้ทำสำเร็จสักที

เพราะนับตั้งแต่ไทยลีกก่อร่างสร้างตัวจนเดินคล่องปร๋อเหมือนทุกวันนี้ ทีมจาก จ.เลย ก็ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันตั้งแต่แรก เป็นหัวโจกอีสาน อยู่หัวตารางแทบทุกปี แต่สุดท้ายก็ “ตกม้าตาย” ทุกครั้งไป

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เวลามีการถ่ายทอดสด “บอลภูมิภาค”  บรรยากาศสนามฟุตบอลที่ “เลย” เป็นอีกสถานที่ที่ใครก็อยากจะตีตั๋วไปนั่งแหกปากเชียร์ เพราะแฟนบอลแน่นขนัด

หลังๆ มาพออกหักซ้ำซาก ก็เริ่มบางตาหายไปทีละคนสองคน จนเมื่อ 2 ปี สโมสรเทศบาลเมืองวังสะพุง กลายสภาพมาเป็น “เมืองเลย” ทุกอย่างดูจะมีความหวังขึ้น ผู้บริหารแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาทีม

ก่อนฤดูกาล 2018 รูดม่าน พวกเขาเตรียมตัวก่อนใครเพื่อน เรียกนักเตะเข้าแคมป์ตั้งแต่ไก่โห่ ทำกิจกรรมสาธารณกุศล โดยเฉพาะ “โครงการก้าวคนละก้าว” วิ่งจากวังสะพุง ถึง อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 135 กม. เพื่อสมทบทุนอุปกรณ์ทางการแพทย์  โดยหวังว่า มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

ต้นฤดูกาล ทางพวกเขาอาจดูขรุขระไปบ้าง แต่แล้วเมื่อจูนกันติด “นับรบเซไล”  ก็ติดเทอร์โบ ยึดหัวหาดจ่าฝูง ยาวจนจบฤดูกาล

มาในรอบมินีลีก แข้งตัวแทนชาวเลยก็ออกตัวช้า สตาร์ทไม่ดีจนอดเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ก็ฮึดขึ้นมาได้ใน 2 นัดสุดท้าย เพื่อ “ต่อลมหายใจ” ให้ความหวังยังคงอยู่

ตลอดเส้นทางมันมีทั้งหวานทั้งขม จากแค่ขอโควตาไปเล่นรอบมินิลีก ทะลึ่งกลายมาเป็นแชมป์โซนอีสานแบบ “ฟอร์มสวย” จากที่ออกสตาร์ทไม่ดีในรอบ “ฎีกา” กลายเป็น “ม้าตีนปลาย” ปาดหน้าขึ้นมาเป็นที่ 2 ในโซนบน จนได้มาเล่นในรอบชิงตั๋วใบสุดท้าย

คือ มันไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์ ที่ทำให้พวกเขามาอยู่ตรงนี้ แต่มันอาจมีเรื่องโชคช่วยบ้าง ที่ทีมอื่นก็สะดุดเหมือนกัน จนทำให้มันดูเข้าทางพวกเขา

เหนือสิ่งอื่นใด คือ พวกเขาสู้ตลอดแม้โอกาสจะน้อยนิด ซึ่งนั่นน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุด ที่ทำให้ “นักรบเซไล” เอื้อมจะถึง “ไทยลีก 3” อยู่แล้ว

ในเมื่อ “ต้นร้าย ปลายดี” มาตลอดทั้งฤดูกาล “กุมภกรรณ” แห่งโซนอีสาน ที่เอาแต่นอนมาในรอบหลายปี ก็น่าจะได้ตื่นสักทีเหมือนกัน


ขอบคุณภาพ : สโมสรฟุตบอล เมืองเลย ยูไนเต็ด

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *