• Home
  • Exclusive
  • ดิ้นรนสู้มาตั้งแต่เด็ก กว่าจะมีวันนี้ของ “แจ็ค” จิรวัฒน์ มัครมย์

ดิ้นรนสู้มาตั้งแต่เด็ก กว่าจะมีวันนี้ของ “แจ็ค” จิรวัฒน์ มัครมย์

By on October 1, 2018 0 4158 Views

DST.Exclusive : จากเด็กจนๆแดนอีสานที่ดิ้นรนพยายามขวนขวายหาทางคว้าความฝันของตนเองมาครองให้ได้ วันนี้ DailysoccerThailand ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเส้นทางสายลูกหนังของ “แจ็ค” จิรวัฒน์ มัครมย์ มิดฟิลด์จอมเก๋า แห่งค่ายทัพฟ้า แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย

“เจ้าแจ๊ค”เป็นเด็กอีสานจาก อ.พล จ.ขอนแก่น โดยเขาเริ่มเล่นฟุตบอลแบบจริงๆจังๆ ตั้งแต่เด็กๆ ตอนเรียนป.4 ได้เริ่มเล่นกีฬาเทศบาล จากนั้นก็ได้เล่นบอลในระดับอำเภอ พอตอนอายุ16 ปีเขาก็เข้าตามเพื่อนเข้ามาอยู่กรุงเทพ มาอาศัยอยู่วัดกับหลวงพี่ ที่วัดโพสพผลเจริญ ลำลูกกา คลองสอง

“ตอนนั้นที่ผมเข้ากรุงเทพ ผมนั่งหลังรถกระบะมาจากขอนแก่นมา ขอติดรถเขามากับเพื่อน 2-3 คน เพราะตอนนั้นเราอยากเตะบอล อยู่ที่บ้านมันไม่มีรายการเตะแบบในเมือง ผมจึงเข้ามาแบบเหมือนไปตายเอาดาบหน้า”

“ที่บ้านผมค่อนข้างยากจน พ่อขับสิบล้อ แม่ไม่ได้ทำงาน เราก็ต้องพยายามหาหนทางดิ้นรนด้วยตัวเอง ก็เลยมากับเพื่อนมาอยู่วัด เป็นเด็กวัด ก็ทำทุกอย่าง ทั้งช่วยหลวงพี่บิณฑบาตร ช่วยงานวัด แต่ก็ดีที่หลวงพี่หาที่เรียนให้ ก็เลยได้เรียนที่ โรงเรียนสายปัญญา รังสิต”

“เจ้าแจ๊ค”บอกว่า ตอนนั้นต้องนอน คือ ห้องเก็บของ ที่เอาของออกแล้วทำเป็นห้องนอน ตอนเช้าตื่นมาบิณฑบาตร กินข้าวเสร็จก็นั่งรถเมล์ไปเรียน พอเลิกเรียนกลับมาก็ซ้อมฟุตบอลลานปูนที่วัด ซึ่งตอนนั้นหลวงพี่เขาทำทีมเดินสายอยู่แถวๆนั้น ตำแหน่งที่เล่น คือ  เซ็นเตอร์

จากเด็กวัดและเล่นบอลเดินสายจนจบม.6 แต่ไม่ได้เอ็นทรานซ์และไม่รู้จะเอายังไงต่อ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจให้กับเขาได้เริ่มต้นเส้นทางของนักเตะอาชีพ

“ตอนที่ผมยังสับสน ก็จังหวะที่ทีมผมไปอุ่นเครื่องกับ ม.อีสเทิร์น ของ อ.ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ แกเห็นแล้วชอบก็เลยเอาเราไปเรียนที่นั่น จากนั้นทีมยุบแกไปทำที่ วิทยาลัยเซาธ์อีสบางกอก แกก็พาเราไปด้วยอีก จนผมไปเล่นโปรลีกกับทีมนครสวรรค์ กระทั่งแกไปทำทีมการท่าเรือ เอฟซี จึงชวนผมไปคัดตัวแล้วก็ติด”

“ผมต้องขอบคุณอ.ไพบูลย์เลยนะที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ ตอนนั้นที่อยู่ท่าเรือได้สักพัก “โค้ชเตี้ย”สะสม พบประเสริฐ ก็เข้ามาแทน แต่เขาก็ยังให้โอกาสเราต่อ พออยู่ท่าเรือได้ 2 ปีครึ่ง ก็ไปบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 ปีครึ่ง แล้วย้ายไป โปลิศ เทโร 1 ปี และกลับมาอยู่ท่าเรืออีกครึ่งปี ก็ย้ายไปศรีสะเกษ เอฟซี ต่อด้วยลำปาง เอฟซีในปีก่อน และมาอยู่กับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ในปัจจุบัน”

จากเด็กวัดจนๆไม่มีอะไรเลย มาวันนี้ “เจ้าแจ๊ค”บอกว่า เขาภูมิใจมาที่ยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้น

“ฟุตบอลเข้ามาช่วยทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งฐานะความเป็นอยู่และอีกหลายๆอย่าง ที่ผมมีวันนี้เพราะฟุตบอล จากไม่มีอะไร วันนี้ผมเป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากๆจนกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ตอนที่โอนตังให้พ่อแม่ครั้งแรก ซึ่งทุกวันนี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แม่ได้เป็นอบต. ส่วนน้องก็ได้เรียนจบจนมีงานทำแล้ว”

การที่เขาเคยมีชื่อเสียงและอยู่กับทีมใหญ่ๆมาหลายทีม “เจ้าแจ๊ค”ฝากถึงน้องๆที่เป็นนักฟุตบอลหรือคิดที่จะเป็นนักฟุตบอลว่า “ให้มองคนที่เป็นมืออาชีพจริงๆ เอาจุดดีมาเป็นแบบ บางคนฝีเท้าดีแต่ไปไม่ไกล อยู่จุดเดิมๆ เพราะมันเกี่ยวกับการใช้ชีวิตนอกสนามด้วย ต้องใช้ชีวิตให้ถูก สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไป จะไปเที่ยวอะไรก็ต้องระวัง โดยเฉพาะโลกโซเซียล เราเป็นนักบอลเป็นบุคคลสาธารณะ รูปๆเดียวอาจจะเปลี่ยนชีวิตได้”

“ตอนวัยรุ่นผมก็กินก็เที่ยว ทุกคนก็เป็น แต่พออายุเราเยอะขึ้น เราก็คิดได้ แต่บางอย่างมันต้องเป็นบทเรียน ผมบอกน้องๆในทีมหรือที่สนิทๆกันตลอด เพราะฟุตบอลไม่ใช่แค่ในสนามอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวการใช้ชีวิตนอกสนามด้วย ผมยังเคยคิดเลยว่าบางทีตอนนั้นถ้าไม่เที่ยว อาจจะไปไกลกว่านี้อีก”


ขอบคุณ สโมสร แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี

By : Grimmjow

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *