• Home
  • News
  • วันนี้ของ “แฟรงค์ อาเชียมปง” ซุปเปอร์นักเตะ ที่ไทยลีกเคยมี

วันนี้ของ “แฟรงค์ อาเชียมปง” ซุปเปอร์นักเตะ ที่ไทยลีกเคยมี

By on September 25, 2018 0 25225 Views

DST.News report :นักเตะต่างชาติ ที่เคยมาค้าแข้ง ในไทยลีก นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พูดได้ว่า “แฟรงค์ โอโปคู อาเชียมปง” เป็นนักเตะที่มีเส้นทางการค้าแข้งรุ่งโรจน์ที่สุด

หลังจากข้ามน้ำข้ามทะเลมาประกาศศักดา กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ายไปร่วมทีม “อันเดอร์เลชท์” ด้วยค่าตัว 1 ล้านยูโร เมื่อจบฤดูกาล 2011-2012  

แฟรงค์น้อยวัย 19 ปี (ขณะนั้น) เปิดประสบการณ์บนแผ่นดินยุโรปเป็นครั้งแรก ก่อนค่อยๆ พัฒนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญทางกราบซ้าย พายักษ์แดนช็อคโกแลต ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศ

บทบาทส่วนใหญ่ที่เจ้าตัวได้รับคือ แบ็คซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่แปลกใหม่สำหรับเจ้าตัว แต่เด็กที่เคยมาฝึกวิชาลูกหนัง ที่อีสานใต้ ก็พิสูจน์แล้วว่า “ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ” เขาทำได้ และทำดีจนสามารถก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ “กาน่า” ชุดใหญ่เสียด้วย   

นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้ประสบการณ์อันแสนมีค่า จากโอกาสประกาศศักดา บนเวทียุโรป  ทั้งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ ยูโรปา ลีก ซึ่งต้องลงโม่แข้งกับบรรดาซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

 

ทั้ง ธิอาโก้ ซิลวา,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช สองซูเปอร์สตาร์ ของปารีสแซง แชร์กแมง  มาร์โก รอยส์  , มัท ฮุมเมิลส์ 2 กำลังหลักของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยุคที่เสือเหลือประกาศความยิ่งใหญ่ในบุนเดสลีกา รวมถึง เมซุต โอซิล และ อเล็กซิส ซานเชส โคตรบอลจาก อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2012/2013 และ 2013/2014 ซึ่งการแข่งขันถ้วยใหญ่ ทีมดังจากเบลเยียม ไปไกลที่สุดเพียงรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 2 ปี

ฤดูกาลต่อมา เจ้าตัวได้เล่นในบอลถ้วยรองของยุโรป ซึ่งอันเดอเลชท์มีผลงานยอดเยี่ยม ทั้งเก็บชัยจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ โมนาโก ในรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2015/2016

ซึ่งในปีนั้น อันเดอเลชท์ จอดป้ายรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเจอ ชัคตาร์ โดเนสท์ ม้ามืดจากยูเครน ที่มี เฟร็ด กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เบอร์นาร์ด ตัวรุก ของเอฟเวอร์ตันในปัจจุบัน ตบร่วงด้วยสกอร์รวม 4-1 

ฤดูกาลต่อมา ทีมของเขาไปไกลที่สุดบนเวทียุโรป ในรอบ 20 ปี หลังอันเดอร์เลชท์ ทะลุไปถึง รอบ 8 ทีมสุดท้ายนับแต่ฤดูกาล 1996/1997  โดยหักด่าน เซนิต เซนปีเตอร์เบิร์ก มาในรอบ 32 ทีม ก่อน ตบ อาโปเอล นิโคเซีย แชมป์จากไซปรัส ร่วงในรอบ 16 ทีม แต่เสียดายที่เส้นทางการผจญภัยของ อันเดอร์เลชท์ ต้องจบลงเพียงแค่รอบ 8 ทีม เพราะคู่ต่อสู้ที่ยืนขวางอยู่ มีชื่อ ว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ทีมแชมป์ในบั้นปลาย 

ผลงานของยอดนักเตะ ทั้งชีวิตที่ลงฟาดแข้ง 165 นัด 22 ประตู 21 แอสซิสต์ แชมป์ เบลเยี่ยม โปรลีก 2 สมัย ฤดูกาล 2013/2014 , 2016/2017 และแชมป์ เบลเยี่ยม ซูเปอร์คัพ ในปี 2013,2014 ตลอด 4 ปี ทำให้เขามีข่าวกับยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูล และนิวคาสเซิล จากอังกฤษ

แต่สุดท้ายกลายเป็นทีมเงินถังจาก “ไชนีส ซูเปอร์ลีก” ลีกที่มีการจ่ายค่าเหนื่อยบ้าคลั่งที่สุดในโลก อย่าง “เทียนจิน เทนด้า” ยืมตัวก่อนจะซื้อขาดในเวลาต่อมา ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านยูโร พร้อมประเคนค่าเหนื่อย ที่ปฏิเสธยาก ถึง 350,000 เหรียญ(72 ล้านบาท) ต่อเดือน 

 

การกลับมาเหยียบแผ่นดินเอเชีย ของ “อาเชียมปง” ในครั้งนี้แตกต่างอย่างลิบลับเมื่อเทียบตอน มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

จากเด็กที่ไม่มีใครรู้จัก มาเป็นสตาร์ระดับทวีป

โดยเจ้าตัวผนึกกำลังกับ “จอห์น โอบี มิเกล” อดีตกองกลางเชลซี และ “โจนาธาน” อดีตกองหน้าของซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ ภายใต้มันสมองของ ”อูลี่ สติลิเก้”  อดีตแข้งเรอัล มาดริด ที่เคยเป็นโค้ชทีมชาติ ไอเวอรี่ โคสต์ และ ทีมชาติเกาหลีใต้

สติลิเก้ จับ อาเชียมปง มายืนเป็น “ศูนย์หน้า” เต็มตัว ก่อนหนุ่มกาน่าในวัยเกือบเบญจเพส ตอบแทนโค้ชเลือดเบียร์ ด้วยผลงาน 14 ประตู(2 จุดโทษ) 4 แอสซิสต์ จาก 19 เกมส์ โดยเฉพาะเกมแรกที่เจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่น เป็นดาร์บี้แมตซ์ ระหว่าง “เทียนจิน เทด้า” และ “เทียนจิน ฉวนเจี้ยน”  โดยเจ้าตัวทำแฮตทริคแรกบนแผ่นดินมังกรได้ทันที พร้อมพาต้นสังกัด เฉือนคู่ปรับร่วมเมืองไปด้วยสกอร์ 3-2 

ปัจจุบัน “แฟรงค์ อาเชียมปง” ยึดอันดับ 4 ร่วม บนตารางดาวซัลโว เป็นรอง อันดับ 1 “อู่ เล่ย” สตาร์ทีมชาติจีน ของเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่กดไป 21 ประตู และอันดับ 2 ร่วมอย่าง “เอรัน ซาฮาวี่” กองหน้าทีมชาติอิสราเอล ที่เคยค้าแข้งกับปาแลร์โม่ และ “โอเดียน อิกกาโล” อดีตกองหน้าวัตฟอร์ด ที่กดไป 17 ประตูเท่ากัน  

สำหรับดาวซัลโวร่วม​มีทั้ง “ทาลิสก้า”  อดีตแข้งเบนฟิก้า ที่เคยเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล  “เซดริค บาคัมบู” กองหน้าทีมชาติ คองโก อดีตนักเตะ บีญาเรอัล และ “ดิเอโก ทาร์เดลลี่” กองหน้าดีกรีทีมชาติบราซิล

ซึ่ง “อาเชียมปง” เอง ผงาดเข้าไปอยู่ในกลุ่มซูเปอร์สตาร์เหล่านั้น ได้อย่างไม่เคอะเขิน  

ชีวิตค้าแข้งของเขาในวัย 24 ปี ยังคงมีหนทางอีกยาวไกล ทั้งบนเวทีสโมสร และทีมชาติซึงปัจจุบันเจ้าตัว รับใช้ ทัพ “ดาวดำ” ไปแล้ว 23 นัด ทำไป 2 ประตู พร้อมสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็น    สตาร์ของประเทศ จากการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องโดยสื่อกีฬา ยักษ์ใหญ่ของกาน่า อย่าง Ghanasoccernet และ Modern Ghana ปัจจุบัน ค่าตัวของเขาถูกประเมินอยู่ที่ 6 ล้านยูโร โดย www.transfermarkt.com

คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากอนาคต เราจะเห็น อดีตนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คนนี้ ย้ายกลับมาค้าแข้งที่ยุโรปอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวหมดความท้าทายบนแผ่นดินมังกรแล้ว

 

แต่ที่แน่ๆคือ แฟนบอลบ้านเราที่เคยเห็นลีลา “แฟรงค์น้อย”บนเวทีไทยลีก นั้นคงอดไม่ได้ที่จะปลื้มใจกับเส้นทางลูกหนัง ของผู้ที่ขึ้นชื่อว่า เคยเขย่าเวที ไทยลีก มาแล้ว อย่างแน่นอน.


By : ใบไม้ห้าแฉก

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *