“กองหลัง” สู่ “ดาวซัลโว” กฤตานนท์ “ซ้ายปลิดชีพ”

DST.Special Report :เส้นทางชีวิตคนเรา ก็เหมือนกับลูกบอลกลมๆ ที่กระดอนออกจากเท้า เราอาจกำหนดทิศทางให้ดังที่ใจมุ่งหมายได้ แต่บางครั้งผลที่ออกมามันก็ไม่ได้จะเป็นอย่างที่เราหวังเสมอไป

มันอาจจะเบี่ยงซ้าย เบี่ยงขวา ติดตัวผู้เล่น หรือจะเหินข้ามคานออกไปเลย คงเหมือนชีวิตของ “เจ้าแบงค์” กฤตานนท์ ธนโชติ เจริญผล ศูนย์หน้า “แข้งยาโด๊ป” เกร็กคู สายไหม ยูไนเต็ด ในวันนี้

ในวัย 27 ปี “กฤตานนท์” ผ่านการค้าแข้งมาหลายสโมสร ตั้งแต่สโมสรเล็กๆ ไปจนสโมสรใหญ่ๆ ในประเทศ ทั้งสมุทรสงคราม เอฟซี, ชัยนาทฮอร์นบิล, โกลเบล็ก เอฟซี, ธนบุรี ซิตี้ กระทั่งย้ายสำมะโนครัวฟุตบอลมาอยู่กับทีมในไทยลีก 4 อย่าง “เกร็กคู สายไหม ยูไนเต็ด” ในปัจจุบัน

มันอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับการย้ายสโมสรเพื่อหาโอกาสลงเล่น นักเตะคนหนึ่งย้ายเป็นสิบๆ สโมสรมาแล้วก็เคยมี ทว่า นักเตะที่ย้ายไปแล้วโชว์ฟอร์มได้ดี ในตำแหน่งที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัส มันก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ในอาณาจักรฟุตบอลเหมือนกัน

“เจ้าแบงค์” คือ 1 ในนั้น ตลอดการค้าแข้งของเขา ตั้งแต่สมัยอยู่กรุงเทพคริสเตียน เรื่อยมาจนใช้พรสวรรค์แลกค่าครองชีพได้ คือ ผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง หรือเกมรับเสียมากกว่า

แต่ในศึกไทยลีก 4 2018 ที่ผ่านมา “เกร็กคู” ซึ่งมีเป้าหมายไปเล่นรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อหวังเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นไทยลีก 3 ในปีหน้า โดย “ขงเบ้งโป้ง” กฤษณ์ สิงห์ปรีชา กลับเลือกนักเตะวัยฉกรรจ์ขยับจาก “แผงหลัง” ไปเป็นกองหน้าตัวเป้า

“เจ้าแบงค์” ถูกพลิกบทบาทจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่เพียงแต่เป็นกองหน้า แต่ยังเป็น “เพชฌฆาต” ตัวความหวังของทีมอีกต่างหาก หลัง “โค้ชโป้ง” ผู้เป็นกุนซือ เห็น “มหันตราย” จาก “เท้าซ้าย” ของเขา ว่าน่าจะนำเจ้าของหมายเลขเสื้อ “69” คนนี้มาเปลี่ยนเป็นตัวผลิตสกอร์ได้

1 ซีซั่นที่ผ่านมา ในโซนกรุงเทพและปริมณฑล “กฤตานนท์” ไม่เพียงทำให้ผู้เป็นโค้ชผิดหวัง เขายังโชว์ฟอร์มได้แจ่มจรัสระดับที่กองหน้าอาชีพบางคนยังต้องทึ่ง ทั้งที่เพิ่งจะตั้งไข่ในตำแหน่ง “กองหน้า”

12 เมล็ดที่ “เจ้าแบงค์” ทำได้ ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวของทีม และพาทีมคว้าอันดับ 3 มาครอง โดยเขาเป็นรองดาวซัลโวไทยลีก 4 โซนเมืองหลวงและรอบบ้าน ซึ่งยิงน้อยกว่า “เจา ฟรานซิสโก” หัวหอกเลือดแซมบ้าของ “อาชาผยอง” ม.นอร์ทกรุงเทพ เพียง 2 ประตูเท่านั้น

ขณะที่ในรอบเพลย์ออฟ เพื่อไปเล่นศึกแชมเปี้ยนส์ลีกที่ผ่านมา “เจ้าแบงค์” ยังมีส่วนสำคัญ หลังแผลงฤทธิ์กระซวก 2 ประตู ให้ “แข้งยาโด๊ป” พิชิต “ปืนใหญ่พญาตานี” ปัตตานี เอฟซี 3–1 จนส่ง “แข้งยาโด๊ป” มาเป็น 1 ใน 12 ทีมรอบแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ

ในรอบนี้ “เกร็กคู สายไหม ยูไนเต็ด” อาจไม่ได้ถูกหลายสำนักกาชื่อว่า เป็น “ตัวเต็ง” ในการคว้าตั๋วมาครอง แต่ในโลกฟุตบอลทุกอย่างเกิดขึ้น ตราบใดที่ในสนามฟุตบอล มีผู้เล่นฝั่งละ 11 คนเท่ากัน บางทีพวกเขาอาจจะหักปากกาเซียนในบั้นปลายสุดท้ายก็เป็นได้

ที่สำคัญ ทุกทีมที่ต้องเจอกับ “แข็งยาโด๊ป” ก็ประมาทซ้ายปลิดวิญญาณ จากอดีตกองหลังอย่าง “เจ้าแบงค์” ที่วันนี้มารับบทเขย่าเพื่อนกองหลังด้วยกันไม่ได้

เป็น “ม้ามืด” และ “ตัวละครลับ” ที่อาจโชว์ฟอร์มได้ดีในรอบนี้อีกคน.

เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ เกร็กคู สายไหม ยูไนเต็ด