‘ตัวเก๋า’ พลังกาญจน์ จะประคองทีมรับความกดดันมหาศาลที่ ‘แพร่’

DST.Special Report : ไม่ว่านัดต่อไป ตั๋วไทยลีก 1 ใบสุดท้ายจะตกอยู่ที่ ‘ม้าเหล็ก’ พลังกาญจน์ เอฟซี’ หรือ ‘ม้าคะนองศึก’ แพร่ ยูไนเต็ด ล้วนเหมาะสมอย่างยิ่ง

และน่าเอาใจช่วย เพราะตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ทั้งสองทีมยังไม่เคยสัมผัสชั้นบรรยากาศบนลีกสูงสุดเลย

โดยเฉพาะ ‘แพร่ ยูไนเต็ด’ ที่ป้วนเปี้ยนอยู่พื้นที่หัวตารางมาหลายฤดูกาล แต่สุดท้ายตกม้าตายอยู่ร่ำไป

ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ‘ม้าคะนองศึก’ เกือบชิงความได้เปรียบได้แบบชนิดที่ว่า สามารถกลับไปเล่นที่เมืองเหนือได้แบบสบายๆ แต่เลือดนักสู้ของ ‘ม้าเหล็ก’ นั้นดันสูบฉีดมากกว่า สุดท้ายจึงพลิกนรกกลับมาชนะได้อย่างสุดมัน 3-2

กลายเป็นการโยนความกดดันไปให้ ‘แพร่ ยูไนเต็ด’ ที่ต้องใส่สุดในบ้านตัวเอง ชนิดแพ้-เสมอไม่ได้ แต่ต้อง ‘ชนะ’ เท่านั้น

สถานการณ์บีบบังคับให้ ‘แพร่ ยูไนเต็ด’ ต้องชวนทะเลาะก่อน ซึ่งถ้าเจ้าบ้านได้คืนมาก่อน 1 ลูก แบบนี้เกมจะสนุกขึ้นหลายเท่า

แต่ถ้า ‘พลังกาญจน์’ ที่กุมความได้เปรียบอยู่ 1 ลูกเป็นต้นทุน ดันทะลึ่งไปขึ้นนำก่อนที่ จ.แพร่ ทีนี้ล่ะ งานเข้าเจ้าบ้าน ที่อาจมีโอกาสอกหักอีกครั้ง และอีกครั้ง

สำหรับทั้ง 2 ทีม ถือเป็นทีมที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันมาก แต่ในส่วนของ ‘พลังกาญจน์’ อาจจะเหนือกว่าในแง่ของ ‘ความเก๋า’

‘เก๋า’ ในที่นี้ไม่ใช่ประสบการณ์ในการเล่นเพลย์ออฟ หากแต่เป็นขุนพลในทีม ‘ม้าเหล็ก’ ที่ประสบการณ์บนลีกโชกโชน ผ่านสมรภูมิที่กดดัน และการแข่งขันที่เข้มข้นมามากกว่า

นำโดย ‘บิ๊กกบ’ สุเชาว์ นุชน่ม กัปตันทีม ในวัย 42 กระรัต ที่พกความเก๋ามาเต็มอัตราศึกเพื่อช่วยบ้านเกิด ตามมาด้วย ‘ประสิทธิ์ ผดุงโชค’ นายประตูจอมหนึบ ‘ปริญญา อู่ตะเภา’ กองหลังจอมยิงประตู ‘วัฒนา พลายนุ่ม’ กองกลางมากประสบการณ์

‘เจนรบ สำเภาดี’ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ‘กฤษณ เกษมกุลวิไล’ ตัวจี๊ดที่โลดแล่นบนเวทีไทยลีกมานาน

พวกนี้เป็นนักเตะไทยที่มีชั่วโมงบินบนลีกสูงสุดมาทั้งนั้น ผ่านเกมที่มีความสำคัญ บรรยากาศอึดอัด กดดัน ตรึงเครียด มาหมด

ไม่ต้องดูไหนไกล ในเกมก่อนที่โดน ‘แพร่’ นำถึง 2-0 หากไม่มีนักเตะที่มีประสบการณ์ มีแต่นักเตะพลังหนุ่ม มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะรัวแซงได้

สมาธิกับเกม ในสถานการณ์ที่ทีมโดนนำในบ้านถึง 2 ลูก ไม่ใช่ใครที่สามารถแบกรับได้ แต่หากคุณมีนักเตะที่ชั่วโมงบินสูง ผ่านเกมในลักษณะนี้มาเยอะ จะสามารถประคองน้องๆ ไม่ให้เตลิดได้

จากไล่ตามเสมอ ต่อด้วยการพลิกแซง

เช่นกันในเกมที่สอง แม้สกอร์เจ้าบ้านจะตามอยู่ แต่ได้เปรียบในเรื่องบรรยากาศ เสียงเชียร์ พวกเขาต้องการเพียง 1 ประตู เพื่อตีเสมอ ซึ่งนักเตะทีมเยือนย่อมเจอความกดดันมหาศาล แต่ด้วยการที่มีพี่ๆ มากประสบการณ์ในทีม มันอาจจะช่วยให้รับมือได้ดีขึ้น

เพราะถ้าสามารถประคองเกมไปได้เรื่อยๆ แบบไม่เสียประตู สุดท้ายความกดดันจะถูกโยนกลับไปฝั่งเจ้าบ้านเอง

ตั๋วมันอยู่ในมือ ‘พลังกาญจน์’ แล้วเกินครึ่งใบ อยู่ที่ว่าจะรักษามันได้หรือไม่ เท่านั้น .

_________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Kanchanaburi Power FC – พลังกาญจน์ เอฟซี