‘ปราสาทสายฟ้า’ มีเวลาได้ทบทวน ก่อนหวดชี้ชะตา 2 นัดสุดท้าย ‘ACL’

DST.Special Report : ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนึ่งเดียวจาก ‘ไทยลีก’ ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลีท วัน กำลังอยู่ในสถานการณ์ ‘ช็อต’

จากการเริ่มต้นในฟุตบอลรายการอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย ด้วยการเปิดบ้านเสมอกับยอดทีมจากญี่ปุ่น ‘วิสเซล โกเบ’ 0-0 บุกไปอัดเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ 2-1 ถึงแดนจิงโจ้ ต่อด้วยการปราบโปฮัง สตีลเลอร์ บิ๊กทีมจากแดนกิมจิ 1-0 แต่ตั้งแต่นั้นมา พวกเขายังสะกดคำว่า ‘ชนะ’ ไม่เป็น

จุดเริ่มต้นอาการช็อตนี้ อาจจะมาจากการถูก ‘โยโกฮามา มารินอส’ ตัวแทนจากญี่ปุ่น ซึ่งเกมดังกล่าวส่งผู้เล่นสำรองลงหลายคน อัดเละเทะไป 5-0

ทีมจากแดนซามูไรเหมือนจะเป็นของแสลงของยอดทีมแห่งอีสานใต้ของไทย จากนั้นพวกเขาปราชัยแบบสู้ไม่ได้ให้กับ ‘คาวาซากิ ฟรอนทาเล่’ 3-0

ขณะที่เกมล่าสุด ได้เจอทีมในทวีปอาเซียนอย่าง ‘ยะโฮร์’ มหาอำนาจลูกหนังมาเลเซีย ตัวแทนประเทศไทยไม่สามารถเล่นตามเกมของตัวเองได้ ในขณะเดียวกัน ยังถูกใบแดงทำให้ไม่สามารถสร้างความได้เปรียบ จบด้วยกันเสมอ 0-0 เท่านั้น

สถานการณ์ปัจจุบันของ ‘ปราสาทสายฟ้า’ อยู่อันดับ 8 ของตาราง อันดับสุดท้ายที่จะสามารถเข้ารอบต่อไปได้

แต่คะแนนพวกเขาไม่ได้ห่างอันดับ 9-10 แต่อย่างใด เพราะมีมากกว่าแค่แต้มเดียว

2 เกมสุดท้ายจึงมีความหมายต่อ ‘ปราสาทสายฟ้า’ เป็นอย่างมาก โดยเกมต่อไป ‘ปราสาทสายฟ้า’ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ‘อุนซาน ฮุนได’ ยอดทีมจากเกาหลีใต้ ที่ตลอดหลายนัดที่ผ่านมาเล่นเหมือนไม่เอาถ้วยใบนี้ จมไปอยู่บ๊วยของตาราง แต่ล่าสุดกลับบุกไปเอาชัยเหนือเซียงไฮ้ เสิ่นหัวได้ 2-1 ทำให้ยังมีโอกาสเข้ารอบต่อไปอยู่

แม้ ‘อุนซาน ฮุนได’ จะอยู่รองบ๊วย แต่ขึ้นชื่อว่า ทีมจากเกาหลีใต้ในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่มีคำว่า ‘ผ่านง่าย’

ฟุตบอลเกาหลีใต้ในเวทีนี้ บทจะเอาจริง ชนะได้ทุกทีม ฉะนั้น ก่อนอื่น ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ จะต้องไม่แพ้เป็นอันดับแรก เพื่อให้มีสักแต้มแล้วไปพยายามเอาชนะนัดในต่อไป

แต่จะให้ดี หาก ‘ปราสาทสายฟ้า’ ชนะได้ จะลดความกดดันของตัวเองไปได้เยอะ เพราะเกมสุดท้ายจบแค่เสมอ ก็จะเข้าไปเล่นรอบต่อไปได้

โดยนัดสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเจอกับยอดทีมแดนมังกร ‘กวางจู’ ที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 2 ของตาราง แต่มีแต้มเท่ากับจ่าฝูง

‘กวางจู’ อาจจะไม่กดดันมาก หากเกมก่อนหน้าเจอกับ ‘ปราสาทสายฟ้า’ พวกเขามีแต้ม ก็ไม่ต้องพิถีพิถันกับนัดสุดท้ายมากนัก

แต่ปัญหาของเกมนี้คือ ‘บุรีรัมย์’ จะต้องบุกไปเยือนถึงประเทศจีน การคิดจะไปคว้าชัยที่นั่น ย่อมไม่ง่ายแน่นอน

ฉะนั้น ดีที่สุดคือ การเจอกับ ‘อุนซาน ฮุนได’ ในบ้าน ที่ต้องพยายามเอา 3 แต้มมาไว้กับตัวให้ได้ เพื่อให้เกมต่อไปเล่นง่าย ไม่กดดันตัวเอง

ซึ่งนับว่า ยังมีเวลา เพราะกว่าจะเตะกับ ‘อุนซาน ฮุนได’ มีช่วงเว้นว่างนานเกือบ 2 เดือน โดยจะเตะกันอีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ปีหน้า

‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ ที่ฟอร์มแกว่งๆ ในระยะหลังอาจจะมีเวลาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

เพราะตอนนี้พวกเขาคงเห็นปัญหาแล้วว่า สาเหตุที่มันรวนเป็นเพราะอะไร.

___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ BURIRAM UNITED