เสมอสปป.ลาว ได้เห็น ‘สภาพจริง’ ชุดลุย ‘อาเซียน คัพ’

DST.Special Report : เกมอุ่นเครื่อง 2 นัด ที่อยู่ในโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านมาของ ‘ทัพช้างศึก’ ทั้งกับ ‘เลบานอน’ ทั้งกับ ‘สปป.ลาว’ อบอวลไปด้วยความผิดหวัง

โดยเฉพาะเกมเสมอกับ สปป.ลาว 1-1 ที่สำหรับ ‘ช้างศึกชุดใหญ่’ แล้ว มันเป็นเรื่องที่แฟนบอลทีมชาติไทยจะรับได้

การเล่นของทีม ไม่ได้ดูเหนือกว่า สปป.ลาว เท่าไหร่นัก ทั้งที่แรงค์กิ้งของฟีฟ่า ทีมชาติไทยเหนืออยู่ห่างเพื่อนบ้านอีกฝั่งน้ำโขงริบลับ

การชนะเพียงลูกเดียวในสายตาแฟนบอลช้างศึกยังถือว่า เสียหายเลยด้วยซ้ำไป กระทั่งนำมาซึ่งคำถามว่า การอุ่นเครื่องกับ สปป.ลาว ได้ประโยชน์อันใด?

สปป.ลาว มีแรงค์กิ้งที่ต่ำกว่าไทยหลายอันดับ ต่อให้ทีมชาติไทยเอาชนะได้ก็ไม่มีประโยชน์โภชผลแต่ประการใด มิหนำซ้ำหากผลลัพธ์ออกมา ‘ช้างศึก’ ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ มันมีแต่เจ็บทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ว่า จะเสมอหรือแพ้ ดังที่โดนตีคะแนนในฟีฟ่าแรงค์กิ้งจากผลการแข่งขันนัดล่าสุด

ในขณะที่ ‘เลบานอน’ พวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่แข็งแกร่ง แต่เอาล่ะศักดินาในโลกฟุตบอลเรากับเขาไม่ต่างกันมากนัก จึงพอเข้าใจได้

แต่โดยรวมแล้วเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมา ถึงแม้ทีมชาติไทยจะไม่แพ้ใคร แต่ถือว่า ‘เจ็บตัว’

อย่างไรก็ดี มีการให้เหตุผลว่า เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดนี้ ไม่ได้จัดชุดที่ดีที่สุดลงไป ส่วนใหญ่ไปผู้เล่นหน้าใหม่ เสมือนการทดสอบก่อนจะทำศึก ‘อาเซียน คัพ’ ในเดือนธันวาคมว่า เราพร้อมแค่ไหน

และว่ากันว่า นักเตะชุดนี้แหละที่เราจะส่งไปทำศึก ‘อาเซียน คัพ’ ซึ่งไม่ได้อยู่ในปฏิทินฟีฟ่าเดย์

เป็นการทำตามเสียงเรียกร้องของแฟนบอลและสโมสร ที่ต้องการจะลดความสำคัญของศึกชิงจ้าวอาเซียน ที่ได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากไม่มีผลต่อแรงค์กิ้งฟีฟ่าแต่อย่างใด

อีกทั้งยังเสี่ยงที่นักเตะคนสำคัญจะได้รับบาดเจ็บ

มันจึงเป็นที่มาของการเทสผู้เล่นใหม่ๆ ซึ่งมันก็ดีอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าเราส่งชุดนี้ไป อย่างน้อยโอกาสในการป้องกันแชมป์คงน้อย เพราะขนาด สปป.ลาว เรายังไม่สามารถกำราบง่ายๆ เลย

ฉะนั้น ถ้าต้องส่งผู้เล่นเหล่านี้ไปทำศึก ก็ขอให้ทำใจยอมรับว่า ถ้าเราไม่ได้แชมป์ก็อย่าได้ว่า ‘โค้ช’ หรือ ‘นักเตะ’ เลย เพราะถ้าไม่ได้ส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดไป และเรียกนักเตะเท่าที่แต่ละสโมสรจะเอื้ออารีย์ให้ มันก็จะได้ประมาณเท่านี้

ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเสียหายหากสุดท้ายเราไม่ได้แชมป์ เพราะไม่มีผลต่อแรงค์กิ้งแต่ประการใด

และก็หวังว่า อย่าเปลี่ยนไปใช้นักเตะชุดที่ดีที่สุด เพื่อกลัว ‘โค้ช’ หรือ ‘ผู้บริหารสมาคม’ จะถูกด่าภายหลังเลย

อย่างไรก็ดี อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงคือ กรณี ‘รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก’ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น จนแฟนบอลบางคนเข้าไปคอมเมนต์แรงๆ ว่า ไม่เหมาะสมกับการติดทีมชาติ จนเจ้าตัวฟิลขาด ตอบกลับแรงๆ ถึงบุพการี ลามไปถึงท้าเจอตัว

ซึ่งเอาจริงๆ นักเตะก็เป็นมนุษย์ มีความรู้สึก ในขณะที่แฟนบอลบางคนก็เกินไป ใช้คำไม่เหมาะสม แต่กรณีของ ‘รุ่งรัฐ’ นั้น จากการเพ่งพินิจอย่างละเอียด แฟนบอลคนดังกล่าวก็ไม่ได้ใช้คำหยาบคายอะไร

ควรตอบกลับไปอย่างสุภาพ หรือเลือกที่จะไม่ตอบโต้เลยก็ได้ ซึ่งรุ่นพี่หลายคนก็ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบนั้น

อีกอย่าง ‘รุ่งรัฐ’ อายุอานามปาเข้าไป 32 ปีแล้ว ไม่ใช่ดาวรุ่ง ติดทีมชาติก็หลายครั้ง ควรจะมีวิธีการจัดการความรู้สึกและการแก้ไขปัญหาที่ดีกว่านี้

แต่เอาล่ะเจ้าตัวขอโทษแล้ว ก็ให้จบๆ ไป ส่วนแฟนบอลจะให้อภัยหรือจดจำแบบไหน ให้เป็นผลของการกระทำที่เจ้าตัวต้องแบกรับในฐานะที่สร้างมา

และให้เป็นกรณีศึกษาของนักเตะอีกหลายๆ คนว่า เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ คุณย่อมถูกชม ถูกด่าได้ ในเมื่อคุณเป็นตัวแทนทีมชาติ และแบกความหวังของคนไทย

คุณอาจจะมีความรู้สึกได้ แต่คุณก็มีทางเลือกที่จะจัดการปัญหาได้ดีกว่านี้.

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก