‘ความคาดหวัง-แรงกดดัน’ ตัวการสำคัญที่ ‘โค้ชท่าเรือ’ อยู่ไม่ยาว

DST.Special Report : ก่อนหน้านี้ ‘โค้ชอ้น’ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ถูกยกให้เป็น 1 ใน 2 กุนซือชาวไทยที่มีฝีมือลำดับต้นๆ

อีกคนคือ ‘โค้ชแบน’ ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

‘โค้ชอ้น’ ได้รับคำชื่นชมว่า มีฝีมือในการคุมทีม แม้ทรัพยากรในทีมนั้นๆ จะมีอย่างจำกัดก็ตาม

ขณะที่ ‘โค้ชแบน’ แม้ไม่สามารถคว้าถ้วยแชมป์ไทยลีก 1 ให้กับ ‘แข้งเทพ’ ได้ แต่สามารถทำให้ทีมอยู่ในพื้นที่แย่งแชมป์เสมอมา ตลอดจนคว้าโทรฟี่ในรายการอื่นๆ ได้

ตอน ‘โค้ชอ้น’ ถูก ‘สิงห์เจ้าท่า’ การท่าเรือ เอฟซี ดึงให้ไปยืนข้างสนามบงการเกมให้แพท สเตเดี้ยม หลายว่า นี่คือ คนที่ ‘ใช่’

นั่นเพราะ ‘สิงห์เจ้าท่า’ ใช้บริการโค้ชต่างชาติที่ดีกรีหนา โปรไฟล์แน่น แต่ล้มเหลวมาโดยตลอด ฉะนั้น คนที่เข้าใจธรรมชาตินักเตะไทย ควรจะเป็นคนไทยด้วยกัน

โดยเฉพาะการท่าเรือ เอฟซี ที่นักเตะไทยมีอิทธิพลในห้องแต่งตั้งและสโมสรไม่น้อย

ขณะที่ผลงานในคลองเตยของ ‘โค้ชอ้น’ ไม่ได้ย่ำแย่เท่าไหร่นัก พาทีมป้วนเปี้ยนอยู่หัวตารางตั้งแต่ออกสตาร์ท

12 นัด ชนะ 6 เสมอ 4 และแพ้ 2 อยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนน ตามหลัง ‘แบงค็อก ยูไนเต็ด’ และ ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ เท่านั้น

แต้มในการไล่ล่าแชมป์ยังไม่ได้ขาดลอย และยังอยู่ในเส้นทาง

ส่วนเกมล่าสุดก่อนจะตัดสินใจลาออกคือ การปราชัยให้ ‘แข้งเทพ’ ซึ่งไม่ใช่สโมสรเล็กๆ แต่เป็นทีมในระนาบเดียวกันที่แข็งแกร่ง

ผลงานไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้น

แต่เหตุที่ตัดสินใจโบกลาคลองเตย อาจจะมาจากเป้าหมายที่สูงของสโมสร แต่ตัวเองไม่สามารถทำให้อยู่ในระดับนั้นได้

เมื่อไม่ได้ จึงแสดงความรับผิดชอบ ส่วนจะเป็นเพราะการแทรกแซงหรือไม่ ตรงนี้ต้องไปถามจากปาก ‘โค้ชอ้น’ เพราะจะเป็นคนเดียวที่ตอบได้

อย่างไรก็ดี การที่ ‘สิงห์เจ้าท่า’ ต้องกลายเป็น ‘สโมสรกินโค้ช’ ที่ใช้บริการกุนซือได้สิ้นเปลืองมากที่สุดทีมหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพราะ ‘ความคาดหวัง’

ห้วงหลายปีมานี้สโมสรหมดเงินไปมหาศาลกับการซื้อนักเตะ ทั้งแข้งไทยและแข้งต่างชาติเอง แต่ผลลัพธ์ยังไม่คุ้มกับทรัพยากรที่ลงไป

เม็ดเงินมหาศาลไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นโทรฟี่ได้ ดีที่สุดก็แค่พื้นที่หัวตารางและโควตาฟุตบอลเอเชีย

ซึ่งระดับสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่มีพร้อมทุกอย่าง ควรจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่ หรือดีกว่าที่เป็นอยู่

เทียบกับสโมสรในระนาบเดียวกัน ที่มีทุนทรัพย์เพียงพอต่อการอัพเกรดทีม ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมเหล่านั้นดูจะไขว่คว้าผลสัมฤทธิ์ได้มากกว่า

เมื่อกุนซือคนแล้วคนเล่าที่เข้ามา ทำไม่ได้ มันจึงกลายเป็น ‘ความล้มเหลว’ ไปในทันที

ทุกคนที่เข้ามาเป็นกุนซือสิงห์เจ้าท่า ต่างถูกค่อนแคะกันทั้งสิ้นก่อนมาว่า จะอยู่ได้สักกี่เดือน กี่ฤดูกาล

บางคนโทษ ‘ระบบครอบครัว’ ทำให้ทีมไม่ประสบความสำเร็จ

แต่เอาจริงๆ ‘แรงกดดัน’ และ ‘ความคาดหวัง’ ที่สูงต่างหากคือ ‘ตัวการ’ สำคัญที่ทำให้โค้ชหลายคนอยู่ไม่ได้

ทุกคนคิดว่า ถ้าโค้ชเก่งจริงต้องเนรมิตให้ทีมดีขึ้นทันตาเห็น แต่ในข้อเท็จจริงมันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากกว่านั้น

‘ความคาดหวัง’ ที่มันสูงและต้องการให้เกิดขึ้นรวดเร็ว นี่แหละทำให้ ‘โค้ช’ กดดันสูง

แต่อย่างว่า เมื่อเลือกจะเป็นโค้ช และโค้ชทีมใหญ่ ก็ต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ให้ได้

‘ท่าเรือ’ เองก็ต้องตามหาคนๆ นั้นต่อไป.

___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ การท่าเรือ เอฟซี Port FC