- Home
- Special Report
- ‘แชมป์คิงส์ คัพ’ ปฐมบท ‘ยุครุ่งเรือง’ ฟุตบอลไทย
‘แชมป์คิงส์ คัพ’ ปฐมบท ‘ยุครุ่งเรือง’ ฟุตบอลไทย
DST.Special Report : ‘ช้างศึก’ ยุค ‘มาซาทาดะ อิชิอิ’ ทำหน้าที่ควาญช้าง ทำได้สำเร็จ หลังเถลิงแชมป์ ‘คิงส์ คัพ’ ได้ในรอบ 7 ปี
เป็นแชมป์สมัยที่ 16 ซึ่งเกิดขึ้นนอกพื้นที่เมืองหลวงอีกแล้ว โดยรอบนี้กัปตันทีมช้างศึกได้ชูถ้วยกันที่ปักษ์ใต้ จ.สงขลา
‘คิงส์ คัพ’ ครั้งที่ 50 หนนี้ มีเรื่องราวให้พูดถึงมากมาย ตั้งแต่บรรยากาศกองเชียร์ที่ปักษ์ใต้ และกองเชียร์จากทั่วสารทิศที่ตีตั๋วลงใต้ไปชมเกมกันที่สนามติณสูลานนท์
บรรยากาศการเชียร์ของพี่น้องชาวใต้ยังน่าขนลุกเหมือนเดิม เปล่งเสียงสะเทือนเลือนลั่นครบ 90 นาที ไม่มีหนีฝน หนีลม หนีแดด ตามสไตล์ ไม่ว่าจะในระดับสโมสรหรือทีมชาติ
ขณะเดียวกัน เป็นแชมป์แรกของ ‘อิชิอิ’ ภายใต้การเป็นกุนซือทัพช้างศึก หลังได้รับการแต่งตั้งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
วิธีการเล่นภายใต้การบงการของ ‘อิชิอิ’ ของช้างศึกชุดนี้ถือว่า ‘ชัดเจน’ มีสไตล์ของตัวเอง เพรสซิ่งกันเร็ว เล่นบอลกันง่าย มีลูกเบา ลูกหนัก สลับกันไปแล้วแต่โอกาส
การเรียกตัวผู้เล่น ดูจากฟอร์ม ผสมผสานกับการเล่นของนักเตะคนดังกล่าวเข้ากับระบบของ ‘อิชิอิ’ หรือไม่
เหนือสิ่งอื่นใดที่น่าภูมิใจคือ นักเตะชุดนี้คือ ‘ยุคเปลี่ยนผ่าน’ ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ ‘อิชิอิ’ ตัดสินใจใช้นักเตะหน้าใหม่หลายคนลงเป็นแกนหลัก
ขุมกำลังหลักในอดีต ‘ธีรศิลป์ แดงดา – ธีราทร บุญมาทัน – สารัช อยู่เย็น’ ที่เป็นแกนกลางของทีม ไม่ได้อยู่ในชุดดังกล่าว มีเพียง ‘ชนาธิป สรงกระสินธ์’ เท่านั้น ที่เป็นแกนกลางให้กับน้องๆ
‘วีรเทพ ป้อมพันธุ์’ คือ ฟันเฟืองสำคัญในแดนกลางของ ‘อิชิอิ’ โดยคิงส์ คัพ ครั้งนี้สลับเอา ‘คคนะ คำยก’ ดาวรุ่งอนาคตไกลจากเมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ‘วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ’ คีย์แมนการท่าเรือ เอฟซี ลงไปยืนด้วยคนละเกม
แบ็กขวา ‘นิโคลัส มิคเกลสัน’ ยืนหนึ่ง ยากจะไร้ผู้เบียดสู้ ขณะที่แบ็กซ้าย ‘อภิสิทธิ์ โสรฎา’ กับ ‘ศศลักษณ์ ไหประโคน’ ลงเล่นคนละเกม
‘ศศลักษณ์’ หากไม่นับจังหวะพลาด ถือว่า เล่นได้ยอดเยี่ยม วิ่งเยอะ เข้าขากับเพื่อนได้ดี ดูแล้ว ‘อิชิอิ’ น่าจะใช้บริการยาวๆ ไปก่อนในตำแหน่งนี้
ปราการหลังตัวกลาง ในที่สุด ‘อิชิอิ’ ก็ได้ ‘เซนเตอร์แบ็ก’ คู่บารมีในยุคของเขาแล้ว หลังจาก ‘เอเลียส ดอเลาะ’ กับ ‘โจนาธาร เข็มดี’ ยืนคู่กันได้แข็งแกร่ง มีทั้งความดุดัน แข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาเรื่องลูกกลางอากาศ
‘โจนาธาร’ พิสูจน์ตัวเองว่า เขาไม่ได้แค่ดีพอสำหรับติดทีมชาติ แต่ดีพอสำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริง ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ
ตัวสำรองหลายคนที่เป็นดาวรุ่ง ได้รับการสนับสนุนเรื่อง ‘โอกาส’ จาก ‘อิชิอิ’ เต็มที่ โดยไม่สนว่า สโมสรที่นักเตะเหล่านี้สังกัดจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่
พูดง่ายๆ ว่า ‘อิชิอิ’ กำลังสร้างทีมของเขาเองได้แล้ว 80%
นักเตะเหล่านี้ถ้าได้เล่นด้วยกันบ่อยๆ โดยที่โค้ชยังเป็น ‘อิชิอิ’ จะยิ่งน่ากลัวกว่านี้
นี่ขนาดเรายังขาด ‘ศุภโชค สารชาติ’ อีกคนที่ไม่ได้มาด้วย ลองคิดดูว่า ถ้ามีมันจะหฤโหดขนาดไหน
มั่นใจว่า บอลไทยมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว และถ้าดูจากพัฒนาการตั้งแต่ ‘อิชิอิ’ ได้รับมอบหมายให้เป็นควาญช้าง มันดีขึ้นเรื่อยๆ
กล้าพูดว่า ‘แชมป์คิงส์ คัพ’ ครั้งนี้ คือ ‘ปฐมบท’ แห่งยุครุ่งเรืองฟุตบอลไทยอีกครั้ง.
_________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก