‘ธนกฤต โชติเมืองปัก’ เครื่องตอกย้ำ ‘ปราสาทสายฟ้า’ ถ้าเก่งจริง อายุเท่าไหร่ไม่สำคัญ

DST.Special Report : หากจะพูดถึง ‘ดาวรุ่ง’ ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในเวทีไทยลีกขณะนี้ คงหนีไม่พ้นกุมารคะนองสายฟ้าที่ชื่อ ‘ธนกฤต โชติเมืองปัก’

เด็กน้อยวัย 17 ปี ถูกกล่าวถึงมาสักระยะ หลังฤดูกาลนี้ได้โอกาสลงเล่นในฐานะตัวสำรองบ่อยครั้ง และทำผลงานได้ถูกตาต้องใจเหล่าแม่ยก-พ่อยก

และชื่อของเขาถูกพูดถึงระงมอีกครั้งหลังจบนัดที่ 16 ของฤดูกาล ในเกมที่ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุกไปเชือด ‘ราชันโคขาว’ ลำพูน วอริเออร์ 2-1

‘น้องเหนือ’ ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 62 ในขณะที่ทีมเยือน ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ ตามเจ้าบ้านอยู่ 1-0

ดาวรุ่งรายนี้ของทีมมีส่วนสำคัญในการโหมใส่เพื่อทวงประตูคืน ก่อนจะได้ 1 แอสซิสต์ จนพลิกกลับมาชนะในที่สุด

สถิติของ ‘ธนกฤต’ ยังสอดคล้องกับสายตาแฟนบอลในสนามที่เห็นด้วยตาเปล่าว่า เขาเล่นได้น่าพิสมัย

เพราะแม้จะลงมาวาดลวดลายใน 30 นาทีสุดท้าย แต่สถิติทุกอย่างเพอร์เฟกต์หมด

สัมผัสบอล 22 ครั้ง ได้ 1 แอสซิสต์ เลี้ยงหลบคู่แข่งสำเร็จ 2/3 ครั้ง ตัดบอล 2 ครั้ง ครอสส์ 2 ครั้ง สร้างโอกาส 2 ครั้ง จ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายสำเร็จ 100% จ่ายบอลสำเร็จ 11/11 ครั้ง (100%) และดวลคู่แข่งชนะ 3/4 ครั้ง

เด็กอายุ 17 ปี ถูกส่งลงสนามในสถานการณ์ที่ทีมกำลังตามหลัง แล้วทำผลงานได้อย่างอหังการ ต้องบอกว่า คนมันจะเกิด ต่อให้คุมกำเนิดอย่างไรก็เอาไม่อยู่จริงๆ

สำหรับ ‘ธนกฤต’ คือ ผลิตผลจากอะคาเดมีของ ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’ ที่บ่มเพาะ รดน้ำ พรวดดิน ด้วยความละเมียดละไม

เขาถูกประคบประหงมด้วยปุ๋ยอย่างดี ครั้งหนึ่ง ‘ปราสาทสายฟ้า’ เคยปฏิเสธสมาคมที่จะให้ ‘เจ้าเหนือ’ ไปลงเล่นช้างศึกยู 17 เพราะกังวลว่า จะได้รับบาดเจ็บก่อนถูกส่งตัวไปฝึกวิทยายุทธที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้

นั่นเพราะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อ่านขาดแล้วว่า เด็กคนนี้มีอนาคตที่ดี และไปไกลได้แน่ๆ

เจ้าของเบอร์เสื้อหมายเลข 44 ของปราสาทสายฟ้าคนปัจจุบัน ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพของผู้เล่นที่ผ่านการบ่มเพาะจากอะคาเดมีแห่งนี้ ที่ล้วนไปสร้างชื่อเสียงกับต้นสังกัดในอนาคตของพวกเขาด้วย

ในขณะเดียวกัน ยังเป็นเครื่องตอกย้ำว่า สโมสรแห่งนี้ให้โอกาส ‘ดาวรุ่ง’ ทุกคนที่ฝีเท้าดี โดยไม่ได้สนใจว่า ปัจจุบันคุณอายุเท่าไหร่

จาก ‘เจ้าเช็ก’ ศุภโชค สารชาติ ตามด้วย ‘เจ้าแบงค์’ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ซูเปอร์สตาร์เหล่านี้คือ เด็กตัวกระเปี๊ยกที่ได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อ้อนแต่ออด

นักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ ก็มี แต่อยู่ที่ว่า เมื่อโอกาสมาจ่อตรงหน้า คุณจะไขว่คว้าและรักษามันเอาไว้ได้หรือไม่

ซึ่งทั้ง ‘เจ้าเช็ก’ และ ‘เจ้าแบงค์’ ตะปบโอกาสไว้อยู่หมัด และพาตัวเองจนเป็นนักเตะแถวหน้าของเมืองไทยในปัจจุบัน

ขณะที่ ‘เจ้าเหนือ’ มีความคล้ายๆ กันคือ เขาได้รับโอกาสลงเล่นในวัยแค่ 17 ปี และสามารถโชว์ผลงานได้เตะตาต้องใจทั้งสตาฟฟ์และแฟนบอล

และมีแววว่า เขาน่าจะโอบกอดโอกาสเหล่านี้ไว้ไม่ให้หลุดรอยแน่ๆ

ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตผลที่น่าติดตามและเอาใจช่วย เพราะสุดท้ายมันจะส่งผลดีต่อ ‘ช้างศึก’ ในอนาคตด้วยเช่นกัน.

________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ BURIRAM UNITED