- Home
- Special Report
- ยิงสู้ ‘บราซิลเลียน’ ไม่ได้ แต่ ‘แอสซิสต์’ ไม่น้อยหน้าใคร
ยิงสู้ ‘บราซิลเลียน’ ไม่ได้ แต่ ‘แอสซิสต์’ ไม่น้อยหน้าใคร
DST.Special Report : เราคงชินกันแล้วล่ะ หากจะเรียกหัวตาราง ‘ดาวซัลโว’ ไทยลีกว่า ‘ที่นี่บราซิล’
นั่นเพราะ ในห้วงหลายฤดูกาลมา อันดับดาวซัลโวต้นๆ เป็นของเพชฌฆาตจากแดนกาแฟกันหมด จะมีนักเตะไทยเข้าไปแทรกกลางได้บ้างเต็มที่คนสองคน
ฤดูกาลก่อนเป็น ‘เจ้าอาร์ม’ ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าของแชมป์เซาะกราว ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ไปเบียดชิงกับกองหน้าชาวบราซิลเลียน ก่อนที่รองเท้าทองคำจะตกเป็นของ ‘แฮมิลตัน โซอาเรส’ ดาวยิงร่างโย่งของ ‘พญาไก่ชน’ หนองบัว พิชญ เอฟซี
โดย ‘แฮมิลตัน’ พี่ท่านล่อไป 19 ประตู รองลงมาเป็นเพื่อนร่วมชาติ ‘อิบสัน เมโล่’ ของ ‘จงอางผยอง’ ขอนแก่น ยูไนเต็ด กดไป 17 ประตู อันดับสามเป็นของ ‘วิลเลียน พอพพ์’ ของ ‘กิเลนผยอง’ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่บราซิลส่งเข้าประกวดอีกเช่นกัน 15 ประตู
ส่วน ‘น้องอาร์ม’ ที่แฟนบอลชาวไทยอยากให้คว้าตำแหน่งดาวซัลโว เหมือนกับ ‘พี่มุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา ตำนานทีมชาติที่ยังโลดแล่นทำได้ ถลุงไป 14 เมล็ด
มาฤดูกาลนี้ ‘เจ้าอาร์ม’ รักษาฟอร์มฮอตเมื่อฤดูกาลก่อนเอาไว้ได้ แต่ต้องคั่วตำแหน่งกับกองหน้าสัญชาติบราซิลอีกครั้ง โดยกองหน้าเซาะกราว สอยไปแล้ว 5 ประตู ตามหลัง ‘ดานิโล อัลเวส’ ของชลบุรี ที่เข้าฝักเหลือเกินอยู่ 1 เม็ดถ้วน
ขณะที่พวกอันดับสามลงมาก็ดาวเตะแซมบ้าอีกเช่นเคย ‘เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส’ เจ้าเก่าเจ้าเดิมของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 4 ประตู เท่ากับกองหลังดาวซัลโวของเชียงราย ยูไนเต็ด ‘วิคเตอร์ คาร์โดโซ’
มันเป็นการตอกย้ำว่า เหตุใดกองหน้าสายพันธุ์บราซิลจึงเป็น ‘พิมพ์นิยม’ ของสโมสรต่างๆ ในประเทศไทย
ซึ่งต้องยอมรับว่า การสังหารประตูของนักเตะไทยยังเฉียบคมสู้เพชฌฆาตโดยดีเอ็นเอของพวกนี้ไม่ได้
และมันเป็นไปได้สูงตอนจบฤดูกาล โอกาสที่ตำแหน่งดาวซัลโวจะตกเป็นของพวก ‘พิมพ์นิยม’ มีสูง แม้ลึกๆ อยากจะให้ ‘เจ้าอาร์ม’ เป็นตัวแทนนักเตะไทยไปยืนอยู่จุดนั้นบ้าง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าใจด้วย ‘เจ้าอาร์ม’ ไม่ใช่เพชฌฆาตสังหารจุดโทษของ ‘บุรีรัมย์’ ฉะนั้น อาจจะเสียเปรียบดาวเตะชาวบราซิลเลียนในการบวกสกอร์ส่วนตัวอยู่นิดหน่อย
อย่างไรก็ดี แม้อันดับดาวซัลโวไทยลีกจะไม่ใช่คนไทย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังน่าภูมิใจคือ อันดับจอมแอสซิสต์สูงสุดตอนนี้ เป็น ‘นักเตะไทย’ ทั้งหมด โดยทำแอสซิสต์ให้เพื่อนสังหารประตูไปแล้ว 3 เมล็ด
ประกอบด้วย ‘เจ้าโน๊ต’ จักรพันธุ์ แก้วพรม กัปตันฟอร์มอมตะของ ‘ราชันมังกร’ ราชบุรี เอฟซี ‘เจ้าตั๊ก’ สุมัญญา ปุริสาย เจ้าของฉายาอิริคเซ่นชลบุรีของ ‘ฉลามชล’ และ ‘เจ้าบาส’ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ดาวเตะเท้าชั่งน้ำหนักมาแล้วจาก ‘สิงห์เจ้าท่า’ การท่าเรือ เอฟซี
สถิติดังกล่าวแม้จะเป็นช่วงต้นฤดูกาล แต่มันทำให้เรามองเห็นอะไรบางอย่างว่า นักเตะไทยส่วนใหญ่มีความโดดเด่นเรื่องการสร้างสรรค์โอกาส หรือจ่ายบอลให้เพื่อนจบสกอร์มากกว่าจะจบสกอร์เอง
การยิงประตูเราอาจจะสู้นักเตะพันธุ์บราซิลไม่ได้ แต่เรื่องการถวายพานเราไม่เป็นรองในไทยลีก
จะเห็นว่า ทีมไหนที่มีนักเตะไทยจ่ายบอลคมๆ และมีนักเตะต่างชาติที่เฉียบขาดด้านการจบสกอร์ มักทำผลงานได้ดี แล้วนักเตะทั้งสองคนจะทำผลงานได้ดีทั้งคู่ในฤดูกาลนั้น
แต่หากทีมไหนมีกองหน้าคมๆ แต่ขาดตัวบรรจงจัดวางให้มักสำแดงเดชไม่ออก ยกเว้นพวกตัวแบก หรือทีมไหนมีนักเตะที่คิลเลอร์พาสเจ๋งๆ แต่ขาดกองหน้าที่เปลี่ยนเป็นประตูให้ ก็มักจะทำผลงานได้ไม่ดี
ทั้งสองอย่างจึงต้อง ‘ลงตัว’
ดังนั้น อย่างน้อยเราก็แสดงให้เห็นจุดเด่นที่เรามี .
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Chonburi Football Club, Ratchaburi FC, การท่าเรือ เอฟซี Port FC
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th