- Home
- Special Report
- ชื่อ ‘อู๊ด’ แต่ผลงาน ‘ไม่อู๊ด’ กับสถิติการคัมแบ็กข้างสนามที่ปัง
ชื่อ ‘อู๊ด’ แต่ผลงาน ‘ไม่อู๊ด’ กับสถิติการคัมแบ็กข้างสนามที่ปัง
DST.Special Report : ตอน ‘โค้ชโอ่ง’ ดุสิต เฉลิมแสน ประกาศหันหลังให้ตำแหน่งขงเบ้งของ ‘สิงห์เจ้าท่า’ การท่าเรือ เอฟซี มีหลายคนถากถางว่า คงวนลูป ‘โค้ชอู๊ด’ สระราวุฒิ ตรีพันธ์ อดีตกุนซือนักเลงคลองเคยอีกตามเคย
จริงดังนั้น ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายหญิงของการท่าเรือ ประกาศแต่งตั้ง ‘โค้ชอู๊ด’ ที่ก่อนหน้านี้ถูกขยับไปนั่งที่ปรึกษาด้านเทคนิค เป็น ‘กุนซือขัดตาทัพ’
มีทั้งเสียงแฟนบอลเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะฝ่ายหลัง ที่ปรามาสว่า หากการท่าเรือจะแล่นได้ไกล ต้องใช้ผู้ดีไซน์แผนการรบในสนามที่เก่งกว่านี้
แต่ใครจะรู้ กุนซือที่หลายคนสบประมาทสำหรับการรีเทิรน์คำรบสอง จะโชว์ความผยอง ด้วยการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองเป็นบ้า
5 เกมแรกของ ‘โค้ชอู๊ด’ ในการกลับมายืนตะโกนสั่งลูกทีมข้างสนาม อยู่ในระดับ ‘มาสเตอร์พีซ’ เริ่มตั้งแต่การเชือด ‘ราชันมังกร’ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-0 ตามด้วยการกระทำชำเราอดีตแชมป์ไทยลีกอย่าง ‘กว่างโซ้งมหาภัย’ เชียงราย ยูไนเต็ด หมดสภาพ 4-0
เท่านั้นไม่พอ ‘โค้ชอู๊ด’ ยังเปิดปฏิบัติการปาดคอแชมป์เก่าฤดูกาลก่อน ด้วยชัยชนะ 1-0 เหนือ ‘เดอะ แรบบิท’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก่อนจะไปพักเบรก ตบเด็ก ‘สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี’ 4-2 ในรายการบอลถ้วย ช้าง เอฟเอคัพ
ขณะที่ล่าสุด นักเลงคลองเตยบุกไปดับซ่า น้องใหม่ฟอร์มแรง ‘พญาไก่ชน’ หนองบัว พิชญ เอฟซี 1-0 ถึงดินแดนอีสาน
5 นัดของ ผู้ชายหน้าเข้ม คือ การชนะรวด ไม่เสมอ ไม่แพ้ มิหนำซ้ำ ยังสร้างวีรกรรม ‘เป้าสะอาด’ รักษาคลีนชีตให้ทีมได้ถึง 4 นัด ซึ่งเป็นเกมในลีกทั้งสิ้น
ที่ร่ำลือ แซ่ซ้อง ตอนนี้คือ ‘สิงห์เจ้าท่า’ กลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากๆ เวลาได้ออกไปอาละวาด ‘นอกบ้าน’
รับแน่นขึ้น รุกไหลลื่นกว่าเดิม นักเตะช่วยกันวิ่ง คือ สิ่งที่กลับมาด้วยพร้อมกับ ‘โค้ชอู๊ด’
หันกลับไปดูอดีตกุนซือท่าเรือคนที่มาแทน ‘โค๊ชอู๊ด’ ตอนต้นฤดูกาลอย่าง ‘โค้ชโอ่ง’ ในการคุม ‘สิงห์เจ้าท่า’ 11 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ 4 นัด เก็บได้ 15 คะแนน
ขณะที่ ‘โค้ชอู๊ด’ ตอนนี้คุมทีมในลีกไป 4 นัด โกยมาแล้ว 12 แต้ม เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ชายที่ชื่อ ‘สระราวุฒิ ตรีพันธ์’ ปั๊มหัวใจนักเลงคลองเตยขึ้นมา ให้เกาะอยู่หัวตารางได้ ด้วยการจบอันดับ 4 ในเลกแรก
ดูอันดับแล้วเหมือนไกล แต่ใจเย็น การท่าเรือมี 27 แต้ม ในขณะที่ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เลกแรก มี 32 แต้ม ระยะห่างแค่ 5 แต้มเอง
ฤดูกาลนี้เหลืออีกตั้ง 1 เลก เวลาเหลือถมเถให้วิ่งไล่กวด แต่มีข้อแม้และหมายเหตุตัวโตๆ การท่าเรือห้ามแผ่ว ห้ามออกทะเลเด็ดขาด
สิ่งที่เราเห็นได้ชัดระหว่าง ‘โค้ชอู๊ด’ กับ ‘โค้ชโอ่ง’ นอกจากผลงานคือ ปฏิริยาของนักเตะ พูดตามตรงๆ มองการวิ่งและการเล่นของนักเตะท่าเรือ ณ ปัจจุบันขณะในวันที่ ‘สระราวุฒิ ตรีพันธ์’ กลับมา คือ พวกเขาดูจะแฮปปี้มากกว่า
นักเตะมีใจให้โค้ช มันทำให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น
ส่วน ‘โค้ชอู๊ด’ จะได้ขัดตาทัพนานแค่ไหน ก็อยู่ที่ ‘มาดามแป้ง’ แต่หากวัดจากผลงานที่ผ่านมา 5 นัด แล้วบอกให้พอ คงสวนทางความรู้สึกแฟนบอลบางส่วนอยู่เหมือนกัน
ประมาณว่า คุมดีแต่ไม่ได้ไปต่อ คงเหมือนกับ ‘อเล็กซานเดร กาม่า’ ที่พาบุรีรัมย์ จบจ่าฝูงเลกแรก แต่ดีไม่พอ ต้องออกจากสโมสรแบบงงๆ
แต่ก็นะ ตอนนี้อะไรมันก็ดี ตราบใดที่ทีมยังชนะ แต่หากวันหนึ่งการท่าเรือวนลูปเดิม สะดุดถี่ๆ ก็จะมีอีกตรรกะหนึ่งดังขึ้นมา
คิดจะเป็นเต้ยในไทยลีก ต้องหากุนซือที่ฝีมือดีกว่านี้
นานาจิตตัง แต่คงต้องบอกว่า คนตัดสินใจ อยู่ที่ ‘มาดามแป้ง’ คนเดียวจริงๆ.
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : การท่าเรือ เอฟซี Port FC
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th