ถ้ายังมี ‘ซูเปอร์สตาร์’ เมืองทอง คงเสีย OTOP ชั้นเยี่ยม

DST.Special Report : ช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน คือ ความยากลำบากที่สุดของสโมสร

ครั้งหนึ่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เคยตะกละตะกลามความสำเร็จ พร้อมจะปรนเปย์ความสำเร็จด้วย ‘เงินตรา’

แต่ละซีซั่น แฟนๆ สามารถเฝ้ารอได้ว่า ‘กิเลนผยอง’ จะควักกระเป๋าซื้อบิ๊กเนมรายไหน ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสัญชาติไทย หรือดาวเตะต่างชาติ

ในทุกๆ ปี เป้าหมายของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คือ ‘ความสำเร็จ’ ผิดจากนี้ พวกเขาเรียกว่า ฤดูกาลแห่งความล้มเหลว

กระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ อดีตแชมป์ไทยลีก ตัดสินใจเปลี่ยนนโยบาย จากการกว้านซื้อ สู่การเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์เอง เพื่อรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย

นับจากนั้น เมืองทองฯ คือ ทีมที่สามารถแพ้ได้ทุกทีมในลีก พวกเขาเข้าสู่ยุคที่สามารถเรียกได้ว่า ตกต่ำ มีนาฬิกาชีวิตที่ต้องไปอยู่ท้ายตาราง

และแน่นอนว่า มันขัดใจแฟนบอลที่เสพติดความสำเร็จของสโมสรมาตลอดหลายปี

แม้จะได้โค้ชที่ประสบความสำเร็จอย่าง ‘อเล็กซานเดร์ กามา’ แต่มันไม่สามารถปลุกกิเลนตัวน้อย ด้วยทรัพยากรที่มีแต่ดาวรุ่ง กับนักเตะต่างชาติที่ไม่ได้มีฝีเท้าฉูดฉาด กระทั่งหันไปใช้ทฤษฎี ‘ปลุกกิเลนด้วยกิเลน’ ดึง ‘มาริโอ ยูรอฟสกี’ ตำนานที่ยังหายใจของสโมสรมาเป็นเฮดโค้ช

‘เกรียนโอ้’ ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในฐานะโค้ชชุดใหญ่ ใช้จิตวิญญาณปลุกความเป็นกิเลน และนั่นดูเหมือนว่า มันจะวิเศษกับเมืองทองมากกว่าแท็กติกในเวลานี้

ปัจจุบัน เมืองทองฯ กลับมาเป็นเมืองทองฯ คนเดิมที่ฟอร์มดุดัน แม้จะยังไต่ไม่ถึงจุดที่พวกเขาเคยอยู่อย่างทีมลุ้นแชมป์ หากแต่นั่นคือ ผลลัพธ์ที่สาวกถือว่า ดีเกินกว่าที่คิด

กำลังหลักของ ‘กิเลน’ ชุดนี้ คือ ผู้เล่นเยาวชนที่ถูกผลักดันขึ้นมา และพวกเขาไม่ได้ถูกคาดหวังเรื่องผลงานสักเท่าไหร่ กึ่งๆ ไปทางโดนดูถูก ดูแคลน ว่ายากที่จะประสบความสำเร็จได้ด้วยเด็กพวกนี้

แต่ที่ไหนได้ ‘กิเลนจิ๋ว’ โชว์ฟอร์มมาถึงบนหัวตาราง จี้คอบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตคู่รักคู่แค้นของตัวเองแค่หายใจรดต้นคอ

พวกเขาได้รับคำชื่นชม และได้รับการจับตาว่า อนาคตจะกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลไปเที่ยวหว่านซื้อจากภายนอก

จริงๆ แล้ว สินค้า OTOP ของเมืองทองฯ นั้น เป็นสินค้าคุณภาพมานมนาน นักเตะชื่อดังทีมชาติและไทยลีกปัจจุบัน หลายคนมีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นกิเลนจิ๋วกันมาทั้งนั้น

ผู้เล่นตัวหลักของเชียงราย ยูไนเต็ด หรือ สมุทรปราการ ซิตี้ ในชุดปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่เป็นเมล็ดพันธุ์ ที่ถูกปลูกในแปลงเมืองทองธานีทั้งนั้น แต่ไม่สามารถแทรกตัวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ จนต้องไปเติบโตในแปลงอื่น

ซึ่งต้องยอมรับว่า ยุคก่อนมันยากจริงๆ ที่เด็กปั้นสักคนจะแทรกซึมขึ้นสู่ชุดใหญ่ เพราะบรรดาตัวหลักหนาแน่นไปด้วยแข้งเบอร์ใหญ่

เด็กปั้นเมืองทองฯ ส่วนใหญ่จึงไม่ได้เกิด ทั้งที่เป็นสินค้าพรีเมียม

แต่พอมาถึงยุคนี้ ที่สโมสรเปลี่ยนโยบายเน้นดันกิเลนจิ๋ว มันจึงทำให้เห็นว่า แท้จริงแล้วพวกเขามีของดีในมือมาตลอด แค่ขาดโอกาสฉายแสงในหมู่บ้านตัวเอง

ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ กับผลงานในปัจจุบัน มันยังแสดงให้เห็นว่า อะคาเดมีของกิเลนผยอง คือ อะเคเดมีที่น่าจะดีที่สุดของเมืองไทยแล้ว.

_______________

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ SCG MUANGTHONG UNITED

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th