- Home
- Special Report
- ‘ชัยนาท’ อดีตเหยื่อตัดจบสมาคมฯ ถึงดรามา ‘พิษณุโลก-แม่โจ้’ ทางออกแบบไทยๆ แก้ไม่ได้
‘ชัยนาท’ อดีตเหยื่อตัดจบสมาคมฯ ถึงดรามา ‘พิษณุโลก-แม่โจ้’ ทางออกแบบไทยๆ แก้ไม่ได้
DST.Special Report : โควิด-19 เป็นเหตุสังเกตได้!
ยังคงเป็นปัญหายืดเยื้อ หลังฟุตบอลไทยลีก 3 ตัดสินใจตัดจบ โดยให้ทีมอันดับ 1-2 ของแต่ละโซนไปเล่นรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเลย หลังโควิด-19 ออกอาละวาดรอบสอง จนยากจะกลับมาแข่งขันได้
โซนอื่นๆ ไม่มีปัญหา เพราะอันดับ 1-2 ส่วนใหญ่มีแต้มที่ขาดบ้าง แข่งเท่ากันบ้าง แต่ที่โซนเหนือ กำลังดราม่าหนัก เพราะอันดับ 2 กับ อันดับ 3 มีผลการแข่งขันเหลื่อมกันอยู่ 1 นัด
โดยอันดับ 2 แม่โจ้ ยูไนเต็ด แข่งไป 15 นัด มี 33 แต้ม ขณะที่อันดับ 3 พิษณุโลก เอฟซี แข่งน้อยกว่า โดยเตะไป 14 นัด มี 32 แต้ม
แต่ครั้นจะให้อันดับ 2 อย่างแม่โจ้ขึ้นไปแตะรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเลย ทางพิษณุโลก เอฟซี ก็รู้สึกไม่แฟร์ เพราะพวกเขาแข่งน้อยกว่า 1 นัด ถ้าชนะขุนพลนเรศวรจะได้ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 แทน
พิษณุโลก เอฟซี ประกาศตัวแต่ช่วงแรกว่า พวกเราพร้อมเตะแมตซ์ตกค้าง หรือแม้แต่วัดกับแม่โจ้ ยูไนเต็ด เพื่อชี้ขาดว่า ใครจะคว้าอีกหนึ่งโควต้า แต่อีกฝั่งนิ่ง
แม่โจ้ ยูไนเต็ด มองว่า พวกเขามีคะแนนมากกว่า ไม่จำเป็นต้องกระเสือกระสน อะไรในเมื่อตัดจบแล้ว ควรต้องยึดตารางคะแนนปัจจุบัน
ใครจะแข่งมาก แข่งน้อยกว่าถือเป็นคราซวย
ที่สุดมีการใช้ระบบให้สโมสรในโซนโหวต ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ เทให้พิษณุโลก เอฟซี
ทว่า มันไม่จบตามคาด แม่โจ้ ยูไนเต็ด ยื่นอุทธรณ์และมีข่าวว่า หนนี้พวกเขาพลิกเกมได้ เพราะมีคะแนนในตารางมากกว่า โดยนำกฎระเบียบการตัดจบลีกที่เคยใช้ในปี 2016 มีเป็นระเบียบปฏิบัติเช่นเดียวกันครั้งนี้ นั่นคือ การยึดผลบนตารางการแข่งขัน ณ วันตัดจบลีก
ล่าสุด พิษณุโลก เอฟซี ประกาศว่า มันไม่ยุติธรรม พวกเขาจะอุทธรณ์ และหากเหตุผลพวกเขาถูกตีตก เรื่องนี้จะใหญ่ถึงเอเอฟซี หรือ ฟีฟ่า
กลายเป็นปัญหาบานปลาย จนส่อเค้าว่าจะเป็นมหากาพย์ ดังนั้น ทางที่ดีสมาคมฯไม่ควรใช้การตัดสินแบบไทยๆ แต่ควรไปหาระเบียบมากาง ดูว่ามันชัดขนาดไหนเพื่อแก้ปัญหา
จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ได้ใหม่สำหรับฟุตบอลไทยเสียทีเดียว หากจำกันได้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2016 ในศึกไทยลีก 1 ที่กำลังขับเคี่ยวกันหนีตกชั้น
ปีนั้น ประเทศไทยต้องสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 13 ต.ค. บรรยากาศในประเทศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า สมาคมฯ จึงมีมติให้หยุดการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ
ปรากฏว่า อาร์มี ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 16 และชัยนาท ฮอร์นบิล อันดับ 17 สองทีมที่กำลังหนีตกชั้น และฟอร์มกำลังมา มีโอกาสจะไต่อันดับหนีโซนแดงได้ ไม่พอใจสมาคมฯ ที่ตัดจบจนทำให้พวกเขาตกชั้น มีการยื่นอุทธรณ์ต่อสมาคมฯ
ชัยนาท ฮอร์นบิล แสดงความประสงค์ว่า พวกเขาพร้อมเตะนัดที่เหลือแบบปิด ไม่มีผู้ชมก็ได้ แต่ขอได้เล่นเกมที่เหลือ หากสุดท้ายตกฉันจะศิโรราบโดยดี แต่ถ้าตัดจบกันดื้อๆ เหมือนเป็นการตัดโอกาส ซึ่งไม่แฟร์
แต่สุดท้ายไม่เป็นผล สมาคมฯยืนยัน ทำให้อาร์มี ชัยนาท และบีบีซียู เอฟซี หล่นลงไปเล่นลีกพระรอง ซึ่งทุกวันนี้ยังเป็นแผลเป็นในใจของผู้บริหารและนักเตะชัยนาทอยู่เลย แม้อีกฤดูกาลจะคัมแบ็กกลับสู่ลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ได้ก็ตาม
เรื่องดังกล่าวผ่านมา 5 ปีแล้ว สมาคมฯจึงน่าจะมีการเขียนระเบียบตรงนี้ไว้แล้ว ยกเว้นประมาทเลินเล่อ
แน่นอนว่า มันย่อมสร้างความไม่พอใจ เพราะมันต้องมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ทางที่ดีจึงควรหาตัวตัดสินใจที่ยุติธรรม นั่นคือ ลายลักษณ์อักษรที่บัญญัติไว้ในระเบียบ ที่แม้จะมีคนไม่พอใจอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยมันอธิบายเหตุผลได้ ส่วนมันจะแฟร์หรือไม่แฟร์ ไปแก้กันในอนาคต เพื่อไม่ให้มันวนเวียนซ้ำซากกับลูปเดิมๆ
แต่กรณีระเบียบไม่ชัดเจน อย่างเช่นกรณีพิษณุโลก เอฟซี กับแม่โจ้ ยูไนเต็ด สมาคมฯควรหาทางแก้ไขปัญหาที่เป็นสากล หรือทำให้ทั้งสองทีมยอมรับให้ได้
ต่อให้ต้องเตะกันใหม่ หรือเตะนัดตกค้างก็ต้องทำ เพื่อขจัดความรู้สึกไม่แฟร์ออก
เพราะต้องยอมรับว่า แม่โจ้ ยูไนเต็ดก็ไม่ผิด และพิษณุโลก เอฟซีก็ไม่ได้ผิด พวกเขาไม่ได้ก่อปัญหานี้ขึ้น
และไม่ผิดที่พวกเขาจะปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง การบ้านจึงอยู่ที่สมาคมฯ ที่อย่าทำให้ใครหัวเราะเยาะว่า หาทางออกแบบไทยๆ อีกแล้ว.
_____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Phitsanulok Football Club
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th