‘เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม’ คนตัวเล็ก ที่ฝีเท้าดังกว่าคำชมเชย

DST.Special Report : สมัยก่อน รูปร่าง สรีระ มักจะเป็น “กำแพง” ขวางกั้น นักเตะหลายคนให้ไปไม่ไกลกว่าที่ควรจะเป็น

สมัยนี้ อาจมีให้เห็นบ้างประปราย แต่น้อยลงกว่าอดีตกาลมาก

นั่นเพราะ แต่ละสรีระมี “จุดเด่น” ที่แตกต่างกัน

ตัวใหญ่ กรำยำ สูงชะลูด แต่มักพ่วงมาด้วย “แรงเฉื่อย”

ตัวเล็ก แต่เต็มไปด้วยความปราดเปรียว

หากเป็นรถยนต์ มันคงเป็นเรื่องของสมรรถนะ

“เจ้าแทน” เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม แบ็กซ้าย “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี คือ “คนตัวเล็ก” ที่ไม่ใช่แค่ส่วนสูง แต่รวมถึงร่างกายที่บอบบาง

ย้อนกลับไปวันวาน สมัยนักเรียนขาสั้น “เจ้าแทน” ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าเพื่อนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย อย่าง “เจ้าเฟย” ศิวกรณ์ เตียตระกูล ในฟุตบอลจตุรมิตร

หลังร่ำเรียนจนจบ เขาถูกข้อจำกัดเรื่องร่างกาย ทำให้หาทีมเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นนักเตะอาชีพได้ยากมากกว่าคนอื่นๆ กระทั่ง “บีบีซียู” มองข้ามจุดนั้น ยื่นสิ่งที่เขาปรารถนาให้ นั่นคือ “โอกาส”

“เกียรติศักดิ์” แสดงให้เห็นว่า รูปร่างของเขาไม่ใช่ปัญหา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนขึ้นชั้นสู่ลีกสูงสุดกับทีม ซึ่งเป็นความฝันสูงสุด แต่แล้วเวลาที่หอมหวานมันก็จากเขาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อต้นสังกัดตกชั้น และปิดฉากด้วยการ “ยุบทีม”

“เจ้าแทน” ยังคงปักหมุดในถนนลูกหนัง ตระเวนคัดเพื่อหาทีมให้เขายังโลดแล่นในลีกอาชีพ ทว่า สรีระที่เล็กกลับมาเป็น “กำแพง” กับเขาให้ถูกปฏิเสธจากหลายทีม หากแต่ไม่ใช่ “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ร่วงหล่นมาลีกพระรอง

ชัยนาทรับ “เกียรติศักดิ์” เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน และ “เดนิส อมาโต” กุนซือขณะนั้นคือ คนที่มอบโอกาสในสนามให้แก่เขาอย่างจุใจ

เช่นเดิม ช่วงแรกแบ็กซ้ายรายนี้ถูกตั้งคำถามมากมายถึงร่างกายที่แทบจะปลิวลม ผนวกกับโปรไฟล์ที่ไม่ได้อยู่ในระดับเกียรตินิยมฟุตบอล จึงทำให้เป็นนักเตะใหม่ที่ได้รับความสนใจน้อย เมื่อเทียบกับเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่เข้าสู่ทีม

“เจ้าแทน” ใช้เวลาไม่นาน ยึดตำนานตัวจริงในฐานะแบ็กซ้าย จากสไตล์ขึ้นสุด ลงสุด ขยัน และเปิดบอลจากริมเส้นได้ดี ถูกจริต “อมาโต” ยิ่งนัก

เขาเป็นนักเตะที่ได้รับการยกย่องและออกสื่อน้อย แต่แฟนบอลชัยนาทต่างรู้ว่า จะขาดเขาไม่ได้ในสนาม อาจจะใกล้เคียงกับคำว่า ปิดทองหลังพระทำนองนั้น

“เกียรติศักดิ์” จบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ลีกพระรองกับชัยนาท และผงาดขึ้นกลับสู่ไทยลีก เป็นอีกครั้งที่เขาได้สัมผัสความรู้สึกนี้

เพียงแต่ว่า “เสื้อสีชมพู” ที่ใส่วันนั้น เป็น “ชัยนาท” ไม่ใช่ “บีบีซียู”

แต่ว่า ครั้งนี้เขาไม่ต้องตกชั้นอีกแล้ว เพราะสามารถบุกบั่นฟันฝ่าจนพา “นกใหญ่พิฆาต” อยู่รอดบนไทยลีก 1 สำเร็จ

กระนั้น มันก็เป็นเพียงปีเดียว เพราะ “ชัยนาท” ต้องหล่นลงไปเล่นข้างล่างอีกครั้ง

“ราชบุรี” คือ ทีมที่มองเห็นศักยภาพแบ็กซ้ายรายนี้ และกระชากเข้าไปร่วมทีม

เช่นเดิม ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่กับการเซ็นสัญญากับแบ็กซ้ายจากทีมที่ตกชั้น ยกเว้น “ผู้เป็นโค้ช”

“เจ้าแทน” ได้รับโอกาสลงสนามในฐานะตัวจริง และมีส่วนสำคัญในการพาราชบุรี ผงาดง้ำค้ำอยู่บนหัวตารางได้ ณ ปัจจุบันขณะ

ความฝันของพ่อค้าแข้งเมื่อวัยเด็ก คือ การอยากเล่นไทยลีก 1 แต่ตอนนี้ การได้มาอยู่ในทีมที่ขนาดมหึมาขึ้น มิหนำซ้ำ ยังฟอร์มดี บางที เขาอาจต้องขยับความฝันให้ไกลอีกนิด นั่นคือ การสวมยูนิฟอร์มทีมชาติ

ไม่แน่นะว่า หากเขาทำผลงานได้ดีเสมอต้นเสมอปลายกับราชบุรี วันหนึ่ง “เกียรติศักดิ์” อาจเป็น 1 ในชื่อที่ถูกเรียกเข้าสู่แคมป์ทีมชาติก็เป็นได้.

_____________

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Ratchaburi Mitr Phol FC

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th