กองหลังท่าเรือ “แออัด” แต่ “โค้ช” ยิ่งชอบ

DST.Special Report : “2 แปง” กลายเป็นลูก “แม่แป้ง” เรียบร้อย สำหรับสองพี่น้องตระกูลอักษรศรี “ทิตาวีร์-ทิตาธร” 

ขนาดสโมสร-ทรัพยากร-ความพร้อม-สถานการณ์ ถือว่า เหมาะสม

“โชแปง-ปาแปง” กำลังอยู่ในห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจาก “ดาวรุ่ง” ไปสู่ “กองหลังชั้นนำ” ในแวดวงลูกหนังเมืองไทย

การได้อยู่ในสโมสรใหญ่ๆ สปอร์ตไลต์ฉายถึง เป็นการเพิ่มโอกาสจาก “ขาจร” เป็น “ขาประจำ” ในทีมชาติทั้งชุดใหญ่ และชุดเล็ก

แต่หลายคนอาจไม่เข้าใจ “มาดามแป้ง” ว่า เหตุใดจึงกระชาก “เด็กแฝด” เข้าแพท สเตเดี้ยม ทั้งที่กองหลังชั้นแนวหน้าของลีกในทีมแทบจะเบียดกันตายอยู่แล้ว 

ทั้งดาบิด โรเชลา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ทศพล ราเทศ, เอเลียส ดอเลาะห์, นิติพงษ์ เสลานนท์, มาติน สตูเบิ้ล, เควิน ดีรมรัมย์, จตุรพัช สัทธรรม และอดิศร พรมรักษ์ ที่เพิ่งไปกระชากมา

การมาของ “โชแปง” และ “แปง” จะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตำแหน่งนี้กลายเป็น “ชุมชน” แออัด 

โดยเฉพาะแบ็กซ๊ายที่มีทั้ง “เควิน-จตุรพัช” สองแบ็กดีกรีทีมชาติ ไหนจะ “สตูเบิล” อีก

เรียกว่า ผู้เล่นแนวรับของ “สิงห์เจ้าท่า” สามารถแบ่งเป็น 2 ทีมได้สบายๆ 

ทว่า นั่นคือ มุมมองของคนภายนอก แต่สำหรับ “ผู้บริหาร-โค้ช”’ อาจไม่ได้รู้สึกว่า ล้นทีมแต่อย่างใดก็ได้ 

ยิ่งเมื่อมองเป้าหมายของ “ท่าเรือ” ที่ต้องการประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น มันยิ่งไม่น่าแปลกใจ ดูอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ช่วงหนึ่งมีซุปเปอร์สตาร์ล้นทีม มันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร

กลับกัน ผู้เป็นโค้ชยิ่งชอบ เพราะมีผู้เล่นที่ทดแทนกันได้ชนิด “ไม่รู้สึกขาด” หรือ ส่งผลกระทบอะไรเวลามีนักเตะได้รับบาดเจ็บ

โค้ชที่ไหนก็อยากได้นักเตะเก่งๆ อยู่ในทีมทั้งนั้น ทั้งตัวจริง-ตัวสำรอง

แรงกดดันที่ “โค้ช” มีอย่างเดียวคือ ในเมื่อผู้บริหารเปย์ผู้เล่นให้ขนาดนี้ แล้วยังทำผลลัพธ์ออกไม่ได้มุ่งหวัง มันคือ “ระเบิดเวลาของจริง

การจัดตัวผู้เล่นอาจสร้างความรู้สึก “รักพี่-เสียดายน้อง” บ้าง แต่มันไม่ได้ทำให้ “ขงเบ้ง” เครียดจนต้องกรอกยาพาราเข้าปากทีละหลายๆ เม็ด

ตรงกันข้าม คนที่กดดันคือ “ผู้เล่น” เพราะมีคู่แข่งที่พร้อมท้าชิง “ตำแหน่งตัวจริง” หลายคน ดังนั้น จึงต้องเฟ้นฟอร์มออกมาให้ดีที่สุด

ขณะที่ “ฝาแฝดคลองเตย” อาจมีหลายเหตุผลที่ตัดสินใจมาต่อแถวเข้าชิงตำแหน่งตัวจริงกับบรรดาๆ พี่ 

เด็ก 2 คนนี้ย่อมรู้อยู่แล้วว่า กองหลังท่าเรือมีใครบ้าง และมันแออัดกันแค่ไหน 

แต่อาจประเมินแล้วคุ้มกว่าจึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ามาคลองเตย ไม่ใช่ “บุรีรัมย์” หรือทีมอื่นๆ ที่ตกเป็นข่าว

ให้ทายใจ “โชแปง-ปาแปง” ต้องการอยู่ กทม. อาจมีเรื่องของการศึกษาด้วย

และอีกเหตุผล เป้าหมายของ “ 2 แปง” คือ “เจลีก” หลังมีข่าวพัวพันมาตลอด 

หากใช้บรรทัดฐานในอดีต “บุรีรัมย์” ดูจะเป็นทีมที่ไม่นิยมส่งเสริมให้เด็กในทีมไปกินปลาดิบสักเท่าไหร่ ดังนั้น หากไปแล้วอาจจะสานฝันยาก

การอยู่กับ “ท่าเรือ” จึงน่าจะลงล็อกในแง่นี้

ซึ่งพูดก็พูด ตอนนี้อิจฉานักเลงคลองเตยชิบ!

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย

ขอบคุณภาพ : เพจ Port F.C.

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​

Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand

Twitter : dailysoccer2017 

IG : dailysoccerthailand

Line : @dailysoccerth

Website : http://dailysoccer.in.th