• Home
  • Special Report
  • ‘รุ่งโรจน์ สว่างศรี’ 1 ใน ‘ยอดไอดอล’ ของ ‘กองหลัง’ ชาวไทย

‘รุ่งโรจน์ สว่างศรี’ 1 ใน ‘ยอดไอดอล’ ของ ‘กองหลัง’ ชาวไทย

By on April 10, 2020 0 962 Views

DST.Special Report : นอกจากชื่อของ “นที ทองสุกแก้ว” ที่มักเป็นคำตอบต่อคำถามที่ว่า ใครคือ “ไอดอล” ในตำแหน่ง “เซนเตอร์ฮาฟ” ชาวไทยแล้ว ชื่อของ “รุ่งโรจน์ สว่างศรี” อดีตปราการหลังทีมชาติไทย คือ อีก 1 ในคำตอบที่มักพบบ่อยเช่นกัน

แม้ปัจจุบัน “รุ่งโรจน์” จะแขวนสตั๊ด และเลือกเข้าสู่เส้นทาง “โค้ช” ไปแล้ว แต่สไตล์การเล่นของเขายังมักถูกพูดถึงเสมอเวลาเสวนากันเรื่องยอดกองหลังสัญชาติไทย เด็กรุ่นหลังหลายคนอาจจะไม่ทันได้เห็นฟอร์มการเล่นของ “รุ่งโรจน์” เมื่อครั้ง “รุ่งเรือง”

เขาเป็น 1 ในขุนพล ที่คว้าแชมป์ซีเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน ปี 2544 และ 2546 พร้อมกับการก้าวกระโดดเข้าสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในวันที่โอกาสยังไม่เปิดอ้าสู่เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเขา

นอกจากนี้ “รุ่งโรจน์” คว้าแชมป์ไทยลีกกับ “ธนาคารกรุงไทย” 2 ปีซ้อน (2547-2548) ภายใต้การวางยุทธศาสตร์การเล่นของ “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น

“รุ่งโรจน์” คว้าแชมป์ไทยลีกกับ “ธนาคารกรุงไทย” 2 ปีซ้อน (2547-2548) ภายใต้การวางยุทธศาสตร์การเล่นของ “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น

กล่าวได้ว่า ในยุคนั้น “รุ่งโรจน์” คือ “วันเดอร์คิด” ในตำแหน่งปราการหลัง

และด้วยพรสวรรค์ที่พวยพุ่งออกมา ทำให้ตอนนั้นหลายคนฝากผีฝากไข้แผงหลังทีมชาติไทยในอนาคตไว้กับเขา บางคนเรียกเขาว่า “นที 2”

ภาพจำของแฟนบอลที่มีต่อตัว “รุ่งโรจน์” มักจะออกไปในแนว “ฮาร์ดแมน” จากสไตล์การลงเล่นที่ “หนักหน่วง-ถึงลูกถึงคน”

ดีเดือด ประหนึ่งพร้อมไฝ้วกับวัตถุที่อยู่ตรงหน้า หากแต่มันไม่ใช่ “ทรงบอลภูธร” ทั่วๆ ไปในยุคนั้น ที่เน้นหนัก เพื่อให้คู่แข่งแขยงไม่กล้าเล่นบอล

“หนัก” แต่มี “ชั้นเชิง” หากจะพูดให้เห็นภาพ “รุ่งโรจน์” คือ “ริโอ เฟอร์ดินาน” ในเวอร์ชั่น “เกรี้ยวกราด”

การเล่นของเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ในยุคนั้น จนบางทีอาจมองว่า เป็นของแปลกแหวกแนว แต่เมื่อถึงวันนี้มองย้อนกลับไป มันคือ วิธีการเล่นมาจากโลกอนาคตชัดๆ

เข้าสกัดหนัก แต่แม่น เทคนิคแพรวพราว โยกหลบกองหน้าคู่ต่อสู้ ที่สำคัญ “รุ่งโรจน์” เป็นคนที่ไมได้เตะบอลทิ้งขว้าง แต่วางบอลแม่น และมีจุดหมาย

ข้อเสีย (หรืออาจไม่ใช่) ของ “รุ่งโรจน์” เห็นจะมีอยู่ประการเดียวคือ เรื่องของการควบคุมอารมณ์ในสนามที่เขามักปลดปล่อยมันออกมาอยู่เสมอ จนมีใบเหลือง ใบแดง เป็นกิจวัตรประจำแมตซ์ให้เห็นประจำ

แต่เชื่อหรือไม่ หากคุณพบเจอ “รุ่งโรจน์” นอกสนามฟุตบอล เขาจะมีอีกบุคลิกหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับบทบาท “ฮาร์ดแมน์” ในสนาม

สุขุม ใจดี เป็นกันเอง นี่คือ สิ่งที่หลายคนพบมากับตัว

คู่ขัดแย้งสำคัญของ “รุ่งโรจน์” คือ อาการบาดเจ็บ ที่เล่นงานเขามาตลอดการค้าแข้ง ซึ่งบางทีหากไม่มีมัน เขาอาจไปได้ไกลกว่านี้

ในยุคที่บางกอกกล๊าส เอฟซี เทคโอเวอร์ “ธนาคารกรุงไทย” เขายังได้รับความไว้วางใจให้ยืนปราการหลังคู่กับ “น้าอ่ำ” อำนาจ แก้วเขียว อยู่เสมอ 

พูดกันตรงๆ วันนี้เรายังไม่พบปราการหลังในลักษณะเดียวกับ “รุ่งโรจน์” มีแค่คล้ายคลึงเท่านั้น 

จึงไม่แปลกใจ ทำไมเขาถึงเป็น “ไอดอล” ของเซนเตอร์ฮาฟชาวไทยจนถึงทุกวันนี้

เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​

Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand

Twitter : dailysoccer2017 

IG : dailysoccerthailand

Line : @dailysoccerth

Website : http://dailysoccer.in.th

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *