
“อาเชียมปง-อดิเยียห์-คูมสัน-ฮอนนี่” 4 สตาร์กาน่า(เคยเล่น)ในไทยลีก
DST.News : ไนจีเรีย,แคเมอรูน,กาน่า,และไอวอรี่ โคสต์ ถือเป็น 4 ชาติมหาอำนาจลูกหนังแห่งทวีปแอฟริกาที่คุ้นเคยกับหูแฟนบอลไทยเป็นอย่างดี และถือเป็นประเทศแนวหน้าของทวีปอีกเช่นกันในเรื่องส่งออกนักเตะ ออกไปเล่นต่างแดนทั่วโลก ช่วงเริ่มต้นของไทยลีก มีนักเตะแอฟริกันเล่นให้กับหลายสโมสร ก่อนจำนวนจะค่อยๆ ลดลงไปในปัจจุบัน โดยถูกแทนที่จากกลุ่มนักเตะบราซิลแทน
สำหรับทีมชาติ กาน่า เป็นชาติแอฟริกัน ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 เมื่อครั้งที่มีทีมจากกาฬทวีป ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีม สุดท้าย ก่อนจะตกรอบจาก “หัตถ์พระเจ้า” ของหลุยส์ ซัวเรส ก่อนที่ “กียาน อซาโมอาห์” จะยิงจุดโทษพลาดในนาทีสุดท้าย ส่งอุรุกวัยเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับฮอลแลนด์ ก่อนที่บั้นปลายจะเป็น ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ไปครอง และผลงานดังกล่าวยังเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีมจากกาฬทวีป จนถึงตอนนี้อีกด้วย
ในประเทศเองไทยเองช่วงที่นักเตะจากแอฟริกามาค้าแข้งกันเยอะๆ ก็มีนักเตะจากกาน่าเข้ามาทำมาหากินในประเทสไทยไม่น้อย วันนี้ DailySoccerThailand ได้คัดสรร 4 ผู้เล่นกาน่าที่อัดแน่นด้วยคุณภาพมาระลึกความหลังไม่ให้แฟนๆลืมพวกเขาเหล่านี้

1.แฟรงค์ โอโปคู อาเชียมปง (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ปี 2011-2013
นี่คือนักเตะที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังจากย้ายออกจากไทยลีกไปเล่นประเทศอื่น นับแต่ “แฟรงค์เล็ก” ในวัย 17 ปี ย้ายมาสร้างชื่อในแดนอิสายใต้กับ “ปราสาทสายฟ้า” เจ้าตัวทำไป 32 ประตู จาก 65 นัดในทุกรายการ โดยภาพที่ผู้คนจำติดตาได้ดีที่สุดคือการจับคู่กับ “แฟรงค์ โอแฮนด์ซ่า” กองหน้าแคเมอรูน แม้ตอนนั้น อาเชียมปงจะยังมีอายุไม่ถึง 18 ปี บริบูรณ์ แต่ก็สามารถสร้างอิมแพ็คมหาศาลให้กับวงการฟุตบอลไทย จุดเด่นของเจ้าตัวคือความเร็ว และความแข็งแกร่ง ด้วยส่วนสูงเพียง 169 ซ.ม. ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เมื่อบรรดาแนวรับต้องมาปะทะด้วยการเบียดกัน “ไหล่ ต่อ ไหล่” จึงเป็นเรื่องยาก ที่ใครจะหยุดยั้งความเร็วของ “แฟรงค์เล็ก” อยู่
หลังจากเล่นในไทยได้ไม่ถึง 3 ปี เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับ ฌวลติด ยักษ์ใหญ่ของสก็อตแลนด์ ก่อนจะได้โอกาสเซ็นสัญญากับ “อันเดอร์เลชท์” ทีมเบอร์ 1 ของประเทศเบลเยียม โดยเจ้าตัวลงเล่นกว่า 100 นัด และเคยลงปะทะแข้งกับสตาร์ระดับโลกมากมาย ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ ยูโรปาลีก ก่อนจะย้ายไปหาควาท้าทายใหม่กับ เทียนจิน เทด้า สโมสรในไชนีส ซูเปอร์ลีก และแน่นอนว่าเจ้าตัวยังคงต่อยอดความยอดเยี่ยมต่อไป เมื่อปีที่สองที่ย้ายมาเจ้าตัวเป็นหนึ่งในแคนดิเดท ลุ้นดาวซัลโว ของลีก ที่ขึ้นชื่อว่า หินที่สุด ในทวีป เอเชีย โดยปัจจุบันนี้เจ้าตัวรับค่าเหนือยถึงเดือนละ 350,000 ดอลลาร์ และแน่นอนว่าก้าวไปติดทีมชาติกาน่ามาแล้ว

2.กิลเบิร์ต คูมสัน (บีอีซี เทโรศาสน 2012-2015 , สมุทรสงคราม เอฟซี 2013)
ปีดจรวดเพื่อนร่วมรุ่นของ “เมสซี่เจ” ที่ย้ายมาเล่นกับ “มังกรไฟ” จากคำแนะนำ “ปีเตอร์ บัทเลอร์” ที่เคยเห็นฝีเท้าของคูมสัน สมัยที่ไปสเก๊าท์ผู้เล่น ในกรุง อัครา เมืองหลวงของกานา เจ้าของความสูง 180 ซ.ม.เล่นในไทยเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ กับ บีอีซี เทโรศาสน และ สมุรสงคราม ก่อนที่ ซองน์ดาล ทีมในลีกสูงสุดของประเทศนอร์เวย์ จะคว้าตัวไปร่วมทัพ และตอนนี้เจ้าตัวยังคงค้าแข้งในนอร์เวย์ กับ สโมสร บรานน์ เบอร์เก้น
จุดเด่นของเขาคือความเร็ว และความ “ยาว” ของการวิ่งที่กองหลังน้อยคนในไทยลีกจะกวดทัน แม้ตอนที่เจ้าตัวจะเล่นในไทยยังมีอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ตามที อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าตัวจะย้ายไปเล่นในอีกซีกโลกหนึ่ง ก็ยังคงมีคลิปจังหวะสวยๆ ในลีกสูงสุดของประเทศนอร์เวย์ที่เจ้าตัวปล่อยของมาผ่านตาแฟนบอลชาวไทยบ้างให้หายคิดถึง นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยติดทีมชาติกาน่าชุดเยาวชนแทบทุกชุด ไล่ตั้งแต่ ยู-16 ยู-17 ยู 23 และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติกาน่าชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย

3.อิซัค ฮอนนี่ (บีอีซี เทโรศาสน 2013-2016 สมุทรสงคราม เอฟซี 2013(ยืมตัว) แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล 2014-2015(ยืมตัว) อ่างทอง เอฟซี 2017-2018 บีอีซี เทโร เอฟซี 2019-ปัจจุบัน)
ปราการหลังสารพัดประโยชน์ที่ได้ได้หลากหลายตำแหน่งแล้วแต่ที่โค้ชจะบัญชา นอกจากเซ็นเตอร์ตัวกลางแล้ว ทั้งกองหน้าตัวเป้า เพลย์เมคเกอร์หลังกองหน้า หรือมิดฟิลด์ ก็สามารถทำได้แบบไม่เคอะเขิน โดยมีจำนวนประตูที่ทำได้ ทุกๆสโมสรที่ย้ายไปเป็นเครื่องการันตี ปัจจุบันเจ้าตัวเพิ่งจะอายุเพียง 26 ปี และกำลังเป็นกำลังสำคัญให้กับ “มังกรโล่ห์เงิน” อยู่ในปัจจุบัน ด้วยประสบการณ์ข้นขลั่กในฟุวงการฟุตบอลไทย ทำให้เจ้าตัวกลายมาเป็นกองหลังระดับแนวหน้าในประเทศไทย และหากฟ้าฝนเป็นใจ ไม่แน่ว่า ในอนาคตเราอาจจะได้เห็น อิซัค ฮอนนี่ ออกไปค้าแข้งนอกประเทศไทย ก็เป็นได้ สำหรับผลงานในระดับชาติ เจ้าตัวเคยติดทีมชาติกาน่า ชุด ยู 23 3 นัด และหากวืฟอร์มได้ดีจนไปเตะตาทีมยักษ์ในต่างประเทศ โอกาสที่ ฮอนนี่ จะก้าวขึ้นไปติดทำเนียบทีมชาติชุดใหญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความเป็นจริงแต่อย่างใด

4.โดมินิค อดิเยียห์ (นครราชสีมา มาสดา เอฟซี 2015-2018 ศรีสะเกษ เอฟซี 2019 เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2020)
หนึ่งในนักเตะที่มีดีกรีแน่นที่สุดก่อนจะย้ายมาเล่นในไทยลีก นอกจากที่เจ้าตัวจะเคยเป็นเยาวชนของ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลานแล้ว ในฟุตบอลโลก ยู-20 ปี 2009 นอกจากจะพากาน่า คว้าแชมป์โลกแล้ว เจ้าตัวยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ และดาวซัลโวสูงสุด (8 ประตู) กลับบ้าน ซึ่งรางวัลผุ้เล่นยอดเยี่ยมกล่าวอาจจะไม่น่าสนใจนัก หากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวไม่มีนักฟุตบอลอย่าง อันแดร์ เออเรร่า อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,อเล็กซ์ เตเซร่า เพลย์เมคเกอร์ที่บราซิล ที่เคยเกือบย้ายมาลิเวอร์พูล,หรือ ดั๊กลาส คอสตา ปีกจรวด ของยูเวนตุส ร่วมทัวร์นาเมนต์ด้วย แม้หลังจากย้ายไปมิลาน เจ้าตัวจะระหกระเหินไปเล่นทั้งใน เซอร์เบีย ตุรกี ยูเครน และคาซัคสถาน ก่อนจะมาลงเอยกับ “สวาทแคท” ในปี 2015 ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งประเทศ
จุดเด่นของ อดิเยียห์คือเรื่องพละกำลังและความขยัน แล้ว การหาพื้นที่ยังเป้นอีกส่วนหนึ่งที่หลายคนมองข้าม อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวอาจจะผลิตสกอร์ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการวางแผนของทีมฝ่ายตรงข้ามที่ มักจะกาหัวตั้งแต่ก่อนแข่งให้ “จับตาย” ศุนย์หน้าประสบการณ์สูงรายนี้ และถือเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยที่ฤดูกาลที่ผ่านมา อดีตต้นสังกัดอย่าง “กูปรีอันตราย” จะอดเลื่อนชั้นจากการโดนตัดแต้ม แต่ในช่วงต้นฤดูกาลนี้เจ้าตัวยังคงเป็นส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดใหม่อย่างเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ยึดหัวหาดของไทยลีก 2 อยู่อย่างเหนียวแน่น

By : ใบไม้ห้าแฉก
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th