• Home
  • News
  • การเริ่มต้นอันโหดร้าย ของ“ท่าเรือ” แนวรุกเครื่องไม่ฟิต-สตาร์ทติดยาก

การเริ่มต้นอันโหดร้าย ของ“ท่าเรือ” แนวรุกเครื่องไม่ฟิต-สตาร์ทติดยาก

By on January 28, 2020 0 2211 Views

DST.News Report : ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่าคำว่า “เจ็บสุด” สำหรับการออกสตาร์ทฤดูกาลบอลทวีป ของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี

เมื่อต้องตกรอบบอลถ้วยเอเชียตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ ด้วยน้ำมือของ “เซเรส เนกรอส” ทีมหมายเลข 1 จากฟิลิปปินส์ ที่เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ในส่วนของ “โควตาอาเซียน” ของหลายๆทีมในไทยลีก

ที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือพวกเขาโดนน็อคหงายเก๋ง “คาบ้าน” ด้วยสกอร์ 0-1 เสียด้วย

ขณะที่ตัวแทนประเทศอีกหนึ่งทีมอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งตัวแทนประเทศไทย บุกเขี่ยแชมป์เวียดนามอย่าง ฮานอย ซิตี้ ตกรอบด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งที่รูปเกมดูจะอึดอัดกว่าเกมที่แพทสเตเดียมด้วยซ้ำ

แต่ด้วยประสบการณ์เขี้ยวลากดินบนเวทีทวีป เมื่อถึงเวลาชี้ขาด พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดีกรีลุงเน” “ทำได้” แต่บทพิสูจน์นี้ยังอีกยาว เมื่อต้องไปเยือน “เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี” ต้นสังกัดของ “ฮัลค์” แนวรุกบราซิลเลียนหุ่นบึ้ก และ ออสการ์ อดีตเพลย์เมคเกอร์เชลซี ที่เคยมีกองหลังชาวไทยคนหนึ่งบอกว่า “นักฟุตบอลที่ดีทั่วไป เวลารับบอล จะต้องมีสองจังหวะ คือ 1.จังหวะจับบอล 2.จังหวะเล่นบอลต่อเนื่อง แต่ออสการ์สามารถรวบทั้ง 2 จังหวัให้เหลือเพียงจังหวะเดียวได้ นั่นคือข้อแตกต่าง”

กลับมาที่เกมของการท่าเรือ เอฟซี พวกเขามีโอกาสจะแจ้งมากกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด แต่สุดท้ายกลับปิดจ็อบไม่ได้ ซึ่งนักเตะที่โดนคำวิจารณ์มากที่สุดคือ “AK9” อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าป้ายแดงที่เพิ่งย้ายมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่มีโอกาส แต่ทำไม่ได้ จึงต้องถูกลงโทษไปตามระเบียบ ขณะที่บิ๊กเนมอย่าง เฮเบอร์ตี้ ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมทีมยังไม่สามารถปรับสไตล์การเล่นที่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของเจ้าตัวออกมาได้มากพอ

หากยังจำกัดได้ ตอนที่เจ้าตัวย้ายไปเมืองทอง ยูไนเต็ด ช่วงแรก ฟอร์มการเล่นก็ยังไม่วิลิศมาหรา จนโดนเสียงวิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน ถึงขั้นเกิดคำถามว่า แนวรุกคนนี้ เป็น “ของจริง” หรือไม่ เลยด้วยซ้ำ

แต่เมื่อทีมสามารถปรับตัวให้เข้ากับแนวทางของเจ้าตัวได้ จากนั้นเจ้าตัวก็ติดเครื่องยาวๆ จนลุ้นอันดับดาวซัลโว พร้อมสถาปนาตนเองกลาย เป็น “เดอะแบก” ของทีมดังแห่งแจ้งวัฒนะทันที

หากสังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่า เฮเบอร์ตี้ ต้องการเพื่อนร่วมทีมที่สามารถทำชิ่ง 1-2 สวยๆ โดยเฉพาะลูกชิ่งจากกองกลางทีมชาติไทย อย่าง “สารัช อยู่เย็น” สมัยที่อยู่เมืองทองฯ ที่ช่วยให้เจ้าตัวสามารถทะลุเข้าพื้นที่สุดท้ายได้

จุดเด่นของเขา นอกจากการยิงประตู และลูกฟรีคิก แล้ว ความเร็ว และการเลี้ยงบอลก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ประกอบให้เจ้าตัวเป็นแนวรุกที่เข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบ

แต่ด้วยสรีระ ทำให้เจ้าตัวมักจะมีปัญหาเสมอๆ เมื่อเจอกับทีมที่เล่นเกมรับลึก เพราะเขาจะไม่มีพื้นที่ในการลากเลื้อย เพื่อสร้างสรรค์โอกาส หรือเข้าปิดบัญชีด้วยตัวเอง

จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางเพื่อนร่วมทีม “สิงห์เจ้าท่า” จะสามารถจับจังหวะของ เฮเบอร์ตี้ และสร้างความคุ้นเคยได้เมื่อไรเท่านั้น

เพราะในแง่ของคูณภาพ เจ้าตัวคงไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว บนเวทีไทยลีก แต่ถ้ายังไม่สามารถ หาจุดร่วมระหว่างทีมและเจ้าตัวได้ ก็ดูเหมือนว่า ฝันที่จะคว้าแชมป์ไทยลีก ของมาดามแป้ง ก็อาจจะยังเป็นฝันค้างอยู่เช่นนั้น อีกอย่างน้อย 1 ปี

อย่างไรก็ดี แม้ ปฐมบท เปิดเกมของ “การท่าเรือ” ในบอลวัดศักยภาพระดับทวีป จะจบแบบไม่ทันได้เร่ิม

การปรับตัวของพวกเขา ถือว่าทำได้ดี เมื่อพิสูจน์ในเกมอุ่นเครื่อง ที่ต้องเจอกับ เซเรโซ โอซาก้า ในเกม ลีโอ พรี-ซีซั่น คัพ 2020 ที่ซัดทีมเยือน ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมผลิตแข้งสู่ยุโรป อย่างเซเรโซ โอซากา ไปแบบหมดจดด้วยสกอร์ 3-0

การแก้ตัวใน แมตซ์อุ่นเครื่อง แม้ไม่มีผลอะไรนอกจากเพิ่มความมั่นใจเท่านั้น แต่อย่างน้อยแฟนบอลก็ยังได้เห็นสัญญาณดีๆที่เกิดขึ้น ในแนวรุกของทั้งนักเตะใหม่และนักเตะเก่า

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดที่ทุกคนเห็น ก็คือ “เซอร์คิโอ ซัวเรส” ยังคงเป็นหัวใจหลักในแนวรุกของทีมอยู่ดังเดิม

และถ้าในเกมอย่างเป็นทางการ หากจูนกันเร็วตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลในการเปิดบ้านรับ นครราชสีมา มาสดา เอฟซี แล้วละก็…..

บอกเลยว่าอีก 15 ทีมในไทยลีก “ใครคิดว่าแน่ก็ลองดูได้”.

_________

ขอบคุณภาพ การท่าเรือ เอฟซี
By ใบไม้ห้าแฉก

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *