‘น้าฉ่วย’ เปิดสูตร ‘คืนชีพ’ กูปรี กลับสู่โซนเลื่อนชั้น

DST.Special Report : ชัยชนะเหนือในถิ่น “มังกรโล่เงิน” โปลิศ เทโล เอฟซี 1-0 เมื่อค่ำวันอาทิตย์ ทำให้ “กูปรีอันตราย” ศรีสะเกษ เอฟซี กลับเข้าสู่โซนเลื่อนชั้นอีกครั้ง หลังขึ้นมาอยู่อันดับ 3 มี 52 คะแนน

นอกจาก “ศรีสะเกษ” จะมีฝีมือ ต้องบอกว่า ฟ้ามีตา และโชคยังเข้าข้าง เพราะทีมหัวตารางที่เบียดแย่ง “ตั๋วเลื่อนชั้น” กันอยู่ วืด 3 แต้มกันถ้วนหน้า

ไม่ว่าจะเป็นลำปาง เอฟซี เสมอ อาร์มี ยูไนเต็ด 0-0 ระยอง เอฟซี พ่ายให้กับ ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร 3-2 อุดรธานี เอฟซี ปราชัยให้กับ อยุธยา ยูไนเต็ด 2-1 และไทยฮอนด้า ที่แพ้ให้กับเอ็มโอเอฟ ศุลากร 2-1

จาก 12 แต้มที่ถูกตัดออกไป เชื่อว่า หลายคนไม่มีใครคิดว่า ลูกทีมของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม ขงเบ้งสัญชาติไทยจะ “คัมแบ็ก”

หากเป็นคนอื่นคงท้อแท้ และเล่นแบบให้จบๆ ฤดูกาล แต่มันไม่ได้อยู่ในวิสัยทัศน์ของ “น้าฉ่วย” ผู้มีประสบการณ์พาทีมเลื่อนชั้น และหนีตกชั้น รอดมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แล้ว วิสัยทัศน์ของ “ขงเบ้งสัญชาติไทย” จะเป็นอย่างไร เรามีคำสัมภาษณ์มาบอกกัน

#DST. : ดูเหมือนทุกอย่างเป็นใจ ศรีสะเกษชนะโปลิศ เทโร และทีมอื่นๆ พลาดกันหมด

น้าฉ่วย : ใครที่บอกว่าไม่มีเรื่องดวง เรื่องโชค ฟุตบอลวัดกันที่ฝีมือย่างเดียว ผมว่าไม่จริง ผมว่าทีมผม นอกจากฝีมือแล้วยังมีเรื่องโชคชะตาด้วย ดูกันอย่างนัดล่าสุดเราโดนจุดโทษท้ายเกม แต่เราไม่แพ้ และยังชนะ นอกจากนี้ ทีมอื่นๆ ก็สะดุดกันหมด

#DST. : ตอนนี้หลายคนหันมาเชียร์ศรีสะเกษกันเยอะ เพราะถูกตัด 12 แต้ม แต่ยังสู้จนมีลุ้นเลื่อนชั้น มียาดีอะไร

น้าฉ่วย : นักบอลส่วนใหญ่ของเราอยู่ในสภาพที่มุ่งมั่น ตั้งใจ เขาเล่นมาแบบนี้ตลอด ซึ่งหลังจากถูกตัดแต้มไป เราก็ยังชนะและเสมอ แพ้เพียง 2 ครั้ง จริงๆ ก็ยากนะ

#DST. : น้าไปพูดปลุกใจอย่างไร นักเตะถึงสู้กันแบบนี้

น้าฉ่วย : ผมก็บอกกับทุกคนว่าสู้ต่อไป ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่บอลยังไม่จบ ฟอร์มการเล่นเราก็ไม่ได้แย่ ยังอยู่ในมาตรฐาน และฤดูกาลนี้ยังเหลืออีกหลายนัด เอาจริงๆ การถูกตัดแต้มถึงสองครั้งมันก็มีผลต่อสภาพจิตใจเหมือนกัน ก็แย่กันไปพักนึง ผมถึงถามสมาคมฟุตบอลฯว่าสรุปจะตัดกี่แต้มเพื่อให้ชัดเจนว่าเราจะห่างกับโซนเลื่อนชั้นกี่แต้ม เพื่อจะกลับมาทำการบ้านกัน

“เมื่อถูกตัด 12 แต้ม ผมก็มาคำนวณระยะห่างกับทีมอื่นๆ ในหัวตาราง ซึ่งมันยังมีเวลา เรายังเลื่อนชั้นได้ ถ้าเราชนะเรื่อยๆ เรากลับมาได้แน่ เพราะทีมหัวตารางอื่นๆ ก็ลุ่มๆ ดอนๆ เหมือนกัน เขาพลาดขึ้นมาเราก็มีโอกาส“

สู้เหมือนนัดตัดเชือก

“ก่อนหน้านี้เราต้องเจอกับลำปาง อุดรธานี และเทโร ซึ่งเป็นทีมหัวตารางทั้งนั้น ก็บอกลูกทีมว่า มันเหมือนการตัดเชือก เพราะถ้าเราชนะทีมพวกนี้ได้ ก็เหมือนได้สองเด้ง แต่เราจะแพ้หรือเสมอไม่ได้ ต้องชนะอย่างเดียว มองอีกแง่การเจอกันก็ดี เพราะมันจะเป็นการตัดคะแนนกันเอง ถ้าเขาไปเจอทีมอันดับล่างๆ แล้วชนะมันก็ไม่ช่วยอะไร ต่อให้เราชนะก็ตาม แต้มยังห่างเท่าเดิม“

“ฟุตบอลมันต้องมีแป้กบ้าง ของอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลลีก คนอาจจะคิดว่าหัวตารางพลาดยาก แต่ความจริงมันต้องมีพลาดบ้าง อย่าลืมว่าแม้แต่การเจอทีมข้างล่างก็ไม่ง่าย เพราะเขาก็ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ผมโชคดีด้วยที่นักเตะมุ่งมั่น มีเป้าหมาย และที่สำคัญคือ ไม่ค่อยโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน”

#DST.: ถ้าไม่ถูกตัดแต้ม ปานนี้ศรีสะเกษอาจกำลังแย่งแชมป์กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ดอยู่

น้าฉ่วย : ใช่ไง ผมล่ะเสียดาย คือถ้าไม่ถูกตัด 12 แต้มมันจะสนุกกว่านี้ ตอนนี้น่าจะแย่งแชมป์กับบีจีอยู่ ถ้าบีจีแป้กก็อาจจะเป็นช่องให้เรามีโอกาสแซงได้ แต่ตอนนี้หน้าที่เราคือ เลื่อนชั้นให้ได้

#DST.: 4 เกมที่เหลือ หากชนะหมด ศรีสะเกษจะเลื่อนชั้นทันที

น้าฉ่วย : 4 เกมที่เหลือไม่มีเกมไหนง่าย แม้แต่บีจีที่ได้แชมป์แล้วก็ตาม เพราะบีจีเขาก็ดูยังเอาอยู่ ไม่ได้ปล่อย เขาเองก็มีนักเตะดีๆ ตัวผู้เล่นเหนือกว่าเราเยอะ แต่หากเราชนะได้หมดทั้ง 4 เกม เราไม่ต้องรออะไรเลย ไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันคู่ไหน เราได้เลื่อนชั้นแน่นอน รวมถึงจะแซงเทโรได้หรือเปล่า

ตอนท้ายการสนทนา “น้าฉ่วย” เล่าให้ฟังอีกนิดว่า ที่เขาเองไม่ถอดใจ เพราะในอดีตเขาเคยทำได้มาแล้ว สมัยคุม “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี เล่นในลีกพระรอง ตอนนั้นทีมอยู่อันดับ 10

แต่ที่สุดสามารถกระชากยอดทีมแห่งราชธานีเก่าแก่มาได้ จากการคำนวณแต้ม และโอกาส.

____________

เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Sisaket FC

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th