“กว่างโซ้งมหาภัย”…กับโอกาส “ลุ้นแชมป์ไทยลีก”​ ที่ไม่มีบ่อย

DST.News : พลันสิ้นเสียงนกหวีดที่ “สิงห์ สเตเดียม” ด้วยสกอร์ 3-1 ที่เจ้าบ้านเข่นผู้มาเยือน อย่าง “ช้างขาวจ้าวเกาะ” ตราด เอฟซี

เท่ากับว่าโอกาสลุ้นเชมป์ไทยลีกสมัยแรกกลับมาอยู่ในมือ “กว่างโซ้งมหาภัย” อีกครั้ง

ด้วยระยะห่างระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” 2 คะแนน หลังลูกทีมของ โบซิดาร์ บันวิช บุกไปโดน “กิเลนผยอง” เผาเครื่อง แบบสู้กันไม่ได้

ฤดูกาลนี้ “กว่างโซ้งมหาภัย” ไม่ได้เปิดตัวแบบระเบิดเถิดเทิง เช่น “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี พวกเขาเก็บชัยชนะแบบไม่หวือหวา โดยส่วนใหญ่เป็นการชนะคู่แข่งไม่เกิน 2 ลูก

โดยเฉพาะเกมนอกบ้าน ซึ่งก็สามารถเกาะกลุ่มนำของตารางได้อย่างต่อเนื่อง จุดแข็งของพวเขาอยู่ที่เกมนอกบ้าน ที่สามารถเดินหน้าเก็บแต้มสำคัญได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากผลงานในลีกที่ทำได้อย่างโดดเด่นแล้ว การก้าวขึ้นมาของบรรดากองกลางกว่างโซ้ง ทั้ง เอกนิษฐ์ ปัญญา,พิธิวัตร สุขจิตธรรมกุล และ ศิวกร เตียตระกูล นับเป็นของขวัญสำคัญที่จะทำให้พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งในการต่อสู้แย่งแชมป์ ในฤดูกาลต่อไป

ในฤดูกาลนี้ สิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นถือว่ามาถูกทางแล้ว จากจุดเปลี่ยน 2 ครั้งที่เกิดขึ้นไปแล้ว

จุดเปลี่ยนครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาสามารถเปิดบ้านชนะ “ปราสาทสายฟ้า” ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 แต่ในเกมไทยลีก นัดที่ 20 ของฤดูกาล แต่เกมต่อมา ที่พวกเขาต้องเปิดบ้านรับมือ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พวกเขากลับไม่สามารถฉกฉวยความได้เปรียบไว้ได้เมื่อเกมจบลงที่ 1-1 ทำให้ยังคงค้างอยู่ที่อันดับ 2 ของตารางต่อไป

ก่อนจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอีกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โปรแกรมอีก 4 นัดที่เหลือต่อจากนี้ พวกเขาไม่ต้องคิดอะไรมาก หากพวกเขาสามารถฟาด 12 แต้มเต็ม ในเกมที่เหลือ ถ้วยไทยลีกประวัติศาสตร์ จะถูกนำไปตั้งที่สโมสรเป็นสมัยแรกทันที

โดยโปรแกรมที่เหลือนั้น พวกเขาต้องไปเยือน “ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด” ซึ่งเป็นเกมที่ยากที่สุด จากนั้น ต้องบุกไปเยือน “พีทีที ระยอง” ก่อนเปิดบ้านรับมือ “พีที ประจวบ เอฟซี” และปิดท้ายด้วยการบุกบ้าน “สุพรรณบุรี เอฟซี” ทีมเต็งที่จะตกชั้นในฤดูกาลนี้

ขณะที่แชมป์เก่าอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” นั้น ต้องไปบุกไปเยือน “ราชบุรี มิตรผล เอฟซี” ตามด้วยเปิดบ้านรับมือ “ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี” และ “พีที ประจวบ เอฟซี” ตามลำดับ ก่อนปิดท้ายฤดูกาลด้วยการไปเยือน “นครราชสีมา มาสดา เอฟซี”

เมื่อนำชื่อคู่แข่งมาเปรียบเทียบกันแล้ว ดูเหมือนว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเจองานง่ายกว่าทีมเงินถังจากภาคเหนือ แต่ต้องอย่าลืมว่า 3 ใน 4 เกมของพวกเขา ล้วนต้องเจอกับคู่แข่งที่ “หนีตกชั้น” ทั้งสิ้น

แต้มทุกแต้มจากนี้ล้วนมีความหมาย โดยเฉพาะ “ชัยนาท ฮอร์นบิล” จอมเซอร์ไพรส์บิ๊กทีม ที่ยังมีโอกาสอยู่รอดแบบ 50/50 เช่นเดียวกับ “นครราชสีมา มาสดา เอฟซี” ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นมาหลายครั้งแล้วว่า ทีมเหล่านี้มักมี “พลังพิเศษ” ที่พร้อมสร้าง “เซอร์ไพรส์” อยู่เสมอ

โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ยิ่งเกิดกับทีมที่ไม่เคยได้แชมป์ลีกมาก่อนด้วยแล้ว นับเป็นเรื่งอที่น่าสนใจอย่างยิ่งจริงๆว่า พวกเขาจะสามารถพิสูจน์ตัวเองเพื่อยกระดับ จากการเป็นเพียง “ทีมชั้นนำ” ของประเทศ

มาสู่การเป็น “แชมเปียนส์” สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรได้หรือไม่.

_____________

ขอบคุณภาพ สโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
By ใบไม้ห้าแฉก

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th