- Home
- Special Report
- “1,115วันที่รอคอย”ภารกิจปลุกชีพ”จงอางผยอง”
“1,115วันที่รอคอย”ภารกิจปลุกชีพ”จงอางผยอง”
DST.Spacial : ในช่วงกลางปี 2559 เหล่าสาวก“จงอางผยอง”ขอนแก่น ยูไนเต็ด แทบใจสลาย หลังสมาคมฟุตบอลฯมีคำสั่งเสมือนฟ้าฟาดกลางใจ ตัดสิทธิ์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด จากฟุตบอลลีก แต่หลังจากผู้บริหารสโมสรต่อสู้ พยายามยื่นอุธรณ์ต่อสู้ ในที่สุด “จงอางผยอง”สามารถกลับมาฟาดแข้งในบอลลีกได้อีกครั้ง แต่ต้องกลับไปเริ่มต้นที่ลีกล่างสุดของประเทศอย่าง T4
และในวันนี้หลังทั้งผู้บริหาร นักเตะ สตาฟโค้ชและแฟนบอล ร่วมแรงร่วมใจกัน พลพรรค“จงอางผยอง”DailysoccerThailandสามารถเลื้อยกลับมาผงาดในจุดที่ตัวเองเคยอยู่ได้อีกครั้ง DailysoccerThailand ขอนำทุกท่านไปคุยกับ “เสี่ยต้อม”วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสร ผู้นำทัพ”จงอาง”กลับมาผยองในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
“เสี่ยต้อม” เปิดเผยว่า ในที่สุดทีมก็กลับมาที่เดิม ถามว่าดีใจไหม ก็ดีใจ เพราะทุกคนพยายามทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ทีมกลับสู่ที่เดิมให้ได้อีกครั้ง โดยเฉพาะแฟนบอล ที่ถึงแม้ทีมเราจะตกลงไปเล่นในลีกต่ำสุด แต่แฟนบอลไม่เคยที่จะทอดทิ้งพวกเรา ยังคอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจพวกเราอยู่เสมอ
“ขอนแก่น ยูไนเต็ด โชคดีมากที่แฟนบอลสนับสนุนสูง ต้องยอมรับที่เราโชคดีที่เกิดเป็นคนขอนแก่น ทุกคนน่ารัก และให้การสนับสนุนดีมาก ส่วนหนึ่งแฟนบอลน่าจะเห็นความทุ่มเท่ ทำเพื่อทีม และทำเพื่อจังหวัดจริงๆ ขนาดนัดสุดท้ายของฤดูกาล ในการเปิดบ้านพบ อยุธยา เอฟซี ฝนตกหนักแต่แฟนบอลยังไม่ทิ้งไปไหน แฟนบอลประมาณ 5 พันกว่าคน ยืนกันจนแน่น บัตรไม่พอขายเลย”
“เราพยายามรวมกลุ่มกองเชียร์ให้เป็นกลุ่มเดียวให้เป็นกลุ่มใหญ่ เวลาร้องเพลงเชียร์จะได้กระหึ่ม ซึ่งเป็นการทั้งให้กำลังใจ และข่มกองเชียร์คู่แข่งไปในตัว โดยที่ผ่านมาแฟนบอลของเราเยอะทั้งในและนอกบ้าน บางเกมเราไปเยือน มีแฟนบอลพลัดถิ่น เยอะกว่าเจ้าบ้านอีก”
บิ๊กบอส”จงอาง” ยังกล่าวอีกว่า การพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้คือการเลื่อนชั้นปีต่อปี ซึ่งด้วยศักยภาพของทีมรวมทั้งขุมกำลัง ถือว่าเราดีกว่าคู่แข่งในลีกทั้ง T3 และ T4 แต่การขึ้นมาเล่นใน T2 ถือว่าเป็นงานที่ยาก เพราะ T2 มีความเข้มข้นมากกว่า T3 T4 แน่นอน
“ตอนนี้พอขึ้น T2 มันเดินทางไกลขึ้น เป็นความท้าทาย จากเดิมเราเคยแข่ง 14 ทีม แต่ปีหน้าเป็น 18 ทีม ท้าทายแน่นอน เรามี 10 นัดที่เพิ่มขึ้น คงต้องไปวางแผนกันดีๆ ตอนนี้การเตรียมความพร้อม เรามีการประชุมผู้บริหาร เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือ จะดูว่าจะเอาใครมาเสริมทีม เพื่อยกระดับทีมให้สู้กับทีมในลีกได้ T2 มีทีมเยอะที่สุดในลีก แต่เงินสนับสนุนไม่เยอะถ้าเทียบกับไทยลีก เดินทางเยอะกว่า แต่งบสนับสนุนน้อยกว่า ถือว่าเหนือยเหมือนกันสำหรับทีมงบน้อย”
“ขณะนี้ยังพูดไม่ได้ว่าใครจะอยู่ต่อบ้าง แต่อยากให้ทุกๆคนอยู่ด้วยกัน เชื่อว่านักเตะตอนนี้จะตอบโจทย์ T2ได้ เพราะเราคิดว่าคนที่เสริมเข้ามาช่วงเลคสองจะเป็นกำลังหลักในทีสองได้ แต่ยังไงก็คงไม่พอ ยังต้องมีการเสริมทีมอีก ในทีมเรามีอดีตทีมชาติ หลายคน ด้วยฝีมือการันตีอยู่แล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าจะได้ลงเล่นตอลด เราต้องการความกระหาย ลงไปแล้วทำเต็มที่ หากไม่เต็มที่ ก็จะเป็นโอกาสของคนอื่น”
ประธานขอนแก่น ยังกล่าวว่า ทีมของเรามีระบบพัฒนาเยาวชนด้วย เพื่อเป็นรากฐานให้กับทีม ปีนี้เรามีโรงเรียนเข้ามาร่วมกับเราอีก 2 โรงเรียน และเราได้เซ็นสัญญากับเด็กไปแล้ว 6 คนที่ขึ้นชุดใหญ่ และมี 2 คนได้เล่นตัวจริง เราได้ให้โอกาสเด็กลงไปเล่น ด้วยประสบการณ์อาจจะยังสู้รุ่นพี่ไม่ได้ แต่ถ้าไม่ให้โอกาสเด็กแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าดีหรือไม่ได้ หลายคนเป็นเพชรที่เรากำลังเจียรไน ถ้าดีก็จะเป็นขุมกำลังให้กับทีมชาติในอนาคตด้วย
“แม้ปีหน้าเราจะขึ้น T 2 แต่เรายังไม่ทิ้งโอกาสเด็กๆ บางคนอาจจะเก็บไว้ บางคนอาจจะส่งยืมไปทีมอื่น ส่วนเรื่องสนามของตัวเอง เรามีแพลนอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือไม่ใช่ราคาถูกๆ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าทิศทางบอลไทยจะเป็นยังไงในอนาคต จะบูมไหม หรือจะซบเซา ในสภาวะแบบนี้หากเอาเงินมาลงทุนทำสนามอีกมีความเสี่ยงสูง ก็คงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
ต้องคอยจับตาดูว่า “จงอาง”ตัวนี้ยังกลับมาผยองในลีกบนของประเทศได้หรือไม่ แต่ด้วยศัยกภาพของทีมและความจริงจังของผู้บริหาร ไม่แน่ว่าเราอาจจะเห็นพวกเขาไปชูคออยู่ในลีกสูงสุดในเร็วๆนี้ก็เป็นได้
ขอบคุณ สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด
By : Grimmjow