“แข้งฟิลิปปินส์” กับ โควตาอาเซียน ความตั้งใจ!! ที่ให้ผลผิดคาด
DST.News Report : นับแต่มีโควตาอาเซียนเปิดมาตั้งแต่ปี 2018 จากหลายๆปัจจัยที่เอื้อให้กับลีกสูงสุดของประเทศไทย ทั้ง เรื่องความนิยมในภูมิภาคที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงคุณภาพลีกที่เราดูเหลื่อมกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่นิดๆ และที่สำคัญคือการดึงดูดแฟนบอลจากประเทศในอาเซียนให้หันมาสนใจไทยลีกมากขึ้น
โดยเฉพาะประเทศที่มีฐานแฟนบอล มหาศาล อย่าง อินโดนิเซีย หรือเวียดนาม
แต่พอ 2 ปีผ่านไป ปรากฎว่าโควตาส่วนใหญ่ ตกเป็นของนักเตะที่มาจากประเทศที่กีฬา บาสเกตบอล เป็นกีฬาได้รับความนิยมสูงสุด อย่าง ฟิลิปปิส์ ซะอย่างนั้น
คู่รัก-คู่แค้น อย่างเวียดนาม กลับส่งสตาร์มา “ลองของ” กับ “นรกไทยลีก” เพียง 1 คน นั่นคือ “เลือง ซวน ตรวง” ที่ต้องหอบผ้าผ่อนกลับไปบ้านในเวลาเพียงแค่ครึ่งฤดูกาล กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ด้านอ่อง ธู กับ ซอว์ มิน ตุน ยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาลนี้ต่อไปกับต้นสังกัด ส่วน สิ ธู อ่อง ที่เรียกฟอร์มเก่งไม่ได้ถูกส่งกลับเมียนมาร์ ไปเรียบร้อย
สุขพร วงศ์เชียงคำ หรือ “เมสซี่ลาว” ทำผลงานได้ดีกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี แต่ไม่ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน ยังคงเป็นเรื่อง “ยากมาก” ถึง “มากที่สุด” ที่ทีมระดับไทยลีกจะเปิดตลาด ผู้เล่นจากลาวเพิ่ม
เพราะคุณภาพของวงการฟุตบอลลาวนั้น ยังห่าง กับประเทศไทยขุม
ขณะที่อิโดนิเซีย อดีตคู่ปรับเก่าของเรา ส่ง “ยานโต บาสนา” เข้ามาประกวดอย่างเด่นชัดที่สุดเพียงแค่คนเดียว
ซึ่งเจ้าตัวกำลังสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ตกชั้น
ขณะที่วงการฟุตบอลของบ้านเขากำลังเสื่อมถอยอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัยที่รุมเร้าและคงจะใช้เวลาอีกนานกว่า จะกลับมายืนในแถวหน้าอาเซียนอีกครั้ง
ขณะที่ไทยลีก มีแข้งตากล็อคถึง 17 คน ประกอบด้วย
แบงค็อก ยูไนเต็ด : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด
เมืองทอง ยูไนเต็ด : ไดซูเกะ ซาโตะ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : เควิน อินเกรโซ่, สตีเฟ่น พัลลา
ชัยนาท ฮอร์นบิล : อดัม รีด มาร์โก คาาเซมเบร
ชลบุรี เอฟซี : เคิร์ท ดิซอน, อังเคล กีราโด้
นครราชสีมา มาสด้า : มาร์ค ฮาร์ทมันส์
การท่าเรือ เอฟซี : มาร์ติน สตูเป้
ราชบุรี มิตรผล :อามิน นาซารี, ฮาเบียร์ ปาตินโญ่, มานูเอล อ็อตต์
สุโขทัย เอฟซี : เอียน แรมซี่ย์, โจชัว โกรมเมน
สุพรรณบุรี เอฟซี : แพทริค เดย์โต, อัลวาโร่ ซิลวา
ตามรายชื่อเหล่านี้ กว่า 70% ล้วนเป็นนักเตะลูกครึ่งยุโรป และส่วนใหญ่มีประสบการณ์เล่นในยุโรปมาแล้วทั้งนั้น แม้จะไม่สามารถทะลุปล้อง ขึ้นชุดใหญ่ได้
แต่ด้วยมาตรฐานฝีเท้านั้นยังคงสามารถมาหากินในอาเซียนได้สบาย เช่นเดียวกับข้อได้เปรียบเรื่องสรีระ
นอกจากนี้การที่พวกเขาย้ายมาค้าแข้งในลีกที่มีความเข้มข้นที่สุดลีกหนึ่งในอาเซียนอย่างไทยลีก ทีมชาติของพวกเขาย่อมได้ประโยชน์ จากความเป็นมืออาชีพ และสารพัดบททดสอบที่ต้องเจอในประเทศไทย จะช่วยให้เสริมเขี้ยวเล็บให้ทีมชาติพวกเขาแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการที่กีฬาฟุตบอลไม่ใช่กีฬาหมายเลข 1 ของประเทศ ส่งผลให้ลีกฟุตบอลของประเทศมีปัญหา ยุบๆ ตั้งกันอย่างต่อเนื่อง พวกเขามีทีมในลีกสูงสุดเพียงแค่ 7 ทีม
ซึ่งบรรดานักเตะมากมายที่ย้ายมาร่วมไทยลีกในเลก 2 ที่ผ่านมานั้น เกินครึ่งมาจากสโมสรเบอร์ 1 ของประเทศ อย่าง “เซเรส เนกรอส” ทีมที่ปรากฎเป็นข่าวว่าเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของอาเซียนเหนือ “ปราสาสายฟ้า” จากการจัดอันดับของ เอเอฟซี แต่หากมองถึงรายละเอียดแล้ว ทั้งมาตรฐาน ผลงาน ค่าเหนื่อย นั้นก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับ เบอร์ 1 ของไทยลีกปัจจุบันอยู่ดี ไม่อย่างนั้นบรรดาแข้งปินส์คงไม่แห่มาขุดทองกันในแดนสยามกันยุ่บยับไปหมดหรอก
เรื่องผลงานคงจะสรุปได้กันตอนท้ายฤดูกาล แต่ดูเหมือนว่าเรื่องโควตาอาเซียนที่เปิดมาจะสามารถสรุปได้ในเบื้องต้นแล้วว่า
ออกมาไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่คิดกันไว้ตั้งแต่ต้นเท่าไรนัก
เพราะการที่ได้สารพัดนักเตะฟิลลิปินส์มาจะไม่ได้เพิ่มฐานแฟนบอลในอาเซีนได้ตามที่หวัง ดูเหมือนว่าผลประโยชน์เหล่านี้จะตกอยู่กับเพียงต้นสังกัดที่เป็นทีมในไทยลีกเท่านั้น และหากอยากจะให้สุดซอยไปเลย ต้องแช่งให้ผลงานแข้งปินส์เหล่านี้ไม่ดีในลีก แต่โชว์ฟอร์มสุดฉิวแซงหน้า “ช้างศึก” ในส่วนของทีมชาติไปเลยจ้า
By ใบไม้ห้าแฉก
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th