- Home
- Special Report
- เจ้าชายมังกร และภารกิจ “ล้างอาถรรพ์” บ๊วยเลกแรกตกชั้น
เจ้าชายมังกร และภารกิจ “ล้างอาถรรพ์” บ๊วยเลกแรกตกชั้น
DST.Special Report : หากจะเปรียบ “เจ้าบอล” ชุติพนธ์ ทองแท้ แข้งซ้ายชั่งทอง เป็น “เจ้าชายมังกร” แฟนบอลราชบุรี คงไม่มีใครคัคค้าน หรือเห็นต่างเท่าใดนัก
“ชุติพนธ์” คือ นักเตะที่อยู่ร่วมกับโมงยามแห่งความเปลี่ยนแปลงมากมายภายในสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี ยักษ์ใหญ่แห่งไทยลีก 1
แม้ไม่ใช่เด็กฝึก แม้ไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไขคนเมืองโอ่ง แต่ “ชุติพนธ์” เติบโตขนาบข้างมากับพัฒนาการของสโมสรแห่งนี้
เด็กหนุ่มผู้ถือกำเนิดใน จ.สมุทรปราการ เคียงบ่าเคียงไหล่กับ “ราชันมังกร” มาตั้งแต่ประจัญบานอยู่ใน “ลีกพระรอง” กระทั่งทะยานขึ้นสู่ลีกสูงสุด
นักเตะขาสั้นจากโรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน ค้าแข้งในถิ่นคนงามตั้งแต่ยังใช้สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี ที่อัฒจรรย์ฉาบไปด้วยสีส้ม เป็น “รังเหย้า”
“เจ้าบอล” กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในปีแรกบนสังเวียนไทยลีก เต็มไปด้วยความยากลำบาก สำหรับน้องใหม่ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
กระทั่งปัจจุบัน “ราชันย์มังกร” กลายเป็นบิ๊กเนมของไทยลีก ประคองตัวได้ โดยไม่ต้องกระเสือกกระสนหนีตกชั้น เหมือนกับแรกขึ้น
จาก “ดาวรุ่ง” สด ใหม่ ปฏิทินเปลี่ยนไป 7 อัน “ชุติพนธ์” ไม่ใช่เพียงแค่นักเตะตัวหลัก หากแต่ขยับสู่การเป็น “กัปตัน” ของทีม
2-3 ปีก่อน “ชุติพนธ์” คือ มิดฟิลด์ที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ขาดไม่ได้ วันใดในสนามไร้รูปร่างของแข้งเท้าซ้าย มิติในแนวรุกดูจืดชืด ไร้ความหลากหลาย
การเข้าไปมีชื่ออยู่ในทีมชาติไทย เมื่อครั้ง “มิโลวาน ราเยวัช” ขงเบ้งสัญชาติเซอร์เบีย กุมบังเหียน คือ เอกสารอ้างอิงว่า เขาดีพอ
ลูกบอลที่ถูกบรรจงออกจากเท้าซ้าย “ชุติพนธ์” เพื่อไปสู่พื้นที่สังหารของกองหน้า ทำได้เนียนตา เฉียบคม และแม่นยำ ทุกครั้งที่ได้ชมเกมของราชบุรี
อย่างน้อยในวันที่รูปเกมของราชบุรีทำได้ไม่ดีนัก “คิลลิ่งพาส” จาก “เจ้าบอล” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนได้อยู่บ่อยๆ
หากแต่เพียงว่า ความไม่แน่นอนคือ!!
สัจธรรมของโลกนี้ จากขุนพลผู้ที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ต้องมีเมื่อปีก่อน มาในปีนี้หลังจบเลกแรก อดีตแข้งชุดแชมป์ซีเกมส์เมื่อปี 2556 กลับได้ลงเล่นไปเพียง 5 นัด
ตำแหน่งของเขา ถูกสั่นคลอนจากการเข้ามาเด็กหนุ่มนาม “กฤษณนน ศรีสุวรรณ” ที่ถูกเสริมเข้ามาในช่วงพรีซีซั่น และทำผลงานได้อย่างแจ่มจรัส
ไม่มีใครคิดว่า พ่อค้าแข้งในวัย 28 ปี ที่รับใช้ทีมมาจนกลายเป็นตำนาน จะตัดสินใจแยกทางกับ “ราชันมังกร” หลังจากผ่านไปเพียงครึ่งทางของฤดูกาลนี้
ที่สำคัญ ทีมใหม่ของ “ชุติพนธ์” อย่าง “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี อันดับสุดท้ายของตารางในเพลานี้ ที่กำลังพาตัวเองหนีปากเหว
คงไม่ใช่เพียงเม็ดเงินที่จะทำให้ “ชุติพนธ์” ขายวิญญาณมังกร เพื่อไปสวมวิญญาณ “คชสาร” ที่กำลังโรยริน หากแต่คือ โอกาสในการลงเล่นมากขึ้น
เชื่อเถอะว่า ลึกๆ “ชุติพันธ์” เองก็ไม่อยากล่ำลาสโมสรที่สร้างเขาขึ้นมาในโลกฟุตบอล
จากวันที่ต้องกระสานซ่านเซ็นออกจาก บุรีรัมย์ฯเก็บข้าวเก็บของกันจากอีสานใต้ จนมาค้าแข้งลงเอยที่ดินแดนคนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง ร่วมกับ ดั๊กลาส การ์โดโซ่, อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ และวันเดอร์ หลุยส์ จูเนียร์ วันนี้มันยาวจนมีแต่ความผูกพัน
หากแต่ “การลงเล่น” คือ หมุดหมาย การย้ายทีมก็เป็นทางเลือกในวิถีฟุตบอล
ด้วยศักยภาพของ “ชุติพนธ์” การจะมีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงของสุพรรณบุรี เอฟซี ในเลกสอง จึงไม่มีข้อกังขาใดๆ
เขาเคยพาราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในวันที่ขายังไม่แข็ง ผ่านพ้นการตกชั้นมาได้ ประสบการณ์มันจึงเป็นประโยชน์ต่อทีมดังแห่งเมืองขุนแผน
เหลือแค่รอดูว่า “เจ้าบอล” จะช่วยล้างอาถรรพ์ ทีมอันดับสุดท้ายของตารางในเลกแรก มีอันจะต้องตกชั้นตลอดเกือบ 10 ปีนี้มาได้หรือไม่
ใครจะไปรู้ เขาและเพื่อนร่วมทีมใหม่ อาจจะทำมันสำเร็จก็ได้.
เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Ratchaburi Mitr Phol FC, Suphanburi FC