• Home
  • Special Report
  • เปิดชีวิต “เฟริ์ส-จักรพงศ์” แข้งยอดกตัญญู สู้จาก “เด็กเก็บบอล” สู่ฝัน “ลีกอาชีพ-ทีมชาติ”

เปิดชีวิต “เฟริ์ส-จักรพงศ์” แข้งยอดกตัญญู สู้จาก “เด็กเก็บบอล” สู่ฝัน “ลีกอาชีพ-ทีมชาติ”

By on June 26, 2019 0 2398 Views

Dst.Exclusive Special : เป็นกระแสดังทางโซเชียลมีเดีย ชั่วข้ามคืน กับ เด็กที่ติดถูกแฮชแท็ก ว่า “แข้งกตัญญู” ประมูลเสื้อแข่งเพื่อ หาเงินหลักร้อย พาแม่ ที่ป่วยหนักไปโรงพยาบาล

กับ “เจ้าเฟริ์ส – จักรพงศ์ รอดสิน” แข้งเยาวชนที่สังกัดทีมบอลภูมิภาค  ล่าสุดน้ำใจหลั่งใหล มีผู้ใหญ่ใจบุญ ช่วยเหลือ ทั้งตัวเงิน และ รับอุปการะช่วยเหลือ พาแม่รับการรักษา ที่โรงพยาบาลตามอาการป่วย

กับ ชีวิตต้องสู้ของ “เจ้าเฟริ์ส” ว่ากันตามจริงไม่ใช่ เพิ่งลุกขึ้นสู้ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งชีวิตของเขาและครอบครัว สู้ด้วยใจไม่ยอมแพ้มาตลอด 

“ตั้งแต่เด็กที่พอเริ่มทำงานได้ ผมช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน แม้จะยังหารายได้ไม่ได้มากนัก แต่ผมพร้อมทำทุกอย่าง กับรายได้ที่ผมได้มาครั้งแรก คือ รับจ้างเก็บบอลที่สนามบอล ช่วงที่เขาแข่งขันกีฬา อบต. แถวบ้าน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย แม้จะได้แค่ครั้งละ  50 -100 บาท แล้วแต่ผู้ใหญ่จะใหญ่ สำหรับผมตอนอยู่ ป.1  นี่เรียกว่ามากพอดู และผมก็พอใจ”

กับ “เด็กเก็บบอล” รายได้ครั้งละไม่เกินร้อยบาท ถือเป็นจุดที่มอบและสร้างโอกาสให้ “เจ้าเฟริ์ส” ในเส้นทางนักฟุตบอล แม้จะเป็น มือสมัครเล่น แต่คือการได้ซีมซับบรรยากาศสิ่งที่เขารัก และเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ หนูน้อย กล้าฝันไกล และตั้งใจไปให้ถึง

แน่นอนว่า “เจ้าเฟริ์ส” กับก้าวแรกของวงการสนามหญ้า ไม่ได้สวยหรู เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างลำบาก แต่โอกาสที่ได้สัมผัสลูกฟุตบอล และเกมแข่งขัน แม้จะเป็นบอลระดับ อบต.  ทำให้เขากระหายที่อยากมีโอกาสได้ลงเล่นในลีก และเกมแข่งขัน

“ผมชอบฟุตบอลมากครับ ตอนเล็กเห็นรุ่นพี่ เห็นอาจารย์เตะบอลหลังเลิกเรียน ผมขอเข้าไปเล่นด้วยทุกครั้ง แม้ไม่มีรองเท้าใส่เหมือนเขา และพอโรงเรียนหรือทีมรุ่นใหญ่ไปแข่ง รุ่นพี่พาผมไปด้วย ฐานะเด็กเก็บบอล ไปหิ้วน้ำ และลงเป็นคู่วอร์ม จนโตอยู่ ป.5 ผมขอเงินแม่ 400 บาทเพื่อไปซื้อรองเท้าสตั๊ดใส่ จากนั้นไปเล่น ไปซ้อมกับรุ่นพี่ทุกเย็น ปั่นจักรยานคู่ใจไป จนแม่ต้องถือไม้เรียวมาตาม ไล่เข้าบ้านทุกที เพราะมองว่ามืดค่ำแล้ว”

ตอนนั้น “เจ้าเฟริ์ส”​  ไม่กล้าบอกแม่ ถึงความฝันที่เขามี และความตั้งใจจะใช้ “ฟุตบอล” เป็นอาชีพเพื่อพยุงฐานะของครอบครัวให้อยู่สุขสบาย จนวันหนึ่งที่รู้ว่า “อะคาเดมี่ สุโขทัย เอฟซี”​ เปิดคัดนักเตะเยาวชน เขาจึงกล้าบอกแม่ถึงความฝันของเขา ก่อนจะขอพรจากแม่ เพื่อเดินทางไกลบ้าน กว่า 30 กิโลเมตร ด้วยรถจักรยานยนต์ ไปคัดตัว ที่สนามวิทยาลัยพละ จ.สุโขทัย เมื่อเขาอายุเพียง 15 ปี

กับก้าวแรกที่เขาลอง ไล่ล่าความฝัน และ “อะคาเดมี่ สุโขทัย เอฟซี”​ คือสถานที่ให้โอกาส กองหน้าโนเนม จาก อ.กงไกรลาศ ได้เรียนรู้ความเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่มีระเบียบวินัย และฝึกฝนตามแบบฉบับนักเตะมืออาชีพ แม้จะเป็นนักเตะรุ่นจูเนียร์ ก็ตาม

กับจุดเปลี่ยนของ “เจ้าเฟริ์ส”  และแรงผลักทำให้เขาไล่ล่าหาฝันแบบไม่ยอมแพ้  คือ การได้เห็น ทีมรุ่นพี่ “สุโขท้ย เอฟซี” ที่ยุคนั้น “กัปตันเจ๋ง – ยุทธพงษ์ ศรีละคร”​ ยังเป็นพี่ใหญ่ ที่ดูแลน้องๆ ในทีม ซึ่ง เจ้าตัวน้อย ในวัย 15 ปี ฐานะรองกัปตันและไล่ระดับเป็นกัปตันของทีมจูเนียร์ เข้าไปขอคำปรึกษา เรื่องของความเป็นภาวะผู้นำ 

คำสอนที่ “เจ้าเฟริ์ส”​ได้มา คือ การใช้หัวใจสู้แบบไม่ยอมแพ้ และนี่คือ ความหมายของความเป็นผู้นำ

ในปีแรกของลีกเยาวชน เขาคือ กองหน้าที่จัดว่าฟอร์มยอดเยี่ยม เพราะคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโว ของภาคเหนือ ในบอลรุ่นเล็กมาครอง

แต่ด้วยโชคชะตาที่เป็นบทพิสูจน์บนเส้นทางฟุตบอล ว่าเขาจะแข็งแกร่งและควรคู่หรือไม่ ก่อนจะได้รับโอกาสที่ใหญ่กว่า เขาเจอจุดพลิกผัน​ย้ายสังกัด ย้ายไปเล่นให้กับ “ทีมอุตรดิตถ์” ซึ่งต้องเดินทางห่างบ้าน ไปกิน-นอนที่จ.อุตรดิตถ์

ซึ่งในใจยังคิดถึงบ้าน และ คิดถึงครอบครัว โดยก่อนไปนั้นเขาเคยให้สัญญากับแม่ว่า “จะไม่ทำให้ครอบครัวต้องลำบาก”

“ผมอยากมีเงินเดือนจากการเล่นฟุตบอล เพื่อเป็นรายได้ให้กับครอบครัว แม้ตอนนี้ยังทำไม่ได้ แต่ผมจะไม่หยุดพยายามแค่นี้ เพราะผมเคยสัญญากับแม่ กับพ่อไว้แล้วว่า ผมจะไม่ทำให้พวกท่านลำบาก ครอบครัวผมเคยลำบากกันมากที่สุดมาแล้ว ขนาดไม่มีเงินซื้อกับข้าว ต้องกินข้าวกับไข่ต้ม กินกับเกลือ กับน้ำปลา ก็เคยมี แต่พ่อของผมบอกให้ผมอดทน และสู้ไปไม่ต้องถอย”

เส้นทางของลีกอาชีพ ของ “จักรพงศ์” แม้ตอนนี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก แต่เขามีเกมฟุตบอลระดับกึ่งอาชีพให้เล่น ผ่านการเป็นตัวแทนของ “ทีมศรีนคร ทาวน์”  ที่เตรียมทีมไปเล่นในรายการฟุตบอลไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (TA) 2019 ที่มี “จ่าเหน่ง” ชัยวัช พึ่งศิริ อดีตกัปตันทีมอุตรดิตถ์ เอฟซี เป็นผู้ปลุกปั้น  ระหว่างที่ทีมเยาวชนชุดเล็กของ “อุตรดิตถ์” พักเกมแข่งขัน พ่วงกับเกมเตะบอลเดินสายในถิ่นบ้านเกิด

ในเป้าหมายของฟุตบอล เจ้าเฟริ์ส ฝันไกล อยากเป็นตัวจริงของนักบอลอาชีพ และติดทีมชาติ 

“ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของผมจะเป็นจริงในกี่ปี แต่ผมพร้อมทำให้สุดความสามารถ​ ผมสัญญาจะตอบแทนน้ำใจของผู้ใหญ่ใจบุญที่มอบให้ครอบครัวของผม และทำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ให้เป็นจริง ผมขอขอบคุณทุกๆ น้ำใจที่มอบให้ผมกับครอบครัว ผมสัญญากับทุกแรงเชียร์ ผมจะทำความฝันผมให้เป็นความสุขของทุกคนที่ส่งแรงเชียร์”

DST. ถามคำถามหนึ่งว่า “เหนื่อยไหม กับชีวิตที่เด็กอายุยังไม่พ้นวัยเบญจเพศต้องมาเจอ

“ผมเหนื่อยครับ  แต่ผมจะสู้เพื่อฝันฟ่ามันให้ได้ อย่างที่ผมเคยให้สัญญาไว้กับทุกคน รวมถึงคนในครอบครัวของผม ใจเล็กๆ ที่ผมมี แค่ผมไม่ยอมแพ้ ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่า สู้ได้ทุกกับความลำบาก ความเหนื่อย ความยากที่ผ่านเข้ามา ตอนนี้ผมคิดคือ พาแม่ไปรักษาตัว ไม่อยากให้ท่านเจ็บ หรือเป็นอะไรที่หนักไปกว่านี้ กับเงินที่ผู้บริจาคมอบให้ ส่วนหนึ่งคือรักษาแม่ ใช้หนี้ให้แม่ที่ติดอยู่เป็นหลักล้านบาท เพราะกู้ยืมมาทำไร่ นอกจากนั้นคือ เป็นทุนการศึกษาและเลี้ยงครอบครัว” 

จากนี้ไป เขาสัญญา ว่าจะมุ่งไปสู่เป้าหมาย เพื่อความสุขของทุกๆ คน

กับเด็กหนุ่มที่ชื่อ “จักรพงศ์ รอดสิน” เมื่อหัวใจไม่เคยยอมแพ้ ยังไงก็ไหว. 

By BlackSugar

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *