• Home
  • Exclusive
  • จาก “นักเตะ” ไร้ต้นทุน สู่ “ดาวซัลโว”​ T4 “เดอะเบส – ธนพล ศรีทอง”

จาก “นักเตะ” ไร้ต้นทุน สู่ “ดาวซัลโว”​ T4 “เดอะเบส – ธนพล ศรีทอง”

By on July 1, 2019 0 1347 Views

DST.Exclusive : ชื่อของ “ธนพล ศรีทอง” กองหน้า ขอนแก่นมอดินแดง​ในรายการออมสินลีก 2019 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนจาก ลีกอเมเจอร์ ถูกจารึกไว้อีกครั้ง 

ว่าคนนี้ คือ “ดาวซัลโวคนไทย” ประจำลีกล่าง ของทุกโซน หลังผ่านเกมแรกเลก ซัดไปทั้งหมด 14 ตุง

กับ “ธนพล” หากจะยกให้เป็น “เดอะเบส” ก็คงไม่ผิด เพราะด้วยชื่อเล่นที่ว่า “เบส” เขาพร้อมที่จะทำทุกนาทีของโอกาสให้ดีที่สุด

หากย้อนประวัติ “เดอะเบส” แน่นอนว่าย่อมเป็นที่รู้จัก เพราะเขาเคยผ่านงานมากับ ทีมใหญ่โซนอีสาน อย่าง “ขอนแก่น เอฟซี” มาแล้ว และเคยได้ชื่อว่าเป็น “ดาวซัลโว” มาแล้วเช่นกัน

กับความพลิกผัน จากทีมใหญ่ มาสู่ทีมเล็ก ที่ไม่ถูกจับตามากนัก อย่าง “กระรอกสายฟ้า” ขอนแก่นมอดินแดง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ตัวผู้เล่นที่เป็น “เด็กมหาวิทยาลัยขอนแก่น”​ เป็นหลัก
แต่ไม่ว่าทีมเล็ก หรือ ใหญ่ เมื่อสนามของโอกาสอ้าแขน เขาพร้อมจัดเต็ม ใส่ไม่ยั้ง ด้วยความหวังหนึ่งเดียว ของตำแหน่งกองหน้า คือ “ล่าประตู” 

กับจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายนี้ “ธนพล”  บอกว่า เพราะความชอบล้วนๆ 

“ผมเรียนที่ขอนแก่น ในสถาบันที่เน้นแต่การเรียนเป็นหลัก เล่นเป็นรอง แต่ผมชอบฟุตบอลมาก ต้องหาทางเล่นให้ได้ แม้จะเป็นแค่การเล่นฐานะตัวแทนนักเรียนของโรงเรียน เกมแรกที่ได้ลงจำได้ว่า แพ้ไป 11 : 0 แต่ผลที่แพ้เยอะ ไม่ทำให้ผมท้อนะ ยังหาทางพัฒนาตัวเองต่อไป ผมเคยการพาตัวเองไปคัดเลือกฟุตบอลรายการเยาวชนของจังหวัด ซึ่งผมไปลองตั้ง 3 หนๆ ละ ปี ไม่ติดเลยสักครั้ง แต่ไม่ท้อนะครับ เพราะถือเป็นประสบการณ์ จนความพยายามสำเร็จ ตอนอยู่ ม.6 ที่ติดทีมเยาวชนของจังหวัด ไปเล่น ตอนนั้นคิดอย่างเดียว คือ เล่นให้มีความสุข ไม่ได้หวังหรือคิดว่าต้องติดทีมชาติ หรือ เล่นลีกอาชีพ” 

 แม้ไม่ได้หวังไกล แต่เมื่อโอกาสมี “ขอนแก่น เอฟซี” เปิดคัดนักเตะเพื่อเสริมทัพ ช่วงที่ยังอยู่ดิวิชั่น2 “เจ้าเบส” พาตัวเองลงสนามอีกครั้ง แม้จะเป็นแค่ พิสูจน์ฝีเท้า ว่าเข้าขั้นหรือไม่ก็ตาม

เขาใช้ความพยายามอยู่ 3 ปีถึงมีชื่อร่วมทัพ 

“ผมติดขอนแก่น เอฟซี ตอนอายุ 21 ปี ที่ต้องใช้เวลาเพราะผมคือนักเตะโนเนม ไร้โปรไฟล์ระดับอาชีพมาก่อน พกใจไปคัดล้วนๆ สู้กับทุกคน จนเขาจ้างผม (หัวเราะ)  แม้ในปีแรกของทีมอาชีพ จะยังไม่ได้รับโอกาสพิสูจน์ในลีกอาชีพ แต่ผมได้รับโอกาสลงเล่นบอลถ้วย เกมแรกของผมทำประตูได้ แม้จะถูกส่งลงไปเป็นนักเตะสำรองก็ตาม”

เมื่อมี โชคดี ยังมี โชคร้ายที่ไม่เข้าข้าง แฝงมา เพราะแม้เขาจะได้พิสูจน์ตัว คนในทีมเริ่มยอมรับในความสามารถ อุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิด ก็พลันเกิดขึ้น ในจังหวะปะทะจนกระดูเท้าแตก ต้องพักยาว 1 ปี และด้วยการดูแลอย่างดีจากสโมสรต้นสังกัด ทำให้เขาฟื้นตัวและกลับมาลงเล่นอีกครั้ง

แต่การหวนคืนสนามอาชีพ อีกครั้ง “ธนพล” ยังต้องเจอด่านพิสูจน์ใจและฝีมือ เพราะขอนแก่น เอฟซี ที่มีเป้าหมายไต่ระดับ จึงเลือกใช้ กองหน้าต่างชาติเป็นเครื่องจักรสังหาร

ทำให้เขาต้องถูกปรับตำแหน่ง จากกองหน้า ถอยเป็นกลางรุก เป็นหน้าต่ำ และถูกขยับให้เป็นไปตามสภาพของทีม รวมถึงแทคติกของโค้ชจะบัญชา

 “ผมไม่ท้อใจหรือคิดว่า เป็นกองหน้าคนไทย แล้วโดนตัวต่างชาติตัดโอกาส ผมคิดว่าดีเสียอีก เพราะกองหน้าที่ของทีมล้วนเจ๋งๆ ทั้งนั้น ผมจึงใช้โอกาสนี้ เรียนวิชาลัดกับกองหน้าต่างชาติเสียเลย ทั้งการหาจังหวะ การยืนตำแหน่ง เทคติดต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเล่นฟุตบอล แม้การกลับมาลงสนามอีกครั้ง จะไม่ถูกเรียกใช้ แต่ผมไม่คิดหยุดพัฒนา โดยเฉพาะสิ่งสำคัญ คือ ตำแหน่งกองหน้าที่มีเป้าหมายคือ ทำประตู” 

แต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข่าย “ธนพล” มากนัก เมื่อเขาคิดจะหาประสบการณ์ใหม่ กับทีมต่างที่ ผ่านการลงเล่นในสนามและลีกที่ต่างออกไป

แต่การย้ายสังกัด โชคช่างไม่เข้าข้าง เพราะทีมนั้นต้องถูกระงับสิทธิการแข่งขันบ้าง ตัดออกจากรายการบ้าง และบางทีมเจอบทโหด คือ ยุบทีมไปซะอย่างนั้น ทั้งที่อีกไม่กี่วันฤดูกาลของเกมแข่งขันจะเริ่มต้น 

ซึ่งสิ่งที่เขาเจอ ถือว่า เป็นประสบการณ์ที่สอนให้ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และสอนให้เขาแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

สำหรับเคล็ดลับสำคัญ ที่เขาบอกกับตัวเอง ว่า ประสบการณ์แย่ๆ คือ ครูสอนชีวิตที่ดีที่สุด คือ การมีท้ศนคติด้านบวกอยู่เสมอ เพราะเขาบอกตัวเองเสมอว่า มาถึงจุดนี้ จากคนที่ไร้ต้นทุน ทำให้คว้ากำไร คือ สานฝันให้เป็นจริง

กับการหวนคืน ขอนแก่น เอฟซีอีกครั้ง เขาถือเป็นกลไกสำคัญ ที่พาทีมขยับขึ้นสู่ลีกที่สูงกว่า คือ ไทยลีก3 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กับความสำเร็จที่เกิดขึ้น เขาคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโว ลงเล่น 12 เกม สังหารไป 10 ประตู  แม้ในปีนั้น “กองหน้าต่างชาติ” จะถูกเลือกใช้ในเปอร์เซ็นต์มากกว่า

และการตัดสินใจจากลา “ฟุตบอล” ที่เขารัก เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เช่นกัน ที่ถือเป็นอีกประสบการณ์ที่มาจากการเรียนรู้ว่า “ความเป็นผู้ใหญ่” ต้องรับผิดชอบ 

“ผมแต่งงานกับแฟนสาวเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นจังหวะที่หมดสัญญากับขอนแก่นเอฟซี พอดี พอแต่งงาน ครอบครัวจึงทำธุระกิจเปิดร้านขายเสื้อผ้า ที่บึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น ตอนแรกต้องช่วยกัน เพราะผมไม่อยากให้แฟนเหนื่อยคนเดียว พอทางร้านเริ่มลงตัว มาคิดได้ว่า ชีวิตเราขาดหายจากอะไรไป คือ การเล่นฟุตบอล และตอนนั้น ขอนแก่น มอดินแดง ที่เพิ่งได้สิทธิเล่น ไทยลีก 4 ต้องการนักเตะ ผมเป็นคนขอนแก่น และมีชีวิตอยู่ที่นี่ จึงไม่รีรอที่จะหวนคืนสนามอีกครั้ง” 

กับความสำเร็จในช่วงเลกแรก ในนาม “กระรอกสายฟ้า” เขาซัดไป 14 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโว (คนไทย) ในลีกล่างสูงสุด

แต่เชื่อว่าเขาจะไม่หยุดแค่นี้แน่ เพราะเป้าหมายตลอดฤดูกาล นี้ คือ ทำสถิติยิง 20 ประตูอย่างต่ำ และพาทีม “กระรอกสายฟ้า” เข้าสู่รอบแชมป์เปี้ยนลีก ให้ได้

“ผมเชื่อเสมอว่า ตำแหน่งกองหน้าต้องยิงประตูให้ได้ เพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะ และสิ่งที่ผมต้องทำให้ได้มากกว่านั้น คือ แสวงหาการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง แม้ในวันที่ทีมจะชนะ หรือ ไร้ชัย ผมต้องกลับมาซ้อมให้หนักยิ่งกว่าเดิม ยึดระเบียบวินัย เพราะลีกนี้ สิ่งที่มีความหมายมากสุด คือ พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพ กับการเปิดใจยอมรับนักเตะต่างชาติ หรือนักเตะที่มีประสบการณ์เหนือกว่ายิ่งเป็นสิ่งสำคัญ”​     

สุดท้าย “ดาวซัลโว”​ลีกล่าง ฝากถึงน้องๆ ที่ยังวิ่งตามฝัน และสร้างมันให้เป็นจริงด้วยว่า

“ขอให้ ขย้น มุ่งมั่น อดทน เพราะผมยึดคำนี้มาตลอด และทำให้สม่ำเสมอ เชื่อว่าหากทำได้ตามนี้แบบไม่ลดละ ความฝันจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน เพราะโลกของฟุตบอลตอนนี้เปิดกว้างมากขึ้น อยู่ที่เราจะก้าวไปถึงหรือไม่ โดยไม่รังเกียจว่าจะอยู่ลีกล่างหรือลีกไหน เมื่อทำทุกนาทีของโอกาสให้เต็มที่ ฝันย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน” เจ้าเบส กล่าวทิ้งท้าย. 

ขอบคุณ สโมสรขอนแก่น มอดินแดง, FB ธนพล ศรีทอง
By Blacksugar

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *