• Home
  • Special Report
  • 1 เดียวจากสงขลา/ “บังไชย” ตำนานที่ยังโลดแล่น

1 เดียวจากสงขลา/ “บังไชย” ตำนานที่ยังโลดแล่น

By on June 21, 2019 0 996 Views

DST.Special Report : หลายคนอยากเห็นทีมจากในจังหวัดภาคใต้ขึ้นมาโลดแล่นบนลีกสูงสุดสักครั้ง เพื่อให้แผนที่ไทยลีก 1 มี “ด้ามขวาน” สักที หลังตลอดหลายปีมานี้ ทีมจากแดนสะตอขึ้นมาสุดได้เพียงแค่ “ลีกพระรอง”

ไม่ใช่แค่ให้ทุกภาคมี “ตัวแทน” มาฟาดฟันเพื่อให้ครบตามภูมิศาสตร์ หากแต่แลหลังเหลียวมองบรรยากาศในหลายสนามจากดินแดนภาคใต้ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทยลีก 2 ไทยลีก 3 และไทยลีก 4 คึกคัก เมามัน ไม่แพ้บางทีมบนลีกระดับบน

ไม่เพียงแค่บนลีกอาชีพ หากแต่ทีมสมัครเล่นจากศึกอเมเจอร์ลีก อย่าง “สงขลา อัสลาน ทีเอสยู” ก็มีบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจ ดังปรากฏในศึกช้าง เอฟเอ คัพ ที่พวกเขาดันทะลึ่งเข้ารอบ 32 ทีมมาได้ ซึ่งเป็นทีมเดียวจากนอกลีก ก่อนจะพ่ายให้กับนครศรี ยูไนเต็ด

หากจะมีทีมจากภาคใต้ทีมใดเคยลิ้มรสโอโซนบนลีกสูงสุดของสยาม เห็นจะเป็น “วัวชน ยูไนเต็ด” ภายใต้การบริหารของ นิพนธ์ บุญญามณี ที่ไปซื้อสิทธิ์จากบุรีรัมย์ เอฟซี เมื่อปี 2555 ก่อนที่ต่อมาอีกปีจะควบรวมกับ “สงขลา เอฟซี” ที่ตกชั้นจากดิวิชั่น 1 มาเป็น “สงขลา ยูไนเต็ด”

แต่ผลงานของ “สงขลา ยูไนเต็ด” ไม่สู้ดีนัก ประสบปัญหามากมาย กระท่อนกระแท่นอยู่ท้ายๆ ตาราง ก่อนตกชั้นในปี 2557

พูดถึงทีมฟุตบอลจาก จ.สงขลา ถือเป็นจังหวัดที่ลือลั่นเรื่องฝีเท้ามานาน ที่สำคัญ ยังเป็นทีมที่เกิดขึ้นแรกๆ พร้อมๆ กับการแข่งขันฟุตบอลโปรลีก เมื่อปี 2542

ในทัวร์นาเมนต์โปรลีก แข้งจากดินแดนวัวชน โชว์ผลงานได้เอกอุ กระทั่งมาฟาดฟันในดิวิชั่น 2 ปีแรก พวกเขาก็ทำผลงานได้อลังการ ด้วยการคว้าอันดับ 2 เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 หรือลีกพระรองในปัจจุบัน

ในช่วงปี 2552 ต้องยอมรับว่า กระแสฟุตบอลในสงขลาค่อนข้างฟีเวอร์ “สนามติณสูลานนท์” อัดแน่นไปด้วยผู้ชมและเสียงเชียร์ จนกลายเป็นอีกหนึ่งสนามที่คอบอลสารทิศอยากไปสัมผัสสักครั้ง

หลักฐานยืนยันคือ ยอดผู้ชมที่ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เกมระหว่าง สงขลา เอฟซี กับ บุรีรัมย์ เอฟซี ที่สร้างสถิติยอดผู้ชมสูงสุดตลอดกาล 36,500 คน

ทว่า จากจังหวัดที่มีทีมฟุตบอลอยู่ในลีกอาชีพมากกว่า 1 ทีม อาทิ วัวชน ยูไนเต็ด สงขลา เอฟซี หาดใหญ่ เอฟซี กลายเป็นว่า จากไทยลีก 1 ถึงไทยลีก 4 ดินแดนอันเป็นที่ตั้งของหาดสมิหลา เหลือทีมพ่อค้าแข้งอยู่แค่ทีมเดียวนั่นคือ “หาดใหญ่ ซิตี้”

เจ้าของฉายา “เลงหอนากา” หรือนักเลงหอฬิกา สัญลักษณ์ของหาดใหญ่ ที่นำมาผสมกับภาษาท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ กำลังฟาดฟันอยู่ในไทยลีก 4 โซนภาคใต้

“หาดใหญ่ ซิตี้” ถูกปลุกปั้นจากผู้ชายที่ชื่อ “ไพโรจน์ รักษ์วงศ์” ที่หลงใหลในฟุตบอล ก่อนจะส่งทีมเข้าแข่งขันในรายการอเมเจอร์ลีก กระทั่งพรวดขึ้นมาเล่นบนลีกอาชีพได้สำเร็จ

“เลงหอนากา” มีความเป็นท้องถิ่นนิยมสูง นักเตะภายในทีมเน้นแข้งและเยาวชนในพื้นที่ มีแค่ต่างชาติจากกาน่าเพียงรายเดียวเท่านั้น

นักเตะคนสำคัญของ “หาดใหญ่ ซิตี้” คือ นักเตะคนสำคัญและกัปตันคนเดียวกับ “สงขลา เอฟซี – วัวชน ยูไนเต็ด” ในวันวาน อันกลายเป็นตำนานและต้นแบบของวงการฟุตบอลสงขลาไปแล้ว นั่นคือ “บังไชย” ไชยรัตน์ หมัดศิริ ในวัย 36 ปี

ขณะที่ “ขงเบ้ง” พวกเขาก็เลือกใช้เลือดเนื้อเชื้อไขอย่าง “โค้ชล็อต” สาธิต เบ็ญโส๊ะ ชาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ที่เคยค้าแข้งกับสโมสร ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย นักเรียนไทยรุ่น 18 ปี ด้านประสบการณ์โค้ชเคยคุม ม.รัตนบัณฑิต ธนบุรี-บีจี ยูไนเต็ด ผู้ช่วยโค้ชบางกอกกล๊าส เอฟซี หาดใหญ่ เอฟซี ปัตตานี เอฟซี ตรัง เอฟซี คาเด็นซ่า สตูล ยูไนเต็ด และกลันตัน เอฟเอ ในลีกมาเลเซีย

สำหรับผลงานของ “หาดใหญ่ ซิตี้” หลังผ่าน 11 นัด พวกเขาอยู่อันดับ 4 ของตาราง มี 12 แต้ม ชนะ 3 เสมอ 3 และแพ้ถึง 5 นัด

กระนั้นเป้าหมายของ “เลงหอนากา” ก็ไม่ได้เกินตัว เพราะด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้ทีมอันมีจิตวิญญาณแห่งท้องถิ่นสูง ขอแค่อยู่รอดปลอดภัยในไทยลีก 4 ก่อน

ซึ่ง “หาดใหญ่ ซิตี้” ก็เป็นอีกหลักฐานเชิงประจักษ์หนึ่งว่า คนสงขลานี้ลุ่มหลงในกีฬาฟุตบอลชนิดไหน ไม่ว่าอยู่ลีกใด รายการใด หรือกาลเวลาผ่านไปเท่าใด

เชียร์กันออกรสเฉกเช่นเดิม มิเปลี่ยนเลย.

เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Hatyai City

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *