จาก “กองหน้า” สู่ “เอเยนต์” วันนี้ของ “ไรอัน มาร์เกวซ”

DST.Exclusive Interview : จากอดีตกองหน้าจอมพเนจร “ไรอัน มาร์เกวซ” ที่เคยผ่านค้าแข้งมาแล้วในหลายประเทศ ก่อนจะได้โอกาสมาปิดฉากชีวิตค้าแข้ง กับ “ไทย ฮอนด้า เอฟซี”

ตอนนี้ “มาร์เกวซ” ผันตัวจองกองเพฌชฆาตล่าตาข่าย มาสู่ ผู้จัดการส่วนตัวของนักฟุตบอล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “เอเยนต์” ซึ่งเป็นอาชีพที่มีเสน่ห์ เฉพาะตัวไม่เหมือนกับใคร และไม่ค่อยปรากฎตัวต่อหน้าสื่อมากนัก หากคุณไม่ใช่คนที่มชื่อเสียงจริงๆ

ล่าสุด DailySoccerThailand ได้มีโอกาสคุยกับ เอเยนต์บราซิลเลี่ยน รายนี้ อย่างเจาะลึกถึงภาพรวมของอาชีพ และความเกี่ยวข้องในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในอนาคต

DST : ขอให้คุณเล่าประวัติของคุณคร่าวๆให้เราฟังหน่อยครับ?

ไรอัน มาร์เกวซ : ผมเริ่มจาการเป็นนักเตะเยาวชนของ โบตาโฟโก ในบราซิล จากนั้นผมระหกระเหินไปหลายประเทศ ทั้งใน ฮอลแลนด์ กับ ทีมเยาวชน พีเอสวี ไฮนด์โอเฟ่น ก่อนจะมีโอกาสได้ลงเล่นทั้งใน เบลเยี่ยม ฟินแลนด์ แอลจีเรีย กาตาร์ ฮ่องกง และมาลงเอยที่ประเทศไทย กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในที่สุด ก่อนผมจะเล่นให้กับทั้ง นครราชสีมา เอฟซี และไทยฮอนด้า เมื่อผมแขวนสตั๊ด จึงกลับไปยังบราซิลเพื่อเรียนเกี่ยวกับ การเป็นเอเยนต์นักเตะ มืออาชีพ ที่ สมาคมฟุตบอลบราซิล และได้รับการรับรองจาก ฟีฟ่า

DST : ตั้งแต่คุณมาเป็นเอเยนต์ ใครเป็นผู้เล่นคนแรกของคุณที่นำเข้ามาเล่นในประเทศไทย?

ไรอัน มาร์เกวซ : ลูกค้าคนแรกของผมที่มาเล่นในประเทศไทย คือ “ริคาร์โด้ เฆซุส”, “ราฟินญ่า” (รายหลังเป็นความร่วมมือระหว่างผมกับบริษัทเอเยนต์อื่นในบราซิล),แฮร์ริสัน และ บรูโน่ คอร์เรอาร์ ผมภูมิใจในนักเตะทั้ง 4 คน มาก

“เพราะเขาเหมือนคนเปิดประตูให้ผมได้กลับมาทำงานในไทย โดยมี คุณ มาซามิ ทากิ ผู้อำนวยการกีฬา ของ ไทย ฮอนด้า เป็นผู้ให้ความไว้เนื่อเชื่อใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของหน้าที่ใหม่ของผม ก่อนที่ ไทยฮอนด้า จะได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ขณะที่ บรูโน่ คอร์เรอาร์ ที่เล่นกับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ตอนนั้น ก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกได้เช่นกัน”

DST : ตอนนี้คุณมีนักเตะในสังกัดกี่คนครับ?

ไรอัน มาร์เกวซ : ตอนนี้ นักเตะในสังกัดผมมี เรนาน โอลิเวียร่า (อาร์มี่ ยูไนเต็ด) บรูโน่ คอร์เรอาร์ (อุดรธานี เอฟซี) แฮร์ริสัย คาร์โดโซ่ เดอโอลิเวียร่า (ระยอง เอฟซี) และ มัวร์ซี่ กองหน้าคนใหม่ของ อ่างทอง เอฟซี

DST : แล้วนักเตะคนไหนที่คุณคิดว่าเขามีมูลค่าสูงที่สุด?

ไรอัน มาร์เกวซ : ผมมีนักเตะเก่งๆที่เคยเล่นในหลายประเทศทั้ง UAE กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน มอลตา และประเทศอื่นๆ แต่มันก็ยากที่จะบอกว่าใครมีมูลค่าสูงที่สุด แต่ผมว่า “ริคาร์โด เฆซุส” นี่ก็ดีอยู่ เพราะเขาได้รับข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมมาตลอด

DST : คุณมองอนาคตของวงการฟุตบอลไทยเป็นอย่างไรบ้าง นับตั้งแต่คุณมากเล่นที่ประเทศไทยตอนแรก จนถึงตอนนี้?

ไรอัน มาร์เกวซ : ตอนที่ผมยังเป็นนักเตะ ผมเห็นถึงศักยภาพการพัฒนาของไทยลีก ฟุตบอลไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการบริหารจัดการที่ดี การลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นของเจ้าของสโมสรและบริษัทเอกชน ขณะที่สภาพวดล้อมก็เอื้อฟุตบอลลีกแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับฐานแฟนบอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ความฝันของผมคือ อยากเห็นทีมชาติไทยได้ไปบอลโลก และความคาดหวังที่สำคัญสุดคือ ถ้าผู้เล่นของผม สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ผมอาจจะเปิดออฟฟิสในประเทศไทย และช่วยพัฒนาวงการฟุตบอล กับสิ่งที่สโมสรต่างๆ​ ทำมาอย่างถูกต้องคือ พัฒนานักเตะเยาวชน อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง สิ่งนี้คือการพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นทีมหัวแถวในเอเชีย และได้ไปบอลโลกในที่สุด”

DST : นักบอลบราซิลเขาต้องปรับตัวหลายอย่างหรือไม่ หากจะย้ายมาเล่นที่ไทย แล้วทำผลงานให้ได้ดี?

ไรอัน มาร์เกวซ : จริงๆ นักเตะบราซิลปรับตัวได้ง่าย และรวดเร็ว อย่างประเทศไทยสภาพอากาศก็คล้ายกับที่บราซิล ผู้คนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และเขาพูดภาษาอังกฤษได้ แต่การปรับตัวในเกมฟุตบอล ระหว่าง บราซิล กับ ไทย เป็นงานยากนิดหน่อย เพราะเกมแข่งขันสามารถพลิกไปรวดเร็ว เช่น คุณอาจนำ 3 ลูก แล้วโดนคู่แข่งยิงแซง 4 ลูกรวดก็เป็นไปได้

“ผมมองว่า การเปลี่ยนจังหวะและความเร็วมเกมของที่นี่นั้นมากกว่า ทำให้ผู้เล่นต้องโฟกัสกับเกมตลอด 90 นาที แต่เมื่อพวกเขาปรับตัวได้แล้วพวกเขาจะสามารถเล่นที่นี่ได้อีกหลายปีและประสบความสำเร็จอย่างมากมายในวงการฟุตบอลไทย”

DST : คุณคิดว่า ตอนนี้ไทยลีก ห่างชั้นกับ เจ-ลีก หรือ เค-ลีก มากไหมครับ แล้วถ้าเทียบกับลีกในตะวันออกกลางละ?

ไรอัน มาร์เกวซ : ​ เจ-ลีก และเค-ลีก เป็นบอลอีกระดับแล้ว นักเตะเล่นยากกว่าในไทยแน่นอน แต่ไทยลีก ผมว่าอยู่ระดับเดียวกับ ลีกของ ซาอุดิอาระเบีย หรือ กาตาร์ เป็นเรื่องที่ดีมาก สำหรับนักบอลไทยที่ได้ออกไปค้าแข้งนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง หลายคนย้ายไปเล่นในญี่ปุ่น หากทำได้อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานประเทศไทยจะก้าวมาเป็นประเทศหัวแถวในเอเชียได้อย่างแน่นอน.

กับการผันตัวจากผู้เล่น สู่ เอเย่นต์ แน่นอนว่า งานนี้ไม่ง่าย เพราะลำพังจะคัดเลือกนักเตะต่างชาติ ให้เข้าระบบกับ “ทีมไทย” ที่มีปัจจัยภายนอกที่ซับซ้อนและเหนือการควบคุมในเกม

ดังนั้นหาก “มาร์เกวซ” มีความฝันจะบินให้สูง เพื่อพาบอลไทยไปบอลโลก ดังนั้นเขาต้องมองให้ไกลไปกว่าแค่ สร้าง“นักเตะของตัวเองมาระดับวงการ” แต่คือ การพัฒนาทุกองคาพยพของบอลไทย ให้ตระหนักในสิ่งที่เป็นเป้าหมายร่วมกันด้วย.

By ใบไม้ห้าแฉก